Goulash (กูลาช)
ฮังการีเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในยุโรปกลาง ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ดังนั้นอาหารฮังการีส่วนใหญ่รวมถึง Goulash (กูลาช) จึงนิยมใช้เนื้อสัตว์ อย่างเช่น เนื้อวัว และเนื้อแกะ ในการประกอบอาหาร โดยจะมีรสชาติเข้มข้น หอมกรุ่น มาจากการใช้เครื่องเทศอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น ปาปริก้า ออริกาโน่ โรสแมรี่ และใบกระวาน วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปทำความรู้จักกับสตูว์เนื้ออันโด่งดังจากฮังการีจานนี้กันค่ะ
Goulash จากอาหารคนเลี้ยงสัตว์ สู่เมนูประจำชาติฮังการี
Goulash เป็นสตูว์เนื้อวัวของชาวฮังกาเรียนที่มีต้นกำเนิดมาจาก คนเลี้ยงสัตว์ Magyar (มาจาร์) ในศตวรรษที่ 9 โดยชื่อของ Goulash นั้นมาจากคำว่า Gulyás (กูยาส) ในภาษาฮังการี ซึ่งหมายถึง คนเลี้ยงสัตว์ หรือ คาวบอย
ในอดีต คนเลี้ยงสัตว์เหล่านี้มักจะปรุงอาหารที่เรียบง่ายแต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพื่อให้พลังงานและความอบอุ่นกลางแจ้ง โดยจะนำ เนื้อวัว มาตุ๋นให้นุ่มพร้อมกับ หัวหอมและปาปริก้า ในหม้อต้มเหล็กขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนกองไฟ (cauldron) ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและปรุงได้ครั้งละมากๆ
เมื่อเวลาผ่านไป Goulash ก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านการทำอาหาร มีการนำส่วนผสมและเทคนิคใหม่ๆ มาใช้ เช่น การเพิ่ม พริกหยวก แครอท และมันฝรั่ง ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้ช่วยเพิ่มรสชาติ ความหวานตามธรรมชาติ และเนื้อสัมผัสที่แปลกใหม่ให้กับ Goulash จนนำไปสู่สูตรที่ใกล้เคียงกับที่เราทุกคนรู้จักและชื่นชอบในปัจจุบัน
การแพร่หลายและหลากหลาย : Goulash ในระดับโลก
ในศตวรรษที่ 19 เมื่อผู้อพยพชาวฮังการีเริ่มเดินทางไปทั่วยุโรป พวกเขาก็นำสูตรสตูว์เนื้อวัวอันเป็นที่รักติดตัวไปด้วย จากนั้นก็เริ่มแนะนำให้กับชาวเมืองในพื้นที่อื่นๆ รู้จัก เช่น ออสเตรีย เยอรมนี และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ทำให้ Goulash กลายเป็นที่รู้จักและนิยมอย่างรวดเร็ว
ในเวลาต่อมา Goulash ก็ได้รับการดัดแปลงให้มีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละประเทศก็จะเพิ่มเอกลักษณ์และรสชาติของตัวเองลงไป:
- ในออสเตรีย: จะมีรูปแบบที่เรียกว่า Gulaschsuppe (กูลาชซุปเพอ) ซึ่งมักจะมีลักษณะเป็นซุปที่ใสกว่า และนิยมเสิร์ฟพร้อมเกี๊ยวแป้ง (Nockerl) หรืออาหารจำพวกเส้น
- ในเยอรมนี: ก็จะมีรูปแบบที่เรียกว่า Gulasch มักจะผสม เมล็ดยี่หร่าและครีมเปรี้ยว ลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความหอม ความเข้มข้น และรสสัมผัสที่แตกต่าง
นอกเหนือจากยุโรปแล้ว Goulash ยังเป็นที่รู้จักใน สหรัฐอเมริกา ด้วย โดยได้รับความนิยมในครัวเรือนแถบ มิดเวสต์ (Midwest) ซึ่งได้รับการดัดแปลงให้มีความแปลกใหม่มากขึ้น มีการเพิ่ม เนื้อบด มักกะโรนี และซอสมะเขือเทศ ลงไป และชาวอเมริกันมักเรียกกันว่า American Goulash (อเมริกัน กูลาช) ซึ่งเป็นสตูว์แบบง่ายๆ ที่ทำในหม้อเดียว
Goulash ในศตวรรษที่ 21 : มรดกทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน
ในศตวรรษที่ 21 Goulash ยังคงดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบอาหารทั่วโลก และกลายเป็น มรดกทางวัฒนธรรม ที่สำคัญยิ่งในฮังการี รัฐบาลฮังการีเองได้ตระหนักถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมของ Goulash และได้ยื่นคำร้องต่อ UNESCO เพื่อให้ Goulash ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage) ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความสำคัญของอาหารจานนี้ในฐานะสัญลักษณ์ของเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ของชาติ