Kebabs (เคบับ)
เมื่อพูดถึงเคบับในบ้านเรา หลายคนน่าจะนึกถึงอาหารที่ห่อด้วยแป้งแล้วสอดไส้ด้านในด้วยเนื้อสัตว์และผักนานาชนิด ทั้งนี้หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าจริงๆ แล้วเคบับนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบห่อและแบบเสียบไม้คล้ายบาร์บีคิว
ต้นกำเนิดและนิรุกติศาสตร์: จากการล่าสู่การย่าง
ต้นกำเนิดของเคบับเกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยนักประวัติศาสตร์กล่าวว่าเคบับถือเป็นอาหารปรุงสุกที่เก่าแก่ที่สุดรูปแบบหนึ่งที่มนุษย์เรารู้จัก เนื่องจากประวัติศาสตร์ของเคบับนั้นมีหลักฐานย้อนกลับไปยาวนานกว่า 2,000 ปี ซึ่งในยุคแรกสุดเคบับจะมีลักษณะเป็นเนื้อสัตว์เสียบไม้ย่างบนเตาไฟแบบเปิด โดยทั่วไปแล้วมักจะใช้เนื้อวัว เนื้อแกะ หรือเนื้อแพะที่หาได้จากสัตว์ที่ล่ามาได้
คำว่า Kebabs เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดมาจากภาษาเปอร์เซียโบราณแปลว่า ย่าง หรือ เผา ซึ่งคำนี้ใช้เพื่อแสดงถึงวิธีการปรุงอาหารที่เกี่ยวข้องกับการเสียบไม้แล้วย่างบนเปลวไฟ แสดงให้เห็นถึงเทคนิคการทำอาหารที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ
ในสมัยโบราณ ชนเผ่าเร่ร่อนมักจะใช้วิธีนี้ในการปรุงอาหาร เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์เพียงเล็กน้อย มีความรวดเร็ว และไม้เสียบก็เป็นอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายจากธรรมชาติ โดยพวกเขาจะนำเนื้อสัตว์มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรที่มีในท้องถิ่น เสียบไม้สลับกับผักนานาชนิด เช่น มะเขือยาว มะเขือเทศ มันฝรั่ง และหัวหอม เป็นต้น เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางอาหาร
การแพร่กระจายและการดัดแปลงตามภูมิภาค: ความหลากหลายที่งอกงาม
เมื่อเวลาผ่านไป วัฒนธรรมการทำอาหารของตะวันออกกลางก็เริ่มแพร่กระจายไปตามเส้นทางการค้า การรุกราน และการขยายอำนาจของจักรวรรดิ ทำให้เคบับเริ่มเป็นที่รู้จักในภูมิภาคต่างๆ และถูกดัดแปลงให้เข้ากับรสนิยมของคนในท้องถิ่น รวมไปถึงมีการนำวัตถุดิบที่หาได้ง่ายของแต่ละพื้นที่เข้ามาผสมผสาน ส่งผลให้เคบับมีหลากหลายประเภทอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน กลายเป็นตัวอย่างของ การหลอมรวมทางวัฒนธรรม ผ่านอาหาร
ในเปอร์เซีย (อิหร่านปัจจุบัน): มีเคบับที่เรียกว่า Shish Kebab ซึ่งเป็นเคบับเสียบไม้เหมือนกับแบบแรกสุด แต่จะมีการใช้เนื้อสัตว์ที่หลากหลาย เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อไก่งวง ผสมกับสมุนไพรและเครื่องเทศใหม่ๆ ทำให้มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลายมากขึ้น สะท้อนถึงความประณีตของอาหารเปอร์เซีย
ในอินเดีย: เคบับก็ได้รับการดัดแปลงขึ้นมาอีกครั้ง โดยจะมีเคบับยอดนิยมที่เรียกว่า Seekh Kebab ทำโดยใช้เนื้อสับหรือเนื้อบดผสมกับเครื่องเทศและสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของอินเดีย แล้วปั้นเป็นแนวยาวเสียบไม้ ซึ่งทุกวันนี้เคบับรูปแบบนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในอินเดีย โดยสามารถทานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Seekh Kebab roll ที่ห่อด้วยขนมปังแผ่น Paratha เป็นอาหารที่หาทานง่ายและอิ่มท้อง
ในตุรกี: จะมีเคบับที่เรียกว่า Doner kebab (โดเนอร์ เคบับ) ซึ่งเป็นรูปแบบที่คนไทยคุ้นเคย ทำจากเนื้อสัตว์ปรุงรส โดยทั่วไปแล้วจะใช้เนื้อไก่ เนื้อแกะ หรือเนื้อวัว นำมาวางซ้อนกันบนเครื่องย่างแนวตั้งแล้วหมุนอย่างช้าๆ เนื้อสัตว์จะถูกแล่เป็นชิ้นบางๆ จากเครื่องย่างที่หมุนไปเรื่อยๆ แล้วนำมาห่อด้วยขนมปังแผ่นบาง เช่น ลาวาช (Lavash) หรือฟิโล (Filo) พร้อมกับผักนานาชนิด เช่น ผักสลัด หัวหอม มะเขือเทศ แล้วราดด้วยซอสมะเขือเทศหรือมายองเนส กลายเป็นอาหารจานด่วนยอดนิยม
ในกรีซ: มีเคบับที่เรียกว่า Souvlaki (ซูฟลากิ) เป็นเนื้อสัตว์เสียบไม้ ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเนื้อหมูหรือไก่ เดิมทีมักจะมีเนื้อแกะด้วย เสิร์ฟพร้อมขนมปังพิต้า (Pita Bread) และซอส Tzatziki (ซอสโยเกิร์ตผสมแตงกวาและกระเทียม) ซึ่งเป็นอาหารข้างถนนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
เคบับในปัจจุบัน: ปรากฏการณ์ระดับโลกและวิวัฒนาการที่ไม่สิ้นสุด
การแพร่หลายของเคบับไปทั่วโลกเป็นผลมาจากการอพยพของผู้คนจากตะวันออกกลางไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในส่วนต่างๆ ของโลก โดยพวกเขานำประเพณีการทำอาหารติดตัวไปด้วย รวมถึงศิลปะการทำเคบับ จึงทำให้เคบับได้หลอมรวมเข้ากับวัฒนธรรมต่างๆ กลายเป็นอาหารที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและเป็นที่ชื่นชอบของคนหลากหลายเชื้อชาติ
ปัจจุบันเคบับกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกและความอเนกประสงค์ของเคบับได้นำไปสู่การดัดแปลงและพัฒนานับไม่ถ้วน เพื่อรองรับความต้องการด้านอาหารที่หลากหลาย โดยมีตัวเลือกตั้งแต่อาหารมังสวิรัติและอาหารวีแกน เช่น ฟาลาเฟล (Falafel) (ลูกชุบถั่วชิกพีทอด) และผักเสียบไม้ที่กำลังได้รับความนิยม แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของเคบับที่ยังคงปรับตัวเข้ากับยุคสมัยและความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ทำให้เคบับไม่ใช่แค่เพียงอาหาร แต่เป็นสัญลักษณ์ของการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่ไม่หยุดนิ่ง