Güllaç (กือลลาช)
Güllaç (กุลลัช) เป็นขนมหวานแบบดั้งเดิมของตุรกีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยจักรวรรดิออตโตมันในศตวรรษที่ 15 เป็นประเพณีการทำอาหารที่สืบทอดมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ โดยประวัติศาสตร์ของ Güllaç นั้นค่อนข้างซับซ้อนพอ ๆ กับชั้นของขนมที่ทำมาจากแผ่นแป้งบางเบาและวอลนัท ที่ถูกนำไปแช่อยู่ในน้ำนมหวานอุ่น ๆ และโรยหน้าด้วยทับทิมสด สร้างสรรค์เป็นรสชาติที่ละมุนและมีเสน่ห์เฉพาะตัว
รากฐานจากราชสำนักออตโตมัน
รากฐานทางประวัติศาสตร์ของ Güllaç มีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิออตโตมันอันรุ่งเรือง ตามตำนานกล่าวว่า Güllaç ถูกทำขึ้นครั้งแรกในครัวของพระราชวังออตโตมัน ซึ่งจัดเตรียมไว้เพื่อเป็นอาหารสำหรับสุลต่านและพระราชวงศ์ในช่วงถือศีลอด จากนั้นความนิยมจึงค่อย ๆ แพร่กระจายออกไปนอกกำแพงวัง สู่สามัญชนทั่วไป จนกลายเป็นส่วนสำคัญและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในวัฒนธรรมการทำอาหารตุรกี
ในช่วงที่จักรวรรดิออตโตมันรุ่งเรือง Güllaç ถือเป็นอาหารที่สงวนไว้สำหรับโอกาสพิเศษและงานเลี้ยงในพระราชวังเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงรอมฎอน (Ramadan) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นอาหารสำหรับละศีลอดในศาสนาอิสลาม
ความหมายของชื่อและส่วนผสมหลัก
ชื่อ Güllaç เป็นคำที่มาจากภาษาตุรกี และมีความหมายที่น่าสนใจคือ กุหลาบ ซึ่งสื่อถึงส่วนผสมอันเป็นเอกลักษณ์อย่างน้ำกุหลาบ (Rosewater) ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในกระบวนการทำ Güllaç นั้นมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ แผ่น Güllaç sheet (ส่วนใหญ่ทำจากแป้งสาลีและแป้งข้าวโพดเกลี่ยให้บางแล้วตากแดดให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วสามารถเก็บไว้ได้นาน), นม, น้ำตาล และแน่นอนว่าต้องมีน้ำกุหลาบเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมเฉพาะตัว
คุณสมบัติที่โดดเด่นประการหนึ่งของ Güllaç คือแผ่นแป้งบางเบาเหล่านี้จะถูกนำมาแช่ในส่วนผสมของนม น้ำตาล และน้ำกุหลาบที่อุ่น ๆ เพื่อให้ซึมซับรสชาติจนมีความนุ่มละมุนและหอมหวานน่ารับประทาน ทั้งนี้ระหว่างที่แช่อยู่นั้น แผ่น Güllaç จะถูกสลับชั้นด้วยส่วนผสมของถั่วบด เช่น พิสตาชิโอหรือวอลนัท จากนั้นจึงปล่อยให้ขนมเซ็ตตัวเป็นชั้น ๆ ในตู้เย็นก่อนเสิร์ฟ แล้วตกแต่งด้วยถั่วพิสตาชิโอบดละเอียดหรือกลีบกุหลาบสด ทำให้มีความสวยงามและหรูหราน่าประทับใจ
การใช้น้ำกุหลาบในการทำ Güllaç นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มกลิ่นหอมอันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความเคารพต่อประเพณีการทำอาหารแบบโบราณที่มักผสมผสานองค์ประกอบที่ให้กลิ่นหอมสดชื่นเข้าไปในการทำอาหารด้วย
Güllaç กับวัฒนธรรมการแบ่งปันในรอมฎอน
ในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ ชาวตุรกีมักจะทำ Güllaç ในปริมาณที่มากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้าน และคนในครอบครัว เนื่องจากเชื่อกันว่าการแบ่งปัน Güllaç นั้นจะส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและความสามัคคีในช่วงเดือนรอมฎอน โดยเน้นย้ำถึงความมีน้ำใจและจิตวิญญาณแห่งการต้อนรับที่อบอุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ในวัฒนธรรมตุรกี
โดยปกติแล้วจะนิยมทาน Güllaç กันหลังจากที่ต้องอดอาหารมาทั้งวันจนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป (ช่วงละศีลอด หรือ Iftar) ทั้งนี้เนื่องจาก Güllaç เป็นอาหารที่มีความหวานสดชื่นที่ให้พลังงานแก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่กลับไม่หนักท้องจนเกินไป ทำให้ร่างกายสามารถค่อย ๆ ซึมซับสารอาหารและฟื้นฟูพลังงานได้อย่างช้า ๆ และอ่อนโยน ด้วยเหตุนี้เอง ชาวตุรกีจึงยกย่องให้ Güllaç เป็นราชินีอาหารหวานแห่งช่วงรอมฎอนอย่างแท้จริง
การประยุกต์ใช้ในปัจจุบันและอนาคต
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ Güllaç จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษในช่วงเดือนรอมฎอน แต่ก็ใช่ว่าในเทศกาลอื่น ๆ ชาวตุรกีจะไม่ทานขนมหวานชนิดนี้เลย ความจริงแล้ว Güllaç ยังคงเป็นขนมหวานยอดนิยมสำหรับโอกาสพิเศษต่าง ๆ ตลอดทั้งปี เช่น งานแต่งงาน งานหมั้น งานเฉลิมฉลอง และงานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ
เมื่อเวลาผ่านไป สูตร Güllaç ก็ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับรสนิยมและความชอบที่เปลี่ยนแปลงไปของคนในยุคปัจจุบัน แม้ว่าวิธีการแบบดั้งเดิมจะยังคงได้รับความนิยมและเป็นที่รัก แต่ในปัจจุบันก็มี Güllaç หลากหลายรูปแบบให้เลือกชิม โดยอาจจะมีการใช้ส่วนผสมใหม่ ๆ เช่น น้ำเชื่อมทับทิม น้ำดอกส้ม หรือวานิลลา เพื่อเพิ่มมิติของรสชาติและกลิ่นหอม ทำให้ Güllaç ยังคงเป็นขนมหวานที่น่าค้นหาและอร่อยล้ำอยู่เสมอ และเป็นตัวแทนของมรดกทางวัฒนธรรมการทำอาหารของตุรกีที่ยังคงมีชีวิตชีวา