Alaska Seafood (อลาสก้าซีฟู้ด)
อัพเดทล่าสุด: 11 พ.ย. 2025

Alaska เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีทรัพยากรทางทะเลอุดมสมบูรณ์ที่สุดของสหรัฐอเมริกา และยังเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้งในด้านรสชาติ คุณภาพ และมาตรฐานความยั่งยืนที่เป็นแบบอย่างให้กับอุตสาหกรรมประมงทั่วโลก
วิกฤตปลาแซลมอนและจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมประมง
ในช่วงทศวรรษ 1950 ก่อนที่ Alaska จะได้รับสถานะเป็นรัฐอย่างเป็นทางการ อุตสาหกรรมประมงปลาแซลมอนของ Alaska ได้เผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการบริหารจัดการทรัพยากรที่ผิดพลาด และขาดความยั่งยืนเป็นเวลาหลายทศวรรษการทำประมงที่เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ และการขาดการควบคุมอย่างเป็นระบบส่งผลให้ประชากรปลาแซลมอนในธรรมชาติลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงทศวรรษ 1950 ปริมาณปลาแซลมอนที่จับได้ลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับช่วงทศวรรษ 1930 สถานการณ์ดังกล่าวไม่เพียงกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลเท่านั้น แต่ยังส่งผลร้ายแรงต่อชุมชนชาวประมงท้องถิ่น ซึ่งพึ่งพาอาศัยการจับปลาเป็นอาชีพหลักมาหลายชั่วอายุคน
การประกาศหลักการ ความยั่งยืน ในรัฐธรรมนูญ
ต่อมาเมื่อ Alaska ได้รับสถานะเป็นรัฐลำดับที่ 49 ของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1959 ผู้นำของรัฐได้ตัดสินใจบรรจุหลักการความยั่งยืนไว้โดยตรงในรัฐธรรมนูญของรัฐ Alaska ในมาตรา 8 ข้อ 4 โดยระบุไว้อย่างชัดเจนว่าปลา ป่าไม้ สัตว์ป่า ทุ่งหญ้า และทรัพยากรอื่น ๆ ที่สามารถฟื้นฟูได้ทั้งหมดเป็นของประชาชน และต้องได้รับการจัดการภายใต้หลักการผลผลิตที่ยั่งยืน
บทบัญญัติดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงแค่คำประกาศเชิงสัญลักษณ์ แต่เป็นคำมั่นสัญญาที่ชัดเจนต่อคนรุ่นหลังว่าทรัพยากรธรรมชาติของ Alaska จะไม่ถูกใช้เกินขนาด หรือถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างไร้ขอบเขต ซึ่ง Alaska ถือเป็นรัฐเดียวในสหรัฐอเมริกาที่มีการบัญญัติเรื่องความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติไว้อย่างเป็นทางการในรัฐธรรมนูญ
แนวคิดการจัดการทรัพยากรที่สมดุล
แนวคิดนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงวิสัยทัศน์อันก้าวไกลของผู้นำรัฐ แต่ยังกลายเป็นพื้นฐานสำคัญของการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอาหารทะเลของ Alaska ที่เน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชนท้องถิ่นอย่างสมดุล ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือระบบการทำประมงที่โปร่งใส ยั่งยืน และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติการฟื้นฟูประชากรปลาแซลมอนและระบบนิเวศ
หลังจากที่ Alaska เริ่มบังคับใช้นโยบาย Sustained Yield Principle (ผลผลิตที่ยั่งยืน) อย่างจริงจัง ประชากรปลาแซลมอนในพื้นที่ก็เริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ จากสถานการณ์ที่เคยใกล้สูญพันธุ์ กลับกลายเป็นหนึ่งในระบบนิเวศทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลกในปัจจุบันทุกปีชาวประมงใน Alaska จะสามารถจับปลาแซลมอนธรรมชาติได้มากกว่า 200 ล้านตัว โดยไม่กระทบต่อการสืบพันธุ์ และความสมดุลของระบบนิเวศ ซึ่งผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่นี้เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ นักการเมือง ชาวประมง นักอนุรักษ์ และผู้บริโภค
การก่อตั้ง Alaska Seafood Marketing Institute (ASMI)
ในปี ค.ศ. 1981 สภานิติบัญญัติแห่งรัฐ Alaska ได้ออกกฎหมายจัดเก็บภาษีจากอุตสาหกรรมอาหารทะเล เพื่อนำรายได้ดังกล่าวมาใช้ในการจัดตั้งองค์กร Alaska Seafood Marketing Institute (ASMI) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากชาวประมงทั่วทั้งรัฐการก่อตั้ง ASMI ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ที่ช่วยผลักดันให้ Alaska ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำระดับโลกด้านอุตสาหกรรมอาหารทะเลที่ยั่งยืน
บทบาทของ ASMI ต่อความยั่งยืนระดับโลก
ด้วยแนวทางการบริหารจัดการที่โปร่งใส และมุ่งเน้นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน องค์กรนี้จึงกลายเป็นองค์กรตัวอย่างด้านการตลาด และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนชื่อเสียงของ Alaska Seafood ให้เป็นที่ยอมรับทั่วโลกน่านน้ำที่สะอาดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
น่านน้ำของรัฐ Alaska ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ทางทะเลที่สะอาด และอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่รายล้อมด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ และสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำตลอดปี น้ำทะเลในบริเวณนี้จึงมีคุณภาพสูง สะอาด ปราศจากมลพิษ และอุดมไปด้วยสารอาหารตามธรรมชาติอาหารทะเลจากการจับธรรมชาติ
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้อาหารทะเลจาก Alaska โดดเด่นกว่าแหล่งอื่น คือการจับสัตว์ทะเลส่วนใหญ่จะเป็นแบบ จับจากธรรมชาติ ไม่ใช่จากฟาร์มเพาะเลี้ยงขนาดใหญ่ ปลาและสัตว์ทะเลทุกตัวจึงเติบโตในระบบนิเวศที่สมดุล ได้รับสารอาหารจากธรรมชาติ ทำให้เนื้อปลามีรสชาติเข้มข้น สดแน่น และมีไขมันที่สมดุลกว่าระบบการตรวจสอบย้อนกลับที่โปร่งใส
กระบวนการผลิตอาหารทะเลจากรัฐ Alaska มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจับ การแปรรูป ไปจนถึงการจัดส่ง โดยมีระบบการตรวจสอบย้อนกลับที่เข้มงวด เพื่อให้สามารถระบุได้ว่าปลามาจากพื้นที่ใด และผ่านกระบวนการใดมาตรการเหล่านี้ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของ ASMI เพื่อรับรองว่าอาหารทะเลทุกชนิดที่ติดฉลาก Alaska Seafood เป็นผลผลิตจากการทำประมงที่มีความรับผิดชอบ และยั่งยืนอย่างแท้จริง
บทบาทของ USDA ต่ออุตสาหกรรมอาหารทะเล Alaska
แม้อุตสาหกรรมประมงของ Alaska จะอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ และรัฐบาลกลาง แต่ก็มีความสัมพันธ์อย่างชัดเจนกับหน่วยงาน USDA (United States Department of Agriculture) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักด้านเกษตรกรรมและอาหารของสหรัฐฯUSDA มีบทบาทสำคัญในด้านต่าง ๆ เช่น
- โครงการจัดซื้ออาหาร (USDA Purchase Programs) : จัดซื้ออาหารทะเลจาก Alaska เพื่อนำไปใช้ในโรงเรียน โรงพยาบาล และกองทัพ
- มาตรฐานความปลอดภัยอาหาร: ตรวจสอบคุณภาพและสุขอนามัยของผลิตภัณฑ์
- การสนับสนุนการวิจัยและการส่งออก: ยกระดับเทคโนโลยีและมาตรฐานให้แข่งขันในตลาดโลกได้
ความร่วมมือที่เสริมความเชื่อมั่นระดับโลก
ความร่วมมือระหว่าง USDA และ ASMI มีส่วนช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั่วโลกว่า อาหารทะเลจาก Alaska ไม่เพียงเป็นผลผลิตจากการทำประมงอย่างยั่งยืน แต่ยังผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานของรัฐบาลสหรัฐฯความหลากหลายของสัตว์ทะเลจาก Alaska
รัฐ Alaska มีสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด โดยเฉพาะปลาแซลมอน ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ เช่น Sockeye, Pink และ Chum Salmon นอกจากนี้ยังมี Pollock, Cod, กุ้ง, หอย และปู หลากหลายชนิด ซึ่งจับได้ตามฤดูกาลตลอดทั้งปีผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพระดับพรีเมียม
ด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ และระบบการจัดการประมงที่ยั่งยืน Alaska จึงสามารถผลิตอาหารทะเลได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบสด และแปรรูป เช่น- ปลาแช่แข็ง
- ปลา Fillet หรือ Steak Cut สำหรับอาหารระดับพรีเมียม
- อาหารทะเลพร้อมรับประทาน
- อาหารทะเลกระป๋องที่สะดวกต่อการขนส่ง
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จัก USA Pulses และ U.S. Dry Bean Council (USDBC) สมาคมที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมถั่วในสหรัฐอเมริกา
ทำความรู้จัก California Dairy ผลิตภัณฑ์นมชั้นนำจากรัฐ California ซึ่งเป็นผู้ผลิตนมรายใหญ่ที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกา
ทำความรู้จัก California Raisin ลูกเกดคุณภาพสูงที่ผลิตในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา


