แชร์

Lentils (เลนทิล)

ในยุคสมัยที่มนุษย์เริ่มเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตแบบเร่ร่อนและล่าสัตว์ มาตั้งถิ่นฐานเพื่อสร้างอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ เลนทิล (Lentils) ถือเป็นพืชตระกูลถั่วชนิดแรก ๆ ที่ได้รับการเพาะปลูกเพื่อเป็นเสบียงอาหาร มีหลักฐานค้นพบการใช้ถั่วเลนทิลในครัวเรือนเมื่อ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล บริเวณริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรตีส ซึ่งปัจจุบันอยู่ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย

ประวัติศาสตร์เลนทิล: มุมมองที่แตกต่างในอารยธรรมโบราณ

เมื่อ 6,000 ปีก่อนคริสตกาล ถั่วเลนทิลได้เดินทางมาถึงกรีก ซึ่งมีการค้นพบร่องรอยของเมล็ดถั่วท่ามกลางซากปรักหักพังของแหล่งโบราณคดี ตามประวัติศาสตร์ ชาวกรีกมองว่าถั่วเลนทิลเป็นอาหารสำหรับชนชั้นล่าง ซึ่งสะท้อนถึงความเรียบง่ายและเข้าถึงง่ายของพืชชนิดนี้ในสังคมของพวกเขา

แต่ในทางตรงกันข้าม ชาวอียิปต์โบราณกลับถือว่าถั่วเลนทิลเป็นอาหารสำหรับคนร่ำรวยและมีอำนาจ เพราะมักจะมีการค้นพบถั่วเลนทิลในสุสานของราชวงศ์อียิปต์ ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญและคุณค่าที่สูงส่งในยุคนั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ประวัติศาสตร์ของแต่ละอารยธรรมจะมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับถั่วเลนทิล แต่ท้ายที่สุด เมื่อเวลาผ่านไป ถั่วเลนทิลก็กลายเป็นอาหารอันโอชะสำหรับคนทุกกลุ่ม ถูกมองว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าที่ให้ชีวิตแก่มนุษย์ จนเกิดเป็นวลีที่น่ารักและมีความหมายว่า Lentil keeps your heart happy! หรือที่หมายความว่า ถั่วเลนทิลทำให้หัวใจมีความสุข

เลนทิลในอินเดีย: แหล่งสารอาหารสำคัญของประชากรครึ่งโลก

เมื่อ 2,500 ปีก่อนคริสตกาล ถั่วเลนทิลได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศอินเดีย กล่าวกันว่าชาวอินเดียมีการบริโภคถั่วเลนทิลประมาณครึ่งหนึ่งของโลก ซึ่งปัจจุบันมีการเพาะปลูกมากกว่า 50 สายพันธุ์ มีหลายขนาดและหลายสีสัน ตั้งแต่สีดำ เขียว เหลือง แดง และน้ำตาล ในอาหารอินเดียแบบดั้งเดิมเกือบทุกมื้อจะต้องมีเมนูที่ทำจากถั่วเลนทิลอย่างน้อยหนึ่งจาน เพราะถั่วเลนทิลเป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญและราคาไม่แพง

คุณประโยชน์ทางโภชนาการ: ทางเลือกเพื่อสุขภาพ

ถั่วเลนทิลอุดมไปด้วยวิตามินบี แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และสังกะสี ที่สำคัญคือ ปราศจากไขมันและคอเลสเตอรอล และมีโปรตีนสูงเป็นอันดับสองในบรรดาพืชตระกูลถั่วทั้งหมด รองจากถั่วเหลือง ด้วยปริมาณโปรตีนที่สูงนี้ ทำให้ถั่วเลนทิลมักจะถูกนำมาใช้ทดแทนเนื้อสัตว์ในอาหารมังสวิรัติและอาหารวีแกน เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์แต่ยังคงได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอ

การแพร่กระจายและความนิยมทั่วโลก

ทุกวันนี้ ความนิยมของถั่วเลนทิลไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในตะวันออกกลางและอนุทวีปอินเดีย แต่เริ่มแพร่กระจายไปยังทวีปต่าง ๆ ทั้งเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาผ่านเส้นทางการค้าและการสำรวจ ในอเมริกา การปลูกถั่วเลนทิลได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากสมาคม USA Dry Pea & Lentil Council (USADPLC) ซึ่งสมาคมนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกถั่วเลนทิลของสหรัฐอเมริกาไปยังตลาดต่างประเทศ ทำให้ทุกวันนี้สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกถั่วรายใหญ่ของโลก

ในยุคสมัยใหม่ ถั่วเลนทิลไม่ได้เข้ามามีบทบาทแค่ในอาหารแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังอยู่ในเทรนด์การทำอาหารร่วมสมัยด้วย เพราะมีความอเนกประสงค์สูง สามารถใช้เป็นส่วนประกอบหลักในอาหารมังสวิรัติและอาหารเจได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ คุณค่าทางโภชนาการของถั่วเลนทิลยังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและนักโภชนาการอีกด้วย เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพแทนแหล่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์

ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม: พืชที่ยั่งยืน

ถั่วเลนทิลไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับว่ามีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เพราะเป็นพืชที่ช่วยตรึงไนโตรเจนในดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ และช่วยลดการใช้ปุ๋ยสังเคราะห์ ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นทางเลือกในการปลูกพืชที่ยั่งยืน นับได้ว่าเลนทิลเป็นพืชที่มอบทั้งคุณค่าทางอาหารและเป็นมิตรต่อโลกของเราอย่างแท้จริง

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Jerky (เจอร์กี้)
ทำความรู้จัก Jerky (เจอร์กี้) จากอาหารที่เก็บไว้ทานเพื่อความอยู่รอด สู่ยุคที่เราอยู่รอดแต่ก็ยังอยากทาน
Margherita (มาร์การิตา)
ทำความรู้จัก Margherita (มาร์การิตา) ต้นกำเนิดพิซซ่าสมัยใหม่ถาดแรกของโลก
Poutine (ปูทีน)
ชวนรู้จัก Poutine (ปูทีน) มันฝรั่งทอดสไตล์แคนาดา
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ