แชร์

Hippocras (ฮิปโปคราส)

ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน เครื่องดื่มชนิดต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทโดดเด่นตามแต่ละยุคสมัย ซึ่งนับตั้งแต่สมัยกรีกและโรมันโบราณ ได้เริ่มมีการพัฒนาเครื่องดื่มชนิดใหม่ขึ้นมานั่นก็คือ Hippocras (ฮิปโปคราส) ทั้งนี้เนื่องจากน้ำในสมัยนั้นมักจะปนเปื้อนด้วยเชื้อโรค การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีและปลอดภัยในยุคนั้น วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวของเครื่องดื่มโบราณอันน่าสนใจนี้กันค่ะ

Hippocras คืออะไร?

Hippocras (ฮิปโปคราส) เป็นเครื่องดื่มที่ทำจาก ไวน์ผสมน้ำผึ้ง สมุนไพร และเครื่องเทศ เช่น อบเชย (Cinnamon) กานพลู (Clove) ขิง (Ginger) และลูกจันทน์เทศ (Nutmeg) ซึ่งมอบรสชาติที่ซับซ้อน หอมหวาน และมีกลิ่นอายของเครื่องเทศ เชื่อกันว่าถูกคิดค้นขึ้นมาโดย ฮิปโปเครติส (Hippocrates) แพทย์ชาวกรีกผู้โด่งดัง หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม บิดาแห่งการแพทย์

วัตถุประสงค์และการแพร่หลายในยุคแรก

ในอดีต Hippocras ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อ วัตถุประสงค์ทางการแพทย์ ในการรักษาโรค ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถช่วยในการย่อยอาหาร กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จนกระทั่งในช่วงที่น้ำเปล่าเริ่มมีเชื้อโรคปนเปื้อน ผู้คนจึงเริ่มนำเครื่องดื่มชนิดนี้มาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้เริ่มกลายเป็นที่รู้จักไปอย่างแพร่หลาย สูตรที่เก่าแก่ที่สุดถูกค้นพบในตำราอาหารของชาวโรมันในศตวรรษที่ 4 ชื่อ Apicius De Re Coquinaria (เด เร โคควินาเรีย) ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันการมีอยู่ของ Hippocras ในยุคนั้น

Hippocras ในยุคกลาง: เครื่องดื่มสำหรับชนชั้นสูง

ต่อมาในช่วง ยุคกลางของยุโรป Hippocras ก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในกลุ่มชนชั้นสูงและนักบวช มักเสิร์ฟในงานเลี้ยงฉลอง งานสังสรรค์ และงานทางศาสนา ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างสูงในเรื่องรสชาติที่แปลกใหม่และสรรพคุณทางยา มักเสิร์ฟหลังมื้ออาหารเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร โดยในยุคนี้มีการค้นพบสูตร Hippocras ในหนังสืออังกฤษช่วงศตวรรษที่ 14 ชื่อ The Forme of Cury

ในช่วงเวลานี้ การเตรียม Hippocras ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง โดยก่อนเสิร์ฟจะต้องกรองเอาเครื่องเทศต่างๆ ออกให้หมด จากนั้นจะเสิร์ฟในภาชนะที่หรูหราเพื่อยกระดับของเครื่องดื่มในงานเลี้ยงต่างๆ ของราชวงศ์ นอกจากนี้ ในช่วงยุคกลาง Hippocras ยังได้รับการพัฒนาให้มีสูตรที่หลากหลาย โดยมีการนำเครื่องเทศชนิดอื่นๆ มาทดลองอีกด้วย เพื่อสร้างสรรค์รสชาติใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์

ก้าวข้ามพรมแดนสังคมและวัฒนธรรม

เมื่อเวลาผ่านไป Hippocras ก็ก้าวข้ามขอบเขตทางสังคม จนกลายเป็นที่นิยมของกลุ่มคนทุกชนชั้น ทำให้แต่ละครัวเรือนเริ่มคิดค้นสูตรที่เป็นของตัวเองขึ้นมา จนกลายเป็นมรดกสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ Hippocras เกิดรสชาติและรูปแบบที่หลากหลายในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและความนิยมของเครื่องดื่มชนิดนี้

ความร่วงโรยและการดำรงอยู่ของ "ไวน์ปรุงรส"

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความแพร่หลายในประวัติศาสตร์ แต่ในช่วง ศตวรรษที่ 18 ความนิยมของ Hippocras ก็ค่อยๆ ลดลงตามกาลเวลา แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมีไวน์ผสมเครื่องเทศรูปแบบอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมและยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน เช่น:

  • Wassail (วาสเซล): เครื่องดื่มที่ทำจากไซเดอร์ เบียร์ หรือไวน์ผสมเครื่องเทศของอังกฤษ นิยมดื่มในช่วงเทศกาล
  • Sangria (ซังเกรีย): เครื่องดื่มที่ทำจากไวน์ผสมผลไม้ของสเปน มีรสชาติสดชื่นและหลากหลาย
  • Gløgg (กล็อกก์): ไวน์ผสมเครื่องเทศของสวีเดน ที่นิยมดื่มในช่วงฤดูหนาวและเทศกาลคริสต์มาส
  • Mulled Wine (มัลด์ ไวน์): เครื่องดื่มประจำเทศกาลคริสต์มาสของเยอรมนีและประเทศแถบยุโรปอื่นๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับ Hippocras มากที่สุด
Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Fish & Chips (ฟิช แอนด์ ชิปส์)
Fish & Chips (ฟิช แอนด์ ชิปส์) อาหารสุดเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่หยั่งรากฝังลึก จนกลายมาเป็นอาหารประจำชาติของประเทศอังกฤษ
hepherds and Cottage Pie (เชปเพิร์ดส์ และคอตเทจพาย)
ชวนรู้จัก Shepherds and Cottage Pie (เชปเพิร์ดส์ และคอตเทจพาย) : จากอาหารธรรมดาของคนเลี้ยงแกะ สู่การเป็นอาหารสุดหรูของผู้ดีอังกฤษ
น้ำมันหมู vs. น้ำมันพืช
น้ำมันหมู vs. น้ำมันพืช : ไขข้อถกเถียงและทางเลือกเพื่อสุขภาพ
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ