แชร์

Balsamic Pearls (บัลซามิก เพิร์ล)

Balsamic Pearls (บัลซามิก เพิร์ล) เป็นหนึ่งในผลงานอันล้ำเลิศจากเทคนิค Molecular Gastronomy ที่เชฟได้รังสรรค์น้ำส้มสายชูบัลซามิกให้กลายเป็นไข่มุกเม็ดจิ๋ว เมื่อกัดเข้าไป รสชาติเปรี้ยวอมหวานของน้ำส้มสายชูบัลซามิกจะไหลทะลักออกมา เกิดจากการนำเทคนิคทางวิทยาศาสตร์มาผสานอย่างลงตัวกับศาสตร์แห่งการปรุงอาหาร จนนำไปสู่การยกระดับอาหารให้มีความสวยงาม และแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น

น้ำส้มสายชูบัลซามิก: ต้นกำเนิดและความพิเศษ

น้ำส้มสายชูบัลซามิก (Balsamic Vinegar) เป็นส่วนผสมที่เชฟทั่วโลกนิยมนำมาใช้ในการปรุงอาหารมานานหลายศตวรรษ มีต้นกำเนิดมาจาก เมืองโมเดนา ประเทศอิตาลี น้ำส้มสายชูชนิดนี้ผลิตมาจากองุ่นแดง หมักในถังไม้โอ๊กเป็นเวลาหลายปี มักจะมีสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ โดดเด่นในเรื่องของรสชาติเปรี้ยวอมหวาน กลมกล่อม หอมกลิ่นไม้โอ๊ก แตกต่างจากน้ำส้มสายชูชนิดอื่นๆ ที่มีรสชาติเปรี้ยว และมีกลิ่นฉุน ด้วยเหตุนี้เชฟทั่วโลกจึงมักใช้น้ำส้มสายชูบัลซามิกในการปรุงอาหาร

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้ำส้มสายชูบัลซามิกรูปแบบดั้งเดิมจะเป็นส่วนผสมยอดนิยมของเชฟทั่วโลกอยู่แล้ว แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ทำให้น้ำส้มสายชูบัลซามิกมีความน่าสนใจขึ้นมาอีกขั้น โดยการสร้างสรรค์น้ำส้มสายชูบัลซามิกในรูปแบบไข่มุกที่เรียกว่า Balsamic Pearls

Balsamic Pearls: ผลลัพธ์จากเทคนิค Spherification

การสร้างสรรค์ Balsamic Pearls เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ในการทำอาหารของเชฟสมัยใหม่ที่นำเอาเทคนิคทางวิทยาศาสตร์มาปรับใช้กับศาสตร์แห่งการปรุงอาหาร ซึ่งเทคนิคนี้ได้แนวทางมาจาก Ferran Adrià (เฟอร์รัน อาเดรีย) แห่งร้าน El Bulli ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้คิดค้นเทคนิคนี้ขึ้นมาเรียกว่า เทคนิคการทำสเฟียร์ (Spherification) หรือ Faux Caviar

กระบวนการทำ Balsamic Pearls เกิดจากการห่อหุ้มน้ำส้มสายชูบัลซามิกไว้ภายในเยื่อที่ละเอียดอ่อน ทำได้โดยการเติม ผงโซเดียมอัลจิเนต (Sodium Alginate) ซึ่งเป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ได้จากสาหร่ายทะเล จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับผงวุ้นและเจลาติน ลงในน้ำส้มสายชูบัลซามิก จากนั้นก็นำมาหยดด้วยเข็มฉีดยาหรือหลอดหยดลงในน้ำที่ผสม เกลือแคลเซียม เมื่อโซเดียมอัลจิเนตผสมกับแคลเซียมแล้วก็จะค่อยๆ กลายเป็นเจลห่อหุ้มจากผิวด้านนอกเข้าไป จนกลายเป็นเม็ดกลมๆ คล้ายกับไข่มุก

การทำ Balsamic Pearls โซเดียมอัลจิเนต และแคลเซียมจะไม่เข้าไปเปลี่ยนแปลงรสชาติของส่วนผสม ดังนั้นน้ำส้มสายชูบัลซามิกที่ถูกทำให้เป็น Balsamic Pearls จึงมีรสชาติเข้มข้นตามแบบดั้งเดิม ซึ่งวิธีการนี้นอกจากจะทำให้อาหารมีความน่าสนใจมากขึ้นแล้ว ยังช่วยทำให้น้ำส้มสายชูบัลซามิกที่เป็นของเหลวไม่เข้าไปผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ในจาน แต่เมื่อตักขึ้นมาแล้วกัดก็จะละลายในปากแทน ทำให้ได้รสชาติของน้ำส้มสายชูบัลซามิกแบบเต็มปากเต็มคำ

การประยุกต์ใช้ในวงการอาหาร

Balsamic Pearls กลายเป็นส่วนผสมที่เชฟใช้ยกระดับอาหาร ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มรสชาติและรูปลักษณ์ที่สวยงามให้กับอาหารได้หลากหลาย เหมาะสำหรับปรุงรสสลัด หรืออาหารเรียกน้ำย่อย เช่น คาเปร์เซ่สลัด (Caprese) ท็อปบนริซอตโต้ครีม พาสต้า หรือเสิร์ฟพร้อมบูราต้าชีสและมะเขือเทศก็เข้ากันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเมนูคาวหรือหวาน Balsamic Pearls ก็ช่วยสร้างมิติใหม่ให้กับรสชาติและประสบการณ์การรับประทานอาหารได้อย่างน่าประทับใจ

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
เนื้อวัวเลี้ยงด้วยธัญพืช และเนื้อวัวเลี้ยงด้วยหญ้า
ความแตกต่างระหว่างเนื้อวัวเลี้ยงด้วยธัญพืช (Grain-fed) และเนื้อวัวเลี้ยงด้วยหญ้า (Grass-fed)
Sichuan pepper (พริกไทยเสฉวน)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ พริกไทยเสฉวน (Sichuan pepper) หรือ ฮวาเจียว (花椒) เครื่องเทศยอดนิยมในอาหารจีน
Escargot (แอ็สการ์โก)
ทำความรู้จัก Escargot (แอ็สการ์โก) เมนูหอยทากยอดนิยมของชาวฝรั่งเศส
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ