แชร์

Ben & Jerry's (เบนแอนด์เจอร์รีส์)

อัพเดทล่าสุด: 10 มิ.ย. 2025

Ben & Jerry's (เบนแอนด์เจอร์รีส์) คือ บริษัทไอศกรีมชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 หรือเมื่อประมาณ 46 ปีที่แล้ว โดย Ben Cohen (เบน โคเฮน) และ Jerry Greenfield (เจอร์รี กรีนฟิลด์) วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวของแบรนด์ไอศกรีมที่มีเอกลักษณ์ทั้งรสชาติและหัวใจเพื่อสังคมนี้กันค่ะ

จุดเริ่มต้นของสองเพื่อนซี้ : จากความล้มเหลวสู่ไอเดียหวาน (ค.ศ. 1978)

Ben และ Jerry เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ โดยหลังจากเรียนจบมัธยมปลาย ทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปทำตามความฝัน ซึ่ง Ben ก็เข้าเรียนในวิทยาลัยหลายแห่งแต่เขาก็ไม่เคยประสบความสำเร็จในการศึกษาเลย ขณะเดียวกัน Jerry ที่เรียนต่อในหลักสูตรเตรียมแพทย์ก็ล้มเหลวเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ในปี 1978 ขณะนั้นพวกเขาอายุ 20 ปี ทั้งคู่ก็ตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน โดยในตอนแรกพวกเขาตั้งใจจะเปิดร้านเบเกิล แต่ก็ต้องล้มเลิกความคิดไป เพราะต้นทุนของอุปกรณ์ต่างๆ นั้นค่อนข้างสูง จากนั้นพวกเขาจึงเปลี่ยนใจไปเรียนหลักสูตรการทำไอศกรีมที่มหาวิทยาลัย Pennsylvania State แทน

ปั๊มน้ำมันเก่า สู่ร้านไอศกรีมโฮมเมดแห่งแรก (ค.ศ. 1978)

หลังจากเรียนจบหลักสูตร พวกเขาก็เริ่มมองหาสถานที่สำหรับเปิดร้านไอศกรีม จนไปพบกับปั๊มน้ำมันเก่าแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมือง เบอร์ลิงตัน รัฐเวอร์มอนต์ (Burlington, Vermont) จากนั้นพวกเขาจึงทำการปรับปรุงปั๊มน้ำมันด้วยเงินลงทุน 12,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 439,356 บาท) ทำเป็นร้านไอศกรีมโฮมเมดแห่งแรกตั้งชื่อว่า Ben & Jerry's ตามชื่อของพวกเขา

ไอศกรีมของ Ben & Jerrys มีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม โดยรสชาติแรกที่วางจำหน่ายในร้านคือ Chocolate Chip Cookie Dough ซึ่งจะอัดแน่นไปด้วยช็อกโกแลตชิ้นโตเต็มคำซ่อนอยู่ในไอศกรีมด้วย

การทำไอศกรีมที่มีรสชาติเข้มข้น และเครื่องแน่นแบบนี้ เกิดจากปัญหาด้านสุขภาพของ Ben เนื่องจากเขามีปัญหาด้านการรับรส และกลิ่นที่ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้น Jerry จึงตั้งใจที่จะผลิตไอศกรีมที่ทำให้ Ben สามารถรับรู้ถึงรสชาติ และเนื้อสัมผัสได้เป็นอย่างดี สิ่งนี้จึงนำไปสู่การสร้างสรรค์ไอศกรีมที่มีรสชาติเข้มข้น และมีเครื่องแน่นจนเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คนนั่นเอง

จากร้านเล็กๆ สู่ปรากฏการณ์ระดับประเทศ (ค.ศ. 1979 - 1981)

หลังจากเปิดกิจการ ร้านไอศกรีมของทั้งคู่ก็ขายดีเป็นอย่างมาก ผู้คนทั้งในเมือง และนอกเมืองต่างก็แวะเวียนมาที่ร้านของพวกเขา โดยในตอนแรกพวกเขาจะขายไอศกรีมในรูปแบบของสกู๊ปใส่ถ้วยหรือโคนเท่านั้น หากจะทานไอศกรีมของพวกเขาลูกค้าจะต้องเดินทางมาที่ร้านเท่านั้น

ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1979 Ben & Jerrys เฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งปีของการเปิดร้าน โดยจัดงาน วันไอศกรีมโคนฟรี (Free Cone Day) ขึ้นมาเป็นครั้งแรก โดยในวันนี้พวกเขาจะแจกไอศกรีมฟรีสำหรับทุกคนตลอดทั้งวัน (ปัจจุบันทุกวันครบรอบพวกเขาก็ยังคงแจกไอศกรีมฟรีแบบนี้ทั่วโลก)

ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปี 1980 Ben เกิดไอเดียนำไอศกรีมไปบรรจุลงใน ถ้วยไพนต์ (Pint) เพื่อให้พวกเขาสามารถนำไอศกรีมไปฝากขายตามร้านขายของชำต่างๆ ได้ นอกจากนี้การขายไอศกรีมแบบถ้วยไพนต์ ยังทำให้พวกเขาสามารถขายไอศกรีมในปริมาณมาก และราคาที่สูงขึ้นได้อีกด้วย

ต่อมาในปี 1981 Ben & Jerrys ก็เริ่มขยายแฟรนไชส์ไปยังเมืองรอบๆ โดยเปิดแฟรนไชส์แรกในเมือง เชลเบิร์น รัฐเวอร์มอนต์ (Shelburne, Vermont) ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม นี่จึงเป็นการปูทางสู่การเป็นแบรนด์ไอศกรีมอันดับหนึ่งของประเทศ

มากกว่าแค่ไอศกรีม : การอุทิศตนเพื่อสังคม

สิ่งที่ทำให้ Ben & Jerry's แตกต่างจากคู่แข่งคือแนวทางการสร้างสรรค์รสชาติ และ การอุทิศตนเพื่อสังคม โดยเริ่มตั้งแต่เรื่องของวัตถุดิบอย่าง วานิลลา, ช็อกโกแลต และกาแฟ ซึ่งบริษัทกำหนดเอาไว้ว่าวัตถุดิบเหล่านี้จะต้องมีใบรับรอง Fair Trade (การค้าที่เป็นธรรม) เท่านั้นถึงจะสามารถนำมาผลิตไอศกรีมของ Ben & Jerrys ได้ ซึ่งสาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้ก็เป็นเพราะทางแบรนด์ต้องการมั่นใจว่าวัตถุดิบที่ซื้อมาจะไม่มีการเอาเปรียบหรือกดราคาเหล่าเกษตรกรที่เป็นผู้เพาะปลูกวัตถุดิบเหล่านี้

นอกจากนี้ที่มาของบราวนี่ในไอศกรีม Ben & Jerrys ก็ถูกผลิตโดย Greyston Bakery ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตเบเกอรีที่อยู่ภายใต้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง Greyston โดยองค์กรนี้มีนโยบายเปิดรับสมัครพนักงาน โดยไม่ต้องส่งประวัติใดๆ เพื่อเปิดโอกาสให้กับทุกคนในสังคมสามารถเข้าทำงานที่นี่ได้ ดังนั้นการที่ Ben & Jerrys สั่งซื้อบราวนี่จากที่นี่ก็จะช่วยให้คนเหล่านี้มีรายได้ และไม่เป็นภาระในสังคม

ในปี 1985 พวกเขาได้ก่อตั้ง มูลนิธิ Ben & Jerry's ขึ้นมา โดยอุทิศกำไร 7.5% ก่อนหักภาษี เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับโครงการช่วยเหลือสังคม โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในฐานะบริษัทที่ใส่ใจปัญหาสังคมอย่างลึกซึ้ง

นอกจากนี้พวกเขายังสนับสนุนประเด็นต่างๆ ทางสังคมผ่านไอศกรีมรสชาติต่างๆ อีกด้วย เช่น สนับสนุนสิทธิของ LGBTQ+ ผ่านไอศกรีมรสชาติ Empower Mint และในปี 2009 บริษัทยังร่วมมือกับ Freedom to Marry (องค์กรที่อุทิศตนเพื่อชัยชนะในการแต่งงานสำหรับคู่รักเพศเดียวกันในสหรัฐอเมริกา) โดยเปลี่ยนชื่อไอศกรีมรสชาติ Chubby Hubby มาเป็น Hubby Hubby ชั่วคราว เพื่อเฉลิมฉลองการแต่งงานของคนเพศเดียวกันที่ถูกต้องตามกฎหมายในรัฐเวอร์มอนต์ อีกทั้งยังเปลี่ยนแพ็คเกจของรสชาตินี้ให้มีรูปชายสองคนแต่งงานกันติดอยู่หน้ากล่องอีกด้วย

การเติบโตระดับโลกภายใต้ Unilever (ค.ศ. 2000 - ปัจจุบัน)

ในปี 2000 Ben & Jerrys ถูกซื้อกิจการโดย Unilever (ยูนิลีเวอร์) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหารข้ามชาติของอังกฤษ แต่ทั้งนี้ผู้ก่อตั้งทั้งสองคนก็ยังคงทำงานอยู่ในบริษัท และภายใต้การดูแลของ Unilever Ben & Jerry's ก็ยังคงมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยบริษัทเริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศทั้งยุโรป เอเชีย และอเมริกาใต้ (ปัจจุบันส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก)

ปัจจุบัน Ben & Jerrys กลายเป็นแบรนด์ไอศกรีมที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ถึงแม้จะถูกบริหารโดย Unilever แต่บริษัทก็ยังคงยึดมั่นในรากฐานการผลิต และแนวทางการบริหารที่มีมาอย่างยาวนาน พวกเขายังคงผลิตไอศกรีมรสชาติที่หลากหลาย (ปัจจุบันมีมากกว่า 60 รสชาติ) โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงมาโดยตลอด

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
ME CARE (มีแคร์)
ทำความรู้จัก ME CARE แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของประเทศไทย ที่มีมาตรฐานการผลิตจากประเทศเยอรมนี
Wisconsin Chees (วิสคอนซินชีส)
ทำความรู้จัก Wisconsin Cheese ชีสคุณภาพจากรัฐวิสคอนซิน ชีสที่ผลิตใน Americas Dairyland ดินแดนแห่งนมและชีสของสหรัฐอเมริกา
Phillips Foods (ฟิลลิปส์ ฟู้ดส์)
ทำความรู้จัก Phillips Foods (ฟิลลิปส์ ฟู้ดส์) แบรนด์อาหารทะเลที่โดดเด่นด้วยคุณภาพเนื้อปูระดับโลก
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ