แชร์

Bisque (บิสก์)

ในประวัติศาสตร์การทำอาหารของประเทศฝรั่งเศส บิสก์ (Bisque) เป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีที่ได้รับการพัฒนามาหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่อาหารง่ายๆ ของชาวประมงบนชายฝั่ง สู่การเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของอาหารหรูบนโต๊ะอาหารของคนชั้นสูงชาวฝรั่งเศส

จุดเริ่มต้น: จากเศษอาหารสู่ความอร่อยเรียบง่าย

ประวัติของบิสก์เริ่มต้นขึ้นในภูมิภาคอ่าวบิสเคย์ (Biscay) ที่ทอดยาวจากชายฝั่งตะวันตกของประเทศฝรั่งเศส ลงมาจนถึงชายฝั่งตอนเหนือของประเทศสเปน ในช่วงศตวรรษที่ 17 กล่าวกันว่าเดิมทีบิสก์เป็นซุปที่ทำมาจากเศษปู กุ้ง และหอยตัวเล็กๆ ที่ติดอวนมาแล้วขายไม่ได้ หรือมีขนาดไม่เป็นที่ต้องการของตลาด ชาวประมงจึงนำมารวมกันแล้วต้มเพื่อดึงรสชาติออกมา จากนั้นนำมาบดผสมกับเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม และทานคู่กับขนมปังบาแก็ตของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นอาหารที่อิ่มท้องและใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบที่เหลือทิ้ง

การยกระดับ: จากอาหารพื้นบ้านสู่กูร์เมต์

ในสมัยแรกๆ บิสก์เป็นอาหารธรรมดาที่ได้รับความนิยมในกลุ่มชนชั้นแรงงานและชาวประมง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เชฟชาวฝรั่งเศสก็ได้ยกระดับบิสก์ขึ้นมาอีกขั้น ด้วยการพัฒนาสูตรอย่างพิถีพิถัน โดยนำสัตว์ทะเลคุณภาพดีอย่างล็อบสเตอร์ ปู และหอยชนิดอื่นๆ มารังสรรค์ รวมไปถึงมีการเพิ่มส่วนผสมอย่างไวน์ บรั่นดี สมุนไพร และครีมลงไป ทำให้บิสก์มีกระบวนการทำที่ซับซ้อนและพิถีพิถันมากขึ้น มีการบดเปลือกของสัตว์ทะเลแล้วนำไปเคี่ยวเพื่อดึงรสชาติและสีสันอันเข้มข้นออกมา จากนั้นจึงกรองจนได้ซุปเนื้อเนียนนุ่ม ส่งผลให้บิสก์ถูกยกระดับขึ้นมาเป็นอาหารกรูเมต์ (Gourmet) ที่หรูหรา โดยสูตรที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในฝรั่งเศสคือ Lobster Bisque (ล็อบสเตอร์ บิสก์) ซึ่งเป็นที่รู้จักในความเข้มข้นและกลิ่นหอมกรุ่นจากทะเล

อย่างไรก็ตาม คำว่า Bisque ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ซุปที่ทำจากอาหารทะเลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงซุปชนิดต่างๆ ที่ทำด้วยกระบวนการเดียวกัน (คือการนำวัตถุดิบไปผัด เคี่ยว บด และกรอง) แต่ต่างส่วนผสม อาทิ มะเขือเทศ (Tomato bisque) เห็ด (Mushroom bisque) และแม้แต่ผลไม้อย่างลูกพีชก็สามารถนำมาทำเป็นบิสก์ได้เช่นกัน ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายของเมนูนี้

การแพร่หลายและวิวัฒนาการทั่วโลก

ในเวลาต่อมา ความนิยมของบิสก์ก็แพร่กระจายไปไกลเกินขอบเขตประเทศฝรั่งเศส ชาวอาณานิคมยุโรปที่ย้ายถิ่นฐานไปยังอเมริกาได้นำส่วนผสมแปลกใหม่และสูตรของบิสก์เข้ามาเผยแพร่ ทำให้บิสก์ได้รับการพัฒนาขึ้นมาหลากหลายรูปแบบ โดยใช้ส่วนผสมที่หาได้ง่ายในดินแดนแห่งนี้อย่างข้าวโพดและสควอชในการทำบิสก์ ซึ่งเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมการกินที่ลงตัว

สิ่งที่ทำให้บิสก์กลายเป็นอาหารที่หรูหราคือความสามารถในการพัฒนาในขณะที่ยังคงรักษาแก่นแท้ของซุปเอาไว้ ซึ่งประวัติความเป็นมาของบิสก์ก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงความยั่งยืน จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในหมู่บ้านชาวประมงในฝรั่งเศส กลายเป็นเมนูอาหารรสเลิศที่ทั่วโลกให้การยอมรับในด้านความประณีตและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์

ปัจจุบันบิสก์ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเชฟร่วมสมัยได้ทดลองใช้ส่วนผสมและรสชาติที่หลากหลาย รวมถึงการสร้างสรรค์บิสก์ที่เป็นมังสวิรัติ (Vegan Bisque) เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านอาหารของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป บิสก์จึงไม่ได้เป็นเพียงอาหาร แต่เป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์และความยั่งยืนในโลกแห่งการทำอาหาร

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Bone marrow (ไขกระดูก)
Bone marrow (ไขกระดูก) อาหารของมนุษย์ยุคหิน... กลายมาเป็นอาหารอันโอชะในยุคปัจจุบันได้อย่างไร?
Butter of gods (เนยไขกระดูก)
If God made butter it would taste exactly like bone marrow. - Anthony Bourdain
Purple Cauliflower (กะหล่ำดอกสีม่วง)
Purple Cauliflower (กะหล่ำดอกสีม่วง) และกะหล่ำดอกสีขาว: ไม่ได้ต่างกันแค่สี แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่ต่างกันอีกด้วย
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ