Mince Pies (มินซ์พาย)

เมื่อเทศกาลคริสต์มาสใกล้เข้ามา ในวันคริสต์มาสอีฟเด็กๆ จะตื่นเต้นเป็นอย่างมากในการเตรียม ขนมมินซ์พาย (Mince Pies) เพื่อต้อนรับคุณลุงซานต้า เนื่องจากเชื่อกันว่าเมื่อนำขนมมินซ์พายมาวางต้อนรับก่อนเข้านอน คุณลุงซานต้าจะมาหาและมอบของขวัญให้ วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปย้อนรอยประวัติศาสตร์ของขนมแห่งการเฉลิมฉลองนี้กันค่ะ

ต้นกำเนิดจากดินแดนตะวันออก

ต้นกำเนิดของ มินซ์พาย (Mince Pies) มีประวัติศาสตร์ยาวนานใน สหราชอาณาจักร ช่วง สงครามครูเสด ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากอาหารตะวันออกกลาง โดยในอดีตพายเหล่านี้มีขนาดใหญ่ สอดไส้ด้วยส่วนผสมของ เนื้อสับละเอียด เช่น เนื้อแกะ เนื้อลูกวัว พร้อมด้วย ผลไม้แห้ง เช่น ลูกเกด ลูกพรุน และมะเดื่อ และเครื่องเทศหอมๆ เช่น อบเชย กานพลู และลูกจันทน์เทศ ทำให้มีรสชาติที่เข้มข้นและแปลกใหม่

แต่เมื่อเวลาผ่านไป สูตรก็พัฒนาขึ้นโดย ละเว้นเนื้อสัตว์ เหลือเพียงส่วนผสมของ ผลไม้แห้งและถั่วต่างๆ พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของบรั่นดีและไวน์ รวมไปถึงลักษณะของพายก็ถูกเปลี่ยนมาเป็น ทรงกลมขนาดเล็ก แล้วตกแต่งด้านหน้าด้วยรูปทรงต่างๆ แต่ส่วนมากจะทำเป็น รูปดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดาวเบธเลเฮม (Star of Bethlehem) ที่นำทางโหราจารย์มาพบพระเยซู

ประเพณีแห่งความสามัคคีและโชคลาภ

การทำ มินซ์พาย เป็นประเพณีอันทรงคุณค่าที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยคนในครอบครัวจะมารวมตัวช่วยกัน รีดแป้ง ผสมเนื้อสับ และตัดแป้งเป็นวงกลม เพื่อทำขนมมินซ์พายร่วมกันสำหรับเทศกาล โดยการรวมตัวกันนี้เชื่อกันว่าเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีและความสุขให้กับผู้คนในครอบครัวตลอดเทศกาล เป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน

นอกเหนือจากรสชาติที่อร่อยแล้ว มินซ์พาย ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์อีกด้วย โดยกล่าวกันว่าการทาน มินซ์พาย 12 ชิ้น ตลอดช่วงเทศกาล (หนึ่งชิ้นต่อวัน ตั้งแต่คริสต์มาสอีฟถึงวันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์) จะนำ ความโชคดี มาให้ในแต่ละเดือนของปีที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ผู้คนจึงนิยมทำมินซ์พายสำหรับรับประทานและแบ่งปันให้กับผู้อื่นนั่นเอง เพื่อส่งต่อความโชคดีและคำอวยพร

วิวัฒนาการและความนิยมระดับโลก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป เชฟและนักทำขนมสมัยใหม่ก็ได้นำ มินซ์พายสูตรดั้งเดิม มาดัดแปลง ให้มีเวอร์ชันที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งแบบ วีแกนและปราศจากกลูเตน ไปจนถึงไส้รสชาติใหม่ๆ เช่น แครนเบอร์รี่ ส้ม และอื่นๆ รวมไปถึงมีการเติม บรั่นดีหรือเหล้ารัม ลงไป เพื่อให้มีกลิ่นรสที่ซับซ้อนมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย

แม้ว่าในอดีต มินซ์พาย จะหยั่งรากลึกในประเพณีของอังกฤษ แต่ทุกวันนี้มินซ์พายก็แพร่กระจายไปทั่วโลก จนได้รับความนิยมในหลายประเทศทั้ง สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย หรือประเทศต่างๆ ในยุโรป โดยพายเหล่านี้มักจะพบได้ตามเทศกาลคริสต์มาส ทำให้มินซ์พายกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสุข การเฉลิมฉลอง และจิตวิญญาณแห่งเทศกาลคริสต์มาสที่แท้จริง