Ceviche (เซวิเช)

เปรู ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลาย ในอดีตประเทศนี้เคยเป็นหนึ่งในที่ตั้งของอารยธรรมเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกา อีกทั้งยังมีผู้คนจากประเทศสเปนและญี่ปุ่นอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศเปรูอีกด้วย ด้วยเหตุนี้อาหารเปรูส่วนใหญ่จึงเป็นอาหารลูกผสมที่ได้รับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมจากชาวสเปนและญี่ปุ่น ซึ่งเมนู เซวิเช (Ceviche) ก็เช่นกัน

กำเนิดเซวิเช: จาก ทัมโบ สู่ยุคสมัยใหม่

เซวิเชมีต้นกำเนิดบนชายฝั่งแปซิฟิกทางตอนเหนือของประเทศเปรูเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่ผ่านมา ชาวพื้นเมืองเปรูในสมัยนั้นจะใช้น้ำหมักที่เรียกว่า ทัมโบ (Tumbo) ที่ทำจากผลไม้ในท้องถิ่นคล้ายเสาวรส เพื่อหมักปลาพร้อมกับเกลือและอาจิ (Aji Amariillo) พริกสีส้มของเปรู แต่เซวิเชในสมัยนั้นเนื้อปลาจะถูกทำให้สุกเล็กน้อย ไม่ใช่เนื้อปลาดิบแบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ต่อมาในศตวรรษที่ 16 การทำอาหารของเปรูก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เดินทางมาถึง เขาได้นำมะนาว หัวหอม กระเทียม และผักชีมาเผยแพร่ด้วย ในภายหลังวัตถุดิบเหล่านี้จึงกลายมาเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซวิเชที่เรารู้จักในปัจจุบัน

อิทธิพลญี่ปุ่น: การกำเนิด นิเคอิ ฟู้ด (Nikkei Food)

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ชาวญี่ปุ่นเริ่มอพยพมายังเปรู พวกเขาได้นำวัฒนธรรมการทำอาหารติดตัวมาด้วย ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะเชี่ยวชาญด้านการใช้ปลาดิบเป็นอย่างดี ในภายหลังพวกเขาจึงนำเซวิเชของเปรูมาดัดแปลง โดยใช้ปลาดิบ ซึ่งจากเดิมจะใช้เฉพาะปลาเนื้อขาว แต่ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นได้นำทั้งปลาทูน่า ปลาซาบะ และปลาหมึกมารังสรรค์เป็นเซวิเชที่มีความแปลกใหม่มากขึ้น จนกลายเป็นวัฒนธรรมอาหารที่เรียกว่า นิเคอิ (Nikkei food) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารญี่ปุ่นกับเปรู

ด้วยความที่ประเทศเปรูและญี่ปุ่นมีลักษณะภูมิประเทศที่ติดกับทะเลเหมือนกัน อาหารท้องถิ่นของ 2 ประเทศนี้ส่วนใหญ่จึงทำมาจากอาหารทะเล ดังนั้นการรวมกันของสองวัฒนธรรมจึงมีความกลมกลืนกันได้ดี

ความหลากหลายและเส้นทางสู่สากล

เมื่อเวลาผ่านไปเซวิเชก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วลาตินอเมริกา ซึ่งแต่ละภูมิภาคก็จะเพิ่มเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเองลงไป ส่งผลให้เซวิเชมีความหลากหลายในระดับภูมิภาค ตัวอย่างเช่น ในเม็กซิโก เซวิเชมักปรุงรสด้วยมะเขือเทศ อะโวคาโด พริกชี้ฟ้า และผักชี ทำให้มีรสเผ็ดและเปรี้ยว ในขณะที่เอกวาดอร์เซวิเชมักเสิร์ฟพร้อมกับป๊อปคอร์นและมันฝรั่งทอด ซึ่งเป็นการเพิ่มองค์ประกอบที่น่าสนใจ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเซวิเชได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายนอกลาตินอเมริกา ซึ่งดึงดูดใจผู้ที่ชื่นชอบอาหารทั่วโลก ด้วยรสชาติที่สดชื่น เบาบาง เข้ากับส่วนผสมได้หลากหลาย ทำให้ร้านอาหารทั่วโลก เริ่มเพิ่มเมนูเซวิเชลงไปในรายการอาหาร

เทรนด์การทำอาหารร่วมสมัยได้ขับเคลื่อนเซวิเชให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เชฟหลายคนยอมรับว่าเซวิเชเป็นอาหารอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับความต้องการด้านอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่รูปแบบมังสวิรัติที่ใช้เต้าหู้หรือเห็ดแทนปลา ไปจนถึงอาหารฟิวชั่นที่ผสมผสานอิทธิพลของเอเชียและเมดิเตอร์เรเนียนเข้าไป

เซวิเชถือเป็นอาหารมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งได้รับการเปลี่ยนผ่านมาหลายวัฒนธรรม จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ในเปรูโบราณ มาจนถึงเซวิเชสมัยใหม่ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ปัจจุบันเซวิเช่กลายเป็นอาหารที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงการอาหารระดับโลก ด้วยรสชาติที่สดชื่น สีสันที่สดใส