Flæskesteg (แฟลสกือสไต)
อัพเดทล่าสุด: 16 ธ.ค. 2025

Flæskesteg (แฟลสกือสไต) หรือที่รู้จักในภาษาไทยว่า หมูย่างสไตล์เดนมาร์ก ถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารประจำชาติที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของประเทศเดนมาร์ก ลักษณะเด่นของเมนูนี้อยู่ที่การเลือกใช้เนื้อหมูส่วนสันคอ หรือส่วนที่มีหนังติดอยู่ จากนั้นนำไปปรุงรส และอบอย่างพิถีพิถันจนหนังหมูพองตัว และกรอบฟูในขณะที่เนื้อด้านในยังคงความนุ่ม และชุ่มฉ่ำ
ความหมายและรากศัพท์ของคำว่า Flæskesteg
คำว่า Flæskesteg ในภาษาเดนมาร์กประกอบด้วยคำสองส่วน โดยคำว่า Flæsk มีรากศัพท์มาจากภาษานอร์สโบราณคำว่า Flesk หมายถึงเนื้อหมู เบคอน หรือไขมันหมู และได้พัฒนาความหมายมาในภาษาเดนมาร์กสมัยใหม่ เพื่อสื่อถึงเนื้อหมูที่มีไขมันแทรกอยู่มากเป็นพิเศษ ขณะที่คำว่า Steg มาจากภาษานอร์สโบราณคำว่า Steikja ซึ่งเป็นคำกริยาที่แปลว่า ย่าง หรือ อบ สะท้อนถึงวิธีการปรุงอาหารเมนูนี้ ซึ่งเป็นการนำเนื้อหมูไปอบในเตาการบริโภคเนื้อหมูและวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองในสแกนดิเนเวีย
ชาวเดนมาร์กนิยมบริโภคเนื้อหมูมานานหลายศตวรรษ โดยเฉพาะในช่วงยุคกลาง ซึ่งการเลี้ยงหมูแพร่หลายไปทั่วภูมิภาคสแกนดิเนเวีย อย่างไรก็ตามในยุคนั้นการย่างเนื้อหมูมักจะเกิดขึ้นในโอกาสพิเศษ และงานเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลครีษมายัน ซึ่งเป็นพิธีกรรมสำคัญที่ได้รับอิทธิพลจากประเพณีของชาวไวกิ้ง ด้วยเหตุนี้การย่างเนื้อหมูจึงไม่ใช่เพียงการปรุงอาหารเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองของชาวสแกนดิเนเวียในอดีตอีกด้วยจุดเปลี่ยนของ Flæskesteg หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม
แม้ว่าการบริโภคเนื้อหมูย่างจะมีมานานหลายศตวรรษ แต่เนื้อหมูย่างในรูปแบบของ Flæskesteg เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมราวปี ค.ศ. 1860 เมื่อเตาอบเริ่มถูกนำมาใช้ในครัวเรือนทั่วไปอย่างกว้างขวางบทบาทของเตาอบสมัยใหม่ต่อคุณภาพของ Flæskesteg
ก่อนหน้านั้นอาหารส่วนใหญ่มักปรุงด้วยเตาผิงแบบเปิด ซึ่งมีข้อจำกัดด้านการควบคุมอุณหภูมิ อย่างไรก็ตามการพัฒนาเทคโนโลยีเตาอบสมัยใหม่ ช่วยให้สามารถควบคุมความร้อนได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ส่งผลให้การย่างเนื้อสัตว์สุกอย่างสม่ำเสมอ และสามารถทำให้หนังหมูกรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นวิธีการเตรียม Flæskesteg แบบดั้งเดิม
วิธีการเตรียม Flæskesteg แบบดั้งเดิมคือการนำเนื้อหมูส่วนคอ หรือส่วนที่ติดหนังมาอบโดยไม่เอาหนังออก ก่อนนำไปอบจะใช้มีดคมกรีดหนังเป็นแนวแถบแคบ ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยกรีดลึกลงไปจนถึงชั้นเนื้อ แต่ไม่ให้ตัดขาด เพื่อช่วยให้ความร้อนแทรกซึมได้ทั่วถึงกลไกความกรอบของหนังหมู
ความกรอบของหนังหมูเกิดจากน้ำปริมาณเล็กน้อยที่สะสมอยู่ในชั้นผิวหนัง เมื่อถูกความร้อนจะระเหยกลายเป็นไอ ทำให้เกิดฟองอากาศขนาดเล็กภายในหนัง ซึ่งเมื่อแข็งตัวแล้วจะก่อให้เกิดเนื้อสัมผัสที่กรอบฟู อันเป็นหัวใจสำคัญของ Flæskestegประเภทของเนื้อหมูที่นิยมใช้ทำ Flæskesteg
ในประเทศเดนมาร์กเนื้อหมูที่นิยมใช้ทำ Flæskesteg มีอยู่หลัก ๆ สามส่วน ได้แก่ สันใน (Svinekam, สันข้าง (Ribbenssteg) ซึ่งมีลักษณะคล้ายหมูสามชั้นที่มีความหนา และส่วนหลังใกล้คอ (Nakkekam) ซึ่งมีลักษณะคล้ายคอปปามีชั้นไขมันหนา และหนังติดอยู่องค์ประกอบสำคัญที่กำหนดคุณภาพของ Flæskesteg
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกใช้เนื้อหมูส่วนไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีชั้นไขมันที่เหมาะสม และหนังหมูที่ติดอยู่ครบถ้วน เนื่องจากองค์ประกอบทั้งสองส่วนนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ Flæskesteg มีคุณภาพดี ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มฉ่ำ และหนังกรอบฟูFlæskesteg กับบทบาทในเทศกาลคริสต์มาสของเดนมาร์ก
Flæskesteg มีบทบาทสำคัญในประเพณีวันหยุดของประเทศเดนมาร์ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะ เมนูหลักของการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส อาหารจานนี้ถูกจัดเสิร์ฟเป็นจานหลักในวัน Juleaften หรือคืนวันคริสต์มาสอีฟ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ศตวรรษที่ 19การรับประทาน Flæskesteg ตลอดทั้งปีของชาวเดนมาร์ก
แม้ว่า Flæskesteg จะมีความเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นกับเทศกาลคริสต์มาส แต่ในความเป็นจริงชาวเดนมาร์กนิยมรับประทานอาหารเมนูนี้ตลอดทั้งปี โดยมักจับคู่กับ Rødkål (กะหล่ำปลีแดง) รวมถึง Brunede kartofler (มันฝรั่งคาราเมล) และมันฝรั่งต้มแบบดั้งเดิมFlæskesteg ในรูปแบบ Smørrebrød
นอกจากนี้ Flæskesteg ยังถูกนำไปดัดแปลงเป็นอีกหนึ่งรูปแบบยอดนิยม คือ Flæskesteg ในสไตล์ Smørrebrød ซึ่งเป็นแซนด์วิชเปิดหน้าสไตล์เดนมาร์กที่สะท้อนการนำอาหารดั้งเดิมมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัวความนิยมของ Flæskesteg ในประเทศนอร์เวย์
นอกจากประเทศเดนมาร์กแล้ว Flæskesteg ยังได้รับความนิยมในประเทศนอร์เวย์ด้วย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งมักถูกจัดเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงแบบดั้งเดิมของนอร์เวย์ เช่น แอปเปิ้ลทอด และไส้กรอกหมูขนาดเล็กความแตกต่างระหว่าง Flæskesteg แบบเดนมาร์กและนอร์เวย์
Flæskesteg ในแบบของนอร์เวย์มีความแตกต่างจากแบบเดนมาร์ก โดยเฉพาะในขั้นตอนการกรีดหนังหมู ในเดนมาร์กหนังหมูจะถูกกรีดเป็นเส้นยาวตรงตลอดแนว ทำให้ง่ายต่อการตัด และเสิร์ฟเป็นชิ้น ๆ ขณะที่ในนอร์เวย์หนังหมูจะถูกกรีดเป็นลวดลายสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 11.5 นิ้ว เนื่องจากหนังที่กรอบจัดทำให้การตัดผ่านทำได้ยากกว่า ดังนั้นเนื้อหมูจึงมักถูกเสิร์ฟเป็นชิ้นเล็กแต่มีความหนามากกว่า Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จัก St. Basils Cake (เซนต์เบซิล) หรือ Vasilopita (วาซิโลปิตา) เค้กฉลองปีใหม่ของชาวกรีซ และประเทศอื่นๆในยุโรปตะวันออก
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ Gingerbread (จินเจอร์เบรด) ขนมปังขิงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ Panettone (ปาเนตโตเน) จากขนมปังเรียบง่าย สู่ขนมประจำเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ของชาวอิตาลี


