Jordans Cereal (จอร์แดนส์ซีเรียล)
Jordans Cereal (จอร์แดนส์ซีเรียล) เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเช้าธัญพืชจากมณฑล Bedfordshire ประเทศอังกฤษ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย Granola และ Granola Bar รายแรกของสหราชอาณาจักร โดยปัจจุบันได้วางจำหน่าย Granola, Muesli, Cereal bar และข้าวโอ๊ตต้มกึ่งสำเร็จรูป นอกจากนี้ยังเปิดโรงสีเก่าแก่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อีกด้วย พร้อมทั้งมีบทบาทสำคัญในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านประวัติศาสตร์การสีข้าวและโม่แป้ง
รากฐานอันยาวนาน: จากโรงสีสู่ธุรกิจครอบครัว
ประวัติศาสตร์การสีและโม่ธัญพืชในยุโรปนั้นมีมานานนับพันปี โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ โรงโม่กังหันลมเป็นสิ่งที่มีอยู่ตามบ้านไร่โดยทั่วไป จนกระทั่งเข้าสู่ปี ค.ศ. 1850 การขนส่งทางรถไฟและคลองพัฒนาเป็นอย่างมาก ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ในปัจจุบันอย่างเมือง Biggleswade ก็เป็นเมืองแรกของ Bedfordshire ที่มีสถานีรถไฟสายหลัก สิ่งนี้ส่งผลให้มีการค้าขายเมล็ดพืชและแป้งที่ผ่านการสีและโม่แล้วมากขึ้น
แม้จะไม่มีการบันทึกอย่างชัดเจน แต่คาดว่าตระกูล Jordan นั้นมีความเกี่ยวข้องกับการทำฟาร์มและโรงสีมาตั้งแต่ต้นตระกูล จากการที่ William Jordan ซึ่งมีภูมิลำเนาในมณฑล Devon ได้พาครอบครัวย้ายมาอาศัยที่เมือง Colesdon ใน Bedfordshire และเลือกซื้อบ้านไร่ที่มีกังหันลม (โรงสีที่ใช้พลังงานจากลมในการควบคุมเครื่องโม่) ในทันที ซึ่งยังสามารถบอกได้ว่าเป็นตระกูลที่มีความมั่งคั่งอีกด้วย
ตระกูล Jordan มีการตั้งชื่อลูกชายคนโตตามชื่อตนเองตามวัฒนธรรมยุโรป ทายาทคนแรกของ William Jordan ซึ่งก็คือ William ที่สอง ได้ริเริ่มนำโรงสีของบ้านมาสร้างเป็นธุรกิจการสี โม่แป้ง และค้าขายข้าวสารและแป้งเพื่อหล่อเลี้ยงครอบครัวขนาดใหญ่ของเขา ซึ่งมีภรรยาและลูกถึง 9 คน เขายังซื้อกิจการโรงแรมและไร่ขนาดใหญ่เพื่อการสร้างรายได้ที่มากขึ้นอีกด้วย
William ที่สาม ก็ยังคงสืบทอดเจตนารมณ์ของครอบครัว เขาได้เข้าไปฝึกฝนที่โรงสีขนาดใหญ่อย่าง Albion Mill ใน London ที่ครอบครองโดยตระกูล Powers ซึ่งเป็นเจ้าของโรงสีอีกหลายแห่ง รวมถึง Holmes Mill โรงโม่กังหันน้ำซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Ivel ใน Biggleswade อีกด้วย ซึ่งในเวลาต่อมา William ที่สามได้เช่า Holmes Mill และย้ายครอบครัวของเขาไปอยู่อาศัยและทำงานในโรงสีแห่งนี้ และในปี ค.ศ. 1883 ตระกูล Powers ประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้เขาตัดสินใจซื้อ Holmes Mill มาเป็นกิจการของครอบครัว Jordan ในที่สุด
จากแป้งสู่ Cereal: การกำเนิด Jordans แบรนด์อาหารเช้า
ในขณะที่ทายาทของเขาอย่าง William ที่สี่ เลือกเส้นทางที่ต่างออกไปอย่างการทำโรงสีอาหารสัตว์ และมีหน้าร้านที่ชื่อว่า W. Jordan & Sons William ที่สามจึงดำเนินกิจการโรงสีด้วยตัวเองเรื่อยมาจนถึงวัยชรา จนกระทั่งมาถึงรุ่นของ William ที่ห้า หรือ William John Jordan เขาได้เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของคุณปู่, สืบทอดกิจการของพ่อ และได้ริเริ่มที่จะทำธุรกิจในลักษณะของการทำแบรนด์ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1950 โดยใช้ชื่อ Jordans เพื่อขายแป้งสำเร็จรูปหลายชนิด พร้อมทั้งทำป้ายโฆษณาตามที่ต่างๆ John ยังปรับปรุงอาคาร Holmes Mill ให้สามารถขนส่งสินค้าต่างๆ ขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตึกด้วยเครื่องจักรได้ รวมถึงติดตั้งเครื่องจักรที่ทันสมัยยิ่งขึ้น เช่น เครื่องโม่รุ่นใหม่ที่มีความปลอดภัยต่อคนทำงาน และเครื่องบรรจุแป้งอัตโนมัติ
John มีทายาททั้งหมดสามคน William Bill, David และ Lindsay ซึ่ง Bill และ David ได้กลายมาเป็นกำลังหลักของความก้าวหน้าทางธุรกิจครั้งใหญ่ของครอบครัว Jordan ทั้งสองเริ่มต้นจากการที่ Bill เข้าฝึกการทำงานด้านโรงสีที่บริษัท Henry Simon ใน London ซึ่ง David ทำงานเป็นวิศวกรอยู่ หลังจากนั้นสองพี่น้องจึงเริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ ซึ่งการเดินทางไปยังอเมริกาในปี ค.ศ. 1969 ทำให้ Bill และ David ได้รู้จักกับ Granola ซึ่งเป็นอาหารเช้าจากธัญพืชหลากหลายชนิด ผสมกับถั่ว ผลไม้อบแห้ง และอาจเคลือบด้วยน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง
Bill และ David ได้เริ่มต้นคิดค้นผลิตภัณฑ์สำหรับแบรนด์ใหม่ของพวกเขาในชื่อ Jordans อย่างในปัจจุบัน ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกที่ออกจำหน่ายในปี ค.ศ. 1972 คือ Original Crunchy G ซึ่งเป็น Granola ในแบบฉบับของพวกเขาเอง มีส่วนประกอบเพียงแค่สองอย่าง ได้แก่ ข้าวสาลีพอง และข้าวโอ๊ตอบกรอบ พวกเขาเป็นรายแรกที่นำเสนออาหารเช้าธัญพืชสีทองเหล่านี้ต่อชาวอังกฤษ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งการวางขายในงานเทศกาล ร้านอาหารสุขภาพ และซูเปอร์มาร์เก็ต พวกเขายังจำหน่าย Muesli ซึ่งเป็นอาหารเช้าธัญพืชที่ต่างจาก Granola ตรงที่ไม่ผ่านการอบกรอบและไม่มีการปรุงรสหวาน
เติบโตอย่างยั่งยืน: นวัตกรรมและสิ่งแวดล้อม
เมื่อการตอบรับดีตามเป้าหมาย ทั้งสองจึงเดินหน้ารังสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อไป โดยในปี ค.ศ. 1981 Jordans ได้เปิดตัว The Original Crunchy Bar ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาเป็นผู้จำหน่ายรายแรกของอังกฤษ โดยในยุค 80 Jordans มียอดขาย Cereal มากถึง 80 ตันต่อสัปดาห์ และในช่วงเวลานี้ พวกเขายังตั้งนโยบาย Conservation Grade Farming ซึ่งมีเพื่อกำหนดให้กระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นจนจบอยู่บนพื้นฐานของการรักษาสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า
เมื่อเข้าสู่ปี ค.ศ. 1990 Jordans ก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งต่อยอดจากความสำเร็จเดิม โดย Country Crisp เป็น Granola รูปใหม่ที่มีการผสมถั่วหลากชนิดและผลไม้ Freeze-dried เพื่อเพิ่มคุณค่าสารอาหาร และยังทำให้รับประทานง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งมีการพัฒนารสชาติใหม่ๆ เรื่อยมาจนมีถึง 10 รสชาติให้เลือกในปัจจุบัน ส่วนอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งคือ Frusli Bar ซึ่งเป็น Granola Bar ไขมันต่ำ และมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มกว่า The Crunchy Bar ดั้งเดิม ในที่สุด Jordans ก็ประสบความสำเร็จในการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยัง 40 ประเทศทั่วโลกในปี ค.ศ. 1997 จากการผลิตด้วยโรงสี ก็เติบโตไปสู่โรงงานแห่งใหม่ในปี ค.ศ. 2000 ที่ผลิตสินค้าได้เกือบ 1 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์ ภายใต้แนวคิด Conservation Grade Farming เช่นเดิม
จากธุรกิจสู่การกุศล: Jordans Mill และมรดกทางอาหาร
เมื่อประสบความสำเร็จในด้านการทำธุรกิจ Bill และ David จึงเริ่มเดินหน้าการทำกิจกรรมเพื่อสังคม พวกเขาเริ่มโครงการปรับปรุงโรงสีดั้งเดิมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่าง Holmes Mill และก่อตั้ง Jordan Trust ในปี ค.ศ. 2009 ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลเพื่อฟื้นฟู Holmes Mill และสิ่งแวดล้อมโดยรอบในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ Ivel ซึ่งชุมชนบริเวณนี้มีความผูกพันกับประวัติศาสตร์การโม่แป้งในประเทศอังกฤษ ตามที่มีบันทึกใน the Domesday Book ซึ่งเป็นบันทึกจากการสำรวจสำมะโนประชากรในอังกฤษปี ค.ศ. 1086 และองค์กรยังมุ่งเน้นไปที่การเผยแพร่ความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องให้คนรุ่นหลังอีกด้วย
หลังจากความพยายามเกือบ 10 ปี ในปี 2013 Jordans ก็ได้เปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ในชื่อ Jordans Mill ซึ่งรวบรวมทั้งพื้นที่เผยแพร่ความรู้ กิจกรรมสำหรับเด็ก ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟ เข้าด้วยกัน โดยในส่วนของอาคาร Holmes Mill นั้น ได้จัดนิทรรศการเพื่อบรรยายถึงประวัติศาสตร์การทำโรงสีกว่า 1,000 ปี และกระบวนการโม่แป้งตามแต่ละยุค โดยเฉพาะในยุค Victorian ที่มีการพัฒนาด้านนวัตกรรมอย่างก้าวกระโดด ซึ่งภายในอาคารยังมีการแสดงเครื่องจักรของแท้จากยุค Victorian อีกด้วย โดยมีสโลแกนของกิจกรรมทั้งหมดนี้ว่า keeping our food heritage alive หมายถึง การรักษามรดกทางอาหาร นั่นเอง
นอกจากนิทรรศการในอาคารแล้ว ผู้เยี่ยมชมก็สามารถสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมธรรมชาติรอบๆ พื้นที่ที่ผ่านการฟื้นฟูโดยองค์กรได้ โดยเฉพาะในส่วนของร้านอาหารที่ตั้งอยู่ติดฝั่งแม่น้ำ Ivel และ Mill Garden ที่ Jordans ตั้งใจนำเสนอความอุดมสมบูรณ์ของไร่ที่มีธัญพืชหลากชนิด รวมถึงผักและผลไม้ ซึ่งผลผลิตเหล่านี้ทำให้ Bedfordshire ตะวันออกกลายเป็นพื้นที่ผลิตอาหารที่สำคัญของประเทศ และยังมีทุ่งหญ้าและป่าไม้ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต โดยทุกกิจกรรมที่กล่าวมาจะรวมอยู่ในค่าเข้าชมทั้งหมด (ยกเว้นค่าสินค้า อาหารและเครื่องดื่ม) เนื่องจาก Jordan Mill ซึ่งเป็นโครงการของ Jordan Trust ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหากำไร นอกจากการใช้อาสาสมัครในการทำงานแล้ว รายได้จากค่าเข้าชมจะถูกนำไปใช้ในงานกุศลต่างๆ ขององค์กรต่อไป