The Judgment of Paris EP : 2

เช้าวันประวัติศาสตร์แห่งการเปลี่ยนแปลงของโลกไวน์

เช้าวันนั้นภายในโรงแรม InterContinental ณ กรุงปารีส ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวัง และความสงสัยใคร่รู้จากบรรดาผู้เชี่ยวชาญไวน์ และสื่อมวลชนที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน โดย Steven ได้จัดเตรียมไวน์ทั้งหมด 20 ขวด เพื่อใช้ในการชิมแบบ Blind Tasting โดยแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่

การแบ่งประเภทของไวน์ที่เข้าร่วมการตัดสิน

ไวน์ขาวจำนวน 10 ขวด Chardonnay จากแคลิฟอร์เนีย 6 ขวด และจาก Burgundy ประเทศฝรั่งเศส 4 ขวด
ไวน์แดงจำนวน 10 ขวด Cabernet Sauvignon จากแคลิฟอร์เนีย 6 ขวด และจาก Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส 4 ขวด

รูปแบบการชิมไวน์แบบ Blind Tasting

ไวน์ทั้งหมดถูกห่อด้วยถุงกระดาษสีน้ำตาล เพื่อปิดบังฉลากไม่ให้คณะกรรมการรู้แหล่งที่มา โดยการตัดสินจะพิจารณาจากเพียงกลิ่น รสชาติ และความประทับใจเท่านั้น โดยใช้ระบบให้คะแนนเต็ม 20 คะแนน ซึ่งเป็นมาตรฐานการชิมไวน์แบบฝรั่งเศส

การเริ่มต้นของการชิมไวน์ขาว

การชิมเริ่มต้นด้วยไวน์ขาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความตั้งใจ และความตื่นเต้น คณะกรรมการหลายคนแสดงความประทับใจกับไวน์บางขวดอย่างชัดเจน พวกเขาเอ่ยชื่นชมด้วยความมั่นใจว่า นี่คือ Chardonnay ชั้นเลิศแน่นอน ต้องมาจาก Burgundy!

การค้นพบที่ไม่คาดคิด Chardonnay จากแคลิฟอร์เนีย

เสียงหัวเราะ และคำชื่นชมดังขึ้นทั่วห้องโดยไม่มีใครคาดคิดว่า ไวน์ที่ทุกคนกำลังกล่าวยกย่องอยู่นั้นไม่ได้มาจากฝรั่งเศส แต่เป็น Chardonnay จากแคลิฟอร์เนีย

การชิมไวน์แดงและการประกาศผล

หลังจากนั้นไวน์แดง Cabernet Sauvignon ก็ถูกเสิร์ฟตามมาอย่างเงียบงัน กรรมการลงคะแนนอย่างตั้งใจ โดยไม่มีใครรู้ว่ากำลังจะเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนี้
เมื่อคะแนนถูกนับรวม เสียงกระซิบในห้องเริ่มดังขึ้น...

ผลการตัดสินที่สั่นสะเทือนวงการ

ไวน์ที่ได้คะแนนสูงสุดในประเภทไวน์ขาวคือ Chateau Montelena Chardonnay 1973 จากแคลิฟอร์เนีย และไวน์แคลิฟอร์เนียอีกสามรายการก็ติดอยู่ใน 5 อันดับแรก ส่วนไวน์แดงที่ได้คะแนนสูงสุดคือ Stags Leap Wine Cellars Cabernet Sauvignon 1973 จาก Napa Valley

ช่วงเวลาที่โลกไวน์ต้องหยุดนิ่ง

โลกเหมือนหยุดหมุนไปชั่วขณะ กรรมการบางคนถึงกับอึ้งเงียบไป บางคนปฏิเสธจะเชื่อในสิ่งที่เห็น Odette Kahn บรรณาธิการนิตยสาร La Revue du Vin de France ถึงกับขอเอกสารคืน โดยกล่าวว่า มันคงมีความผิดพลาด ฉันขอเปลี่ยนคะแนนได้ไหม แต่ Steven ปฏิเสธ เพราะผลได้ถูกประกาศไปแล้ว และมันกลายเป็นข่าวที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลก

คำยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเศส

Pierre Brejoux หัวหน้าสำนักงานไวน์แห่งชาติฝรั่งเศส กล่าวว่า ผมตกใจมาก แต่นี่ก็เป็นความจริง ไวน์เหล่านี้มีคุณภาพดีจริง ๆ

นักข่าวเพียงหนึ่งเดียวที่กล้าบันทึกประวัติศาสตร์

เหตุการณ์นี้อาจถูกลืมไปในประวัติศาสตร์ หากไม่ใช่เพราะนักข่าวเพียงคนเดียวที่อยู่ในงานวันนั้นที่กล้าเขียนข่าวนี้ George M. Taber (จอร์จ เอ็ม. เทเบอร์) จากนิตยสาร Time Magazine เขาเขียนบทความชื่อ Judgment of Paris และตีพิมพ์ในเดือนต่อมา บทความนั้นเริ่มต้นด้วยประโยคที่ทำให้นักดื่มไวน์ทั่วโลกต้องหยุดอ่าน

The unthinkable happened : California defeated France in a blind wine tasting in Paris.

จุดเริ่มต้นของตำนานไวน์แคลิฟอร์เนีย

บทความดังกล่าวทำให้ชื่อเสียงของ Chateau Montelena และ Stags Leap จากแคลิฟอร์เนียกลายเป็นตำนานในชั่วข้ามคืน Mike Grgich ผู้ผลิตไวน์ที่ Chateau Montelena กล่าวว่า วันนั้นเปรียบเสมือนวันที่เรายืนยันว่าเรามีสิทธิ์อยู่บนเวทีโลก เราไม่ได้ด้อยกว่าฝรั่งเศส

เสียงสะท้อนจากผู้ชนะ

Warren Winiarski เจ้าของ Stag's Leap Wine Cellars กล่าวว่า ผมไม่ได้ตั้งใจจะท้าทายฝรั่งเศส ผมแค่ทำไวน์ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ แต่เหตุการณ์นี้พิสูจน์ว่าที่นี่ในหุบเขา Napa Valley เรามีดินฟ้าอากาศ และความรู้ที่จะผลิตไวน์ชั้นเลิศได้

ผลกระทบต่อวงการไวน์โลก

เมื่อผลลัพธ์เผยแพร่ออกไป ชาวฝรั่งเศสแทบไม่ยอมรับผลการตัดสิน บางสำนักข่าวปฏิเสธจะรายงาน บางคนกล่าวว่ามันเป็น เรื่องบังเอิญ แต่ในสหรัฐอเมริกาเหตุการณ์นี้กลายเป็นความภาคภูมิใจระดับชาติ และเป็นแรงผลักดันให้วงการไวน์แคลิฟอร์เนียเติบโตอย่างก้าวกระโดด

Steven Spurrier ผู้จุดประกายการเปลี่ยนแปลง

Steven เองก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากชาวฝรั่งเศสในช่วงแรก โดยเขาถูกกล่าวหาว่าทรยศต่อวงการไวน์ฝรั่งเศส แต่เขากล่าวว่า ผมไม่เคยคิดจะทำลายชื่อเสียงของไวน์ฝรั่งเศส ผมแค่อยากแสดงให้เห็นว่าโลกกว้างกว่าที่เราคิด และมีผู้ผลิตไวน์ที่ดีมากมายนอกเหนือจากฝรั่งเศส

การจัดการแข่งขันซ้ำเพื่อพิสูจน์ความจริง

อย่างไรก็ตามเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาเหล่านี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976 เป็นต้นมาก็ได้มีการจัดการแข่งขันซ้ำหลายครั้ง ซึ่งไวน์แคลิฟอร์เนียเดิมก็ยังคงได้คะแนนสูงกว่าไวน์ฝรั่งเศส ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าไวน์แคลิฟอร์เนียไม่เพียงแต่ดีในช่วงอายุน้อย แต่ยังมีศักยภาพในการพัฒนารสชาติได้ดีเทียบเท่าไวน์ฝรั่งเศส

จุดเริ่มต้นของยุค New World Wines

หลังจากเหตุการณ์ The Judgment of Paris โลกของไวน์ก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล วงการไวน์โลกได้เปิดกว้างต้อนรับสิ่งที่เรียกว่า New World Wines (ไวน์โลกใหม่) อย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่เพียงแต่ไวน์จากแคลิฟอร์เนียเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับ หากแต่ยังรวมถึงไวน์จากประเทศผู้ผลิตหน้าใหม่อย่าง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี อาร์เจนตินา และแอฟริกาใต้ด้วย

บทเรียนสำคัญจากเหตุการณ์ในตำนาน

การแข่งขันครั้งนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ไวน์ที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเพณีหรือชื่อเสียงอันยาวนานเพียงอย่างเดียว หากแต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพที่แท้จริงของไวน์

การเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคทั่วโลก

สำหรับผู้บริโภคเหตุการณ์นี้ได้เปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับไวน์ ผู้คนเริ่มตระหนักว่าราคาแพง และชื่อเสียงไม่ได้รับประกันคุณภาพเสมอไป โดย Blind Tasting กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการประเมินไวน์อย่างยุติธรรม

คำกล่าวที่สะท้อนใจจาก Warren Winiarski

Warren Winiarski เจ้าของ Stag's Leap Wine Cellars ได้สรุปความหมายของเหตุการณ์นี้ไว้อย่างสวยงามว่า

The Judgment of Paris ไม่ได้บอกว่าไวน์อเมริกันดีกว่าไวน์ฝรั่งเศส มันบอกว่าไวน์ที่ดีสามารถมาจากที่ไหนก็ได้ ถ้าคุณมีดิน มีภูมิอากาศ และมีคนที่มีความหลงใหล และทุ่มเท

เกียรติยศของ Steven Spurrier และมรดกแห่งโลกไวน์

หลังจากเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นั้น Steven ก็ได้รับเกียรติยศมากมายในชีวิต เขาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง Order of the British Empire (OBE) และได้รับรางวัล Lifetime Achievement Award จากหลายองค์กรในแวดวงไวน์ระดับนานาชาติ เพื่อเป็นเกียรติแก่บทบาทอันยิ่งใหญ่ของเขาในการเปลี่ยนมุมมองของไวน์ในสายตาชาวโลก

คำกล่าวสุดท้ายของ Steven Spurrier

ก่อนที่จะจากไปในปี ค.ศ. 2021 Steven ได้กล่าวไว้ด้วยความถ่อมตนว่า

ผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงวงการไวน์ แม้ว่าในตอนนั้นผมจะไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้นก็ตาม

มรดกแห่งแรงบันดาลใจ

ถ้อยคำที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจของผู้ที่รักในไวน์อย่างแท้จริง ผู้ที่เชื่อว่าความงดงามของไวน์ ไม่ได้อยู่ที่ชื่อเสียงหรือความหรูหรา แต่อยู่ที่การเปิดใจ และการให้โอกาสกับสิ่งใหม่ ๆ ที่อาจเปลี่ยนโลกได้ในที่สุด

มรดกของ The Judgment of Paris ที่ยังคงอยู่

เกือบห้าทศวรรษผ่านไป เหตุการณ์ The Judgment of Paris ยังคงถูกพูดถึงในทุกสถาบันสอนไวน์ เพราะเหตุการณ์นี้เป็นทั้งตำนาน และแรงบันดาลใจให้กับผู้ผลิตไวน์ทั่วโลก มันสอนเราว่า ชื่อเสียงไม่อาจกำหนดคุณค่าได้เสมอไป และคุณภาพสามารถเกิดขึ้นได้จากทุกที่ หากมีความมุ่งมั่น และความเชื่อในสิ่งที่ทำ

The End........