Sarson's (ซาร์สัน)
น้ำส้มสายชูเป็นเครื่องปรุงรสที่ใช้ในการปรุงอาหารมาอย่างยาวนาน แต่นอกจากนี้แล้วยังมีบทบาทสำคัญในการถนอมอาหาร และส่งเสริมสุขภาพอีกด้วย ซึ่งในสหราชอาณาจักร Sarson's (ซาร์สัน) ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำส้มสายชูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยได้รับการยอมรับมานานกว่า 150 ปี
จากโรงงานเล็กในลอนดอนสู่แบรนด์ระดับประเทศ
เรื่องราวของ Sarson's เริ่มต้นขึ้นในปี 1794 โดย Thomas Sarson พ่อค้าชาวยิวผู้ก่อตั้งธุรกิจผลิตน้ำส้มสายชูขนาดเล็กใน Craven Street กรุงลอนดอน ซึ่งในช่วงแรก Sarson's เป็นเพียงแบรนด์ท้องถิ่นที่ผลิตน้ำส้มสายคุณภาพสูงสำหรับชุมชนเท่านั้น
ในปี 1850 Henry James Sarson ลูกชายของ Thomas เข้ามารับช่วงกิจการต่อ จากนั้นน้ำส้มสายชู Sarson's ก็ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในชื่อ Sarson's Virgin Vinegar ในปี 1884 และด้วยความมุ่งมั่นในการผลิตน้ำส้มสายชูคุณภาพสูง Sarson's จึงค่อย ๆ ขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลานี้ Sarson's ได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะผู้ผลิตน้ำส้มสายชูชั้นนำของอังกฤษ และการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงเวลานี้ช่วยให้ Sarson's สามารถเพิ่มกำลังการผลิต และกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ห่างไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Sarson's ยังคงรักษามาตรฐานการผลิตที่สูง โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพดี และกระบวนการหมักแบบดั้งเดิมที่ส่งผลให้ได้น้ำส้มสายชูที่มีรสชาติเข้มข้น และกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ยุคทองของ Sarsons และนวัตกรรมต่อเนื่อง
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 Sarson's ได้นำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญคือการผลิตน้ำส้มสายชูแบบใส (Distilled Vinegar) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่แม่บ้าน และเชฟมืออาชีพ นอกจากนี้ Sarson's ยังได้ขยายสายผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย เช่น น้ำส้มสายชูหมักจากมอลต์ (Malt Vinegar) และน้ำส้มสายชูหมักจากไวน์ (White Wine Vinegar)
ในช่วงเวลานี้ถือเป็นยุคทองของ Sarson's เลยก็ว่าได้ เนื่องจากบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยสามารถผลิตน้ำส้มสายชูได้มากกว่า 1 ล้านแกลลอนต่อปี และในปี 1932 บริษัท Sarson's ก็ได้ควบรวมกิจการกับผู้ผลิตน้ำส้มสายชูสัญชาติอังกฤษรายอื่น ๆ เพื่อก่อตั้งเป็น British Vinegars Ltd.
ในปี 1968 Sarson's ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังเมืองมิดเดิลตัน และเริ่มต้นบทใหม่ด้วยการออกแบบขวดแก้วทรงหยดน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ ทำการตลาดผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรก สิ่งนี้ทำให้ Sarson's เป็นที่รู้จัก และเป็นที่จดจำของผู้บริโภคชาวอังกฤษมากยิ่งขึ้น
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา Sarson's ได้เปลี่ยนมือเจ้าของหลายครั้ง โดยครั้งแรกถูกซื้อกิจการโดย Crosse & Blackwell ต่อมา Nestlé ได้เข้าซื้อกิจการ ก่อนจะขายต่อให้กับ Premier Foods ในปี 2002 และในปี 2012 บริษัท Mizkan ผู้ผลิตน้ำส้มสายชูจากประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าซื้อกิจการ และกลายเป็นเจ้าของจนถึงปัจจุบัน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Sarson's ประสบความสำเร็จ
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Sarson's ประสบความสำเร็จ คือความสามารถในการปรับตัวเข้ากับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะเดียวกันก็ยังคงมุ่งมั่นรักษาคุณภาพ โดย Sarson's ได้นำเทคนิคการผลิตสมัยใหม่มาใช้โดยไม่ละทิ้งวิธีการหมักแบบดั้งเดิมที่ทำให้ผลิตภัณฑ์น้ำส้มสายชูของ Sarson's เป็นที่นิยม การรักษาสมดุลระหว่างประเพณี และนวัตกรรมนี้เองที่ทำให้ Sarson's ยังคงเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคชาวอังกฤษ และทั่วโลกไว้วางใจ
สามารถหาซื้อน้ำส้มสายชูของ Sarson's ได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ