แชร์

การจุ่มคุกกี้ลงในนม

จากคุกกี้และนม สู่ธรรมเนียมการกินที่อบอุ่นใจ

การจุ่มคุกกี้ในนมอาจดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังธรรมเนียมนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมการกินในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งยังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจซ่อนอยู่

ก่อนที่เราจะพูดถึง การจุ่มคุกกี้ในนม อย่างเฉพาะเจาะจง เราควรทำความเข้าใจต้นกำเนิดของทั้งสองสิ่งนี้ก่อน

จุดเริ่มต้นของคุกกี้ และนมในวัฒนธรรมมนุษย์

คำว่า คุกกี้ (Cookie) มีรากศัพท์มาจากภาษาดัตช์ว่า Koekje ซึ่งหมายถึง เค้กชิ้นเล็ก คุกกี้ในยุคกลางของยุโรปนั้นมีลักษณะแข็งและทนทาน นิยมรับประทานเป็นของว่างในกลุ่มชนชั้นกลาง และมักเป็นอาหารพกพาสำหรับการเดินทางไกล

ส่วน นม นั้นมีบทบาทในชีวิตมนุษย์มาตั้งแต่อารยธรรมโบราณ ไม่ว่าจะเป็นชาวอียิปต์ ชาวกรีก หรือชาวโรมัน นมถือเป็นเครื่องดื่มหลักของครอบครัว นอกจากใช้ดื่ม ยังถูกนำไปใช้ทำขนมปัง ขนมหวาน และผลิตภัณฑ์นมต่าง ๆ เช่น เนย ชีส และโยเกิร์ต

การจุ่มของกินในของเหลว ธรรมเนียมที่เก่าแก่กว่าที่คิด

แม้การจุ่มคุกกี้ในนมจะดูเป็นพฤติกรรมร่วมสมัย แต่หากย้อนไปในประวัติศาสตร์ เราจะพบว่าการจุ่มของกินลงในของเหลวนั้น เป็นธรรมเนียมดั้งเดิมของชาวโรมันโบราณ พวกเขานิยมจุ่มขนมปังลงใน ไวน์ หรือ น้ำผึ้ง เพื่อให้ขนมปังนุ่มขึ้นและเพิ่มรสชาติ

ในยุคกลางของยุโรป ขนมอบ เช่น คุกกี้ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเก็บไว้ได้นานและพกพาสะดวก แต่เนื่องจากคุกกี้ยุคแรกมักมีเนื้อแข็ง การจุ่มลงในของเหลวจึงกลายเป็น วิธีช่วยทำให้เนื้อคุกกี้นุ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนม ชา หรือไวน์

จากธรรมเนียมในยุโรป สู่ความนิยมระดับชาติในสหรัฐฯ


ในศตวรรษที่ 20 การจุ่มคุกกี้ในนมเริ่มเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะใน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งธรรมเนียมนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมครอบครัว

ปี 1912 บริษัท National Biscuit Company หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Nabisco ได้เปิดตัวคุกกี้ Oreo ซึ่งเป็นคุกกี้แซนด์วิชไส้ครีมที่กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว

ต่อมาในปี 1923 Nabisco ได้เปิดตัวแคมเปญโฆษณาในตำนานภายใต้สโลแกน
Twist, Lick, Dunk หรือ บิด ชิมครีม จุ่มนม
โดยสนับสนุนให้ผู้บริโภคบิดคุกกี้ออกจากกัน ชิมไส้ครีม และจุ่มลงในนมก่อนรับประทาน เพื่อเพิ่มอรรถรส

แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ การจุ่มคุกกี้ในนม กลายเป็นวัฒนธรรมการกินแบบใหม่ที่สนุกและเข้าถึงทุกวัย

วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความฟิน

การจุ่มคุกกี้ในนมนั้นไม่ได้เป็นเพียงพฤติกรรมทางอารมณ์หรือความเคยชิน แต่ยังมีหลักการทางวิทยาศาสตร์รองรับด้วย

คุกกี้มีโครงสร้างที่พรุน (Porous structure) ซึ่งสามารถดูดซึมของเหลวได้ดี เมื่อนำไปจุ่มในนม นมจะซึมเข้าสู่เนื้อคุกกี้ ทำให้เนื้อสัมผัส นุ่มขึ้น และรสชาติของคุกกี้กลายเป็น กลมกล่อม ไม่หวานเลี่ยน จนเกินไป

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยบางชิ้นที่อธิบายว่าความเปลี่ยนแปลงในเนื้อสัมผัสนี้เป็นหนึ่งใน ปัจจัยทางประสาทสัมผัส ที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการรับประทาน

จาก Oreo สู่คุกกี้ทุกชนิด และการทดลองใหม่ ๆ

แม้ว่า Oreo จะเป็นคุกกี้ที่ผลักดันธรรมเนียมนี้จนกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมสมัย แต่ในปัจจุบัน การจุ่มคุกกี้ในนมไม่ได้จำกัดเฉพาะแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง คุกกี้หลากหลายชนิด ตั้งแต่ช็อกโกแลตชิพ ชอร์ตเบรด ไปจนถึงบิสกิตแบบอังกฤษ ต่างก็สามารถนำมาจุ่มในนมเพื่อเพิ่มความอร่อยได้ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่หันมาทดลอง จุ่มคุกกี้ในเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น กาแฟ ชา หรือแม้แต่ช็อกโกแลตร้อน เพื่อค้นหารสชาติและประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการรับประทาน


ไม่ว่าคุณจะจุ่มคุกกี้แบบคลาสสิก หรือจะสร้างสรรค์สูตรใหม่ของคุณเอง อย่าลืมว่า... ความสุขเริ่มต้นได้ง่าย ๆ แค่มีคุกกี้ และนมดี ๆ สักแก้ว
สามารถหาซื้อนมสด และคุกกี้คุณภาพหลากหลายชนิดได้ที่ ริมปิงทุกสาขานะคะ

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Piña Colada
Piña Colada – ค็อกเทลแห่งฤดูร้อนจากเปอร์โตริโกที่โลกหลงรัก
Morir Soñando
Morir Soñando – ความหอมหวานจากน้ำส้มและนมที่ชวนฝัน
Oat Milk
Oat Milk – จากข้าวโอ๊ตธรรมดา สู่นมพืชที่ครองใจคนทั้งโล
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ