Tiramisu Milk Punch (ทีรามิสุ มิลค์ พันช์)
Tiramisu Milk Punch (ทีรามิสุ มิลค์ พันช์) คือเครื่องดื่มค็อกเทลประเภทหนึ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรสชาติของ Tiramisu ทำโดยเทคนิคพิเศษที่เรียกว่า Milk Clarification (การทำให้ใสด้วยนม) โดยทั่วไปจะมีส่วนผสมหลัก เช่น เหล้ารัม หรือบรั่นดี, Coffee Liqueur (เหล้ากาแฟ), น้ำเชื่อม, น้ำมะนาว และ Savoiardi Milk (นมที่แช่กับบิสกิตเลดี้ฟิงเกอร์)
กระบวนการนี้ถือเป็นหนึ่งในเทคนิคทางเคมียุคแรก ๆ ที่ใช้หลักการ Clarification เพื่อทำให้เครื่องดื่มใสขึ้น นุ่มนวลขึ้น แต่ยังคงมีกลิ่น และรสที่กลมกล่อมของส่วนผสมตั้งต้น
ในช่วงทศวรรษที่ผ่าน Milk Punch กลับมาได้ความนิยมอีกครั้งในวงการค็อกเทลระดับพรีเมียม ซึ่งการกลับมาได้รับความนิยมในครั้งนี้ Milk Punch ได้รับการดัดแปลงให้มีความหลากหลาย และน่าสนใจมากขึ้น โดยหนึ่งในสูตรที่โดดเด่นคือ Tiramisu Milk Punch
Darren ได้ตั้งคำถามเชิงสร้างสรรค์ที่น่าสนใจว่า จะเป็นอย่างไร หากเรานำรสชาติอันโดดเด่นของ Tiramisu ซึ่งประกอบด้วยกลิ่นหอมของกาแฟ ความนุ่มของมาสคาร์โปน และสัมผัสละมุนของขนมหวาน มาผสมผสานในรูปแบบของ Milk Punch ที่ประณีต และร่วมสมัย
สูตร Tiramisu Milk Punch ที่คิดค้นโดย Darren นั้นประกอบด้วยส่วนผสมหลัก ได้แก่ รัม ซึ่งจะถูกนำไปแช่เย็นแบบสุญญากาศร่วมกับ Cacao Nibs เป็นเวลา 30 นาที ที่อุณหภูมิ 52 องศาเซลเซียส กรรมวิธีดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้รัมซึมซับรสชาติของโกโก้ได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ได้รสชาติของเครื่องดื่มที่ลุ่มลึก และซับซ้อน
ส่วน Savoiardi (เลดี้ฟิงเกอร์) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำ Tiramisu จะถูกนำมาบดละเอียด แล้วนำไปแช่กับนม เพื่อสร้างเป็นสารสกัดที่มีรสชาติอ่อนโยน และนุ่มนวล ซึ่งเทคนิคการทำ Tiramisu Milk Punch ยังคงใช้เทคนิคเดียวกับ Milk Punch ในศตวรรษที่ 18 นั่นคือการใช้กระบวนการ Milk Clarification (การทำให้ใสด้วยนม)
จุดเริ่มต้นของ Milk Punch คลาสสิกจากอังกฤษ
เรื่องราวของ Tiramisu Milk Punch เริ่มต้นมาจากเครื่องดื่มคลาสสิกของอังกฤษที่เรียกว่า Milk Punch ซึ่งปรากฏเป็นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยมีสูตรบันทึกในผลงานของนักประพันธ์ และนักเขียนบทละครชาวอังกฤษชื่อ Aphra Behn ที่ได้กล่าวถึงเครื่องดื่มนี้ว่าเป็น เครื่องดื่มสำหรับตอนเช้า เครื่องดื่มบนโต๊ะอาหาร เครื่องดื่มเพื่อการเฉลิมฉลอง และสำหรับทุกโอกาสเทคนิค Milk Clarification และการพัฒนาเครื่องดื่ม
Milk Punch สูตรดั้งเดิมนี้มีกรรมวิธีที่น่าสนใจ โดยเริ่มจากการเตรียมแอลกอฮอล์ (เช่น รัม, บรั่นดี, วิสกี้) น้ำเชื่อม และน้ำมะนาว นำส่วนผสมทุกอย่างมาคนให้เข้ากัน จากนั้นเติมนมร้อนลงไป เพื่อให้นมจับตัวเป็นก้อนโปรตีน จากนั้นกรองเอาก้อนโปรตีนออก จนเหลือแต่ ของเหลวใสกระบวนการนี้ถือเป็นหนึ่งในเทคนิคทางเคมียุคแรก ๆ ที่ใช้หลักการ Clarification เพื่อทำให้เครื่องดื่มใสขึ้น นุ่มนวลขึ้น แต่ยังคงมีกลิ่น และรสที่กลมกล่อมของส่วนผสมตั้งต้น
การกลับมาของ Milk Punch ในยุคใหม่
ในช่วงศตวรรษที่ 18 Milk Punch กลายเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Punch Houses ต่าง ๆ อย่างไรก็ตามในช่วงศตวรรษที่ 19 ความนิยมของ Milk Punch ก็ค่อย ๆ ลดลง เมื่อเครื่องดื่มคลาสสิกชนิดใหม่ เช่น Martini และ Manhattan ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่าน Milk Punch กลับมาได้ความนิยมอีกครั้งในวงการค็อกเทลระดับพรีเมียม ซึ่งการกลับมาได้รับความนิยมในครั้งนี้ Milk Punch ได้รับการดัดแปลงให้มีความหลากหลาย และน่าสนใจมากขึ้น โดยหนึ่งในสูตรที่โดดเด่นคือ Tiramisu Milk Punch
การคิดค้น Tiramisu Milk Punch
Tiramisu Milk Punch ถูกคิดค้นขึ้นที่บาร์ Capitano เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในช่วงปี ค.ศ. 2020 โดยผู้อยู่เบื้องหลังการคิดค้นนี้คือ Darren Leaney ซึ่งดำรงตำแหน่งบาร์เทนเดอร์ และผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องดื่ม ผู้มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านเทคนิค และศิลปะแห่งการรังสรรค์ค็อกเทลDarren ได้ตั้งคำถามเชิงสร้างสรรค์ที่น่าสนใจว่า จะเป็นอย่างไร หากเรานำรสชาติอันโดดเด่นของ Tiramisu ซึ่งประกอบด้วยกลิ่นหอมของกาแฟ ความนุ่มของมาสคาร์โปน และสัมผัสละมุนของขนมหวาน มาผสมผสานในรูปแบบของ Milk Punch ที่ประณีต และร่วมสมัย
เทคนิคเฉพาะและกระบวนการสร้างรสชาติ
แนวคิดนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเครื่องดื่มสูตรใหม่ที่เชื่อมโยงระหว่างโลกของขนมหวาน และค็อกเทลได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์อันลึกซึ้งของบาร์เทนเดอร์รุ่นใหม่ ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันขอบเขตของศิลปะการผสมเครื่องดื่มให้ก้าวไกลยิ่งขึ้นสูตร Tiramisu Milk Punch ที่คิดค้นโดย Darren นั้นประกอบด้วยส่วนผสมหลัก ได้แก่ รัม ซึ่งจะถูกนำไปแช่เย็นแบบสุญญากาศร่วมกับ Cacao Nibs เป็นเวลา 30 นาที ที่อุณหภูมิ 52 องศาเซลเซียส กรรมวิธีดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้รัมซึมซับรสชาติของโกโก้ได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ได้รสชาติของเครื่องดื่มที่ลุ่มลึก และซับซ้อน
ส่วน Savoiardi (เลดี้ฟิงเกอร์) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำ Tiramisu จะถูกนำมาบดละเอียด แล้วนำไปแช่กับนม เพื่อสร้างเป็นสารสกัดที่มีรสชาติอ่อนโยน และนุ่มนวล ซึ่งเทคนิคการทำ Tiramisu Milk Punch ยังคงใช้เทคนิคเดียวกับ Milk Punch ในศตวรรษที่ 18 นั่นคือการใช้กระบวนการ Milk Clarification (การทำให้ใสด้วยนม)
การผสมผสานวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์
Tiramisu Milk Punch เป็นตัวอย่างสำคัญของสิ่งที่เรียกว่า Cultural Fusion (การผสมผสานทางวัฒนธรรม) ในศิลปะการทำเครื่องดื่ม โดยความสำคัญของเครื่องดื่มนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการที่บาร์เทนเดอร์สมัยใหม่ไม่ได้ยึดติดกับสูตรคลาสสิกเท่านั้น แต่กลับค้นหาวิธีการใหม่ในการนำรสชาติแบบดั้งเดิมมาเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์อันสร้างสรรค์ที่มอบให้แก่ลูกค้าจากบาร์สู่กระแสระดับโลก
ปัจจุบัน Tiramisu Milk Punch ได้พัฒนาจากการเป็นเครื่องดื่มของบาร์เพียงแห่งเดียวไปเป็นปรากฏการณ์ระหว่างประเทศในวงการคอกเทล ซึ่งบาร์ Capitano เมืองเมลเบิร์น ยังคงเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม Milk Punch และ Tiramisu Milk Punch Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จัก Pornstar Martini (พอร์นสตาร์ มาร์ตินี่) ค็อกเทลรสเสาวรสที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และจัดอยู่ในประเภทค็อกเทลคลาสสิกสมัยใหม่
ทำความรู้จัก Death Flip (เดธฟลิป) ค็อกเทลยุคใหม่จากออสเตรเลียที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ค็อกเทลคลาสสิค
ทำความรู้จัก LL&B หรือ Lemon, Lime and Bitters เครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศออสเตรเลีย