แชร์

Couscous (คูสคูส)

Couscous (คูสคูส) : เมล็ดข้าวสาลีแห่งวัฒนธรรมจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

เมื่อกล่าวถึงอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ชื่อของ Couscous (คูสคูส) ย่อมเป็นที่คุ้นหูในฐานะอาหารหลักที่สำคัญและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ Couscous ไม่ได้เป็นเพียงธัญพืชทั่วไป แต่เป็นอาหารที่ทำจาก เซโมลินา (Semolina) ซึ่งเป็นแป้งที่ได้จากการบดข้าวสาลีดูรัม (Durum) นำมานึ่งให้สุกจนกลายเป็นเม็ดเล็กๆ นุ่มฟูคล้ายเม็ดข้าว มีรสสัมผัสและกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่แตกต่างจากข้าวทั่วไป ทำให้เป็นที่นิยมนำไปประกอบอาหารหลากหลายประเภท

ย้อนรอยต้นกำเนิดของ Couscous: จากชาวเบอร์เบอร์สู่มรดกโลก

ประวัติศาสตร์ของ Couscous นั้นย้อนกลับไปนานกว่าหลายพันปี โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคที่ ชาวเบอร์เบอร์ (Berber) ซึ่งเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นประเทศโมร็อกโก แอลจีเรีย ตูนิเซีย และลิเบียในปัจจุบัน นักประวัติศาสตร์ได้ค้นพบร่องรอยของ Couscous ในหลุมฝังศพจาก ศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล ในสมัยของ Masinissa กษัตริย์เบอร์เบอร์แห่ง Numidia ซึ่งเป็นหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดที่บ่งชี้ถึงการบริโภคอาหารชนิดนี้

หลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบเป็นอุปกรณ์ทำอาหารโบราณที่มีลักษณะคล้ายหม้อนึ่ง Couscous ในปัจจุบัน ซึ่งนักประวัติศาสตร์เชื่อว่า Couscous อาจได้รับการพัฒนาขึ้นมาให้เป็นอาหารที่มีประโยชน์และมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับวิถีชีวิตของชาวเบอร์เบอร์ในอดีต เนื่องจาก เซโมลินา ซึ่งเป็นข้าวสาลีบดหยาบนั้นเป็นอาหารที่อิ่มท้อง มีประโยชน์หลากหลาย และที่สำคัญยังสามารถเก็บรักษาได้ง่าย จึงสะดวกสำหรับชนเผ่าเร่ร่อนในการพกพาไปในการเดินทางไกล แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาในการจัดการอาหารของบรรพบุรุษ

การเผยแพร่ของ Couscous: ข้ามพรมแดนสู่อารยธรรม

เมื่อแอฟริกาเหนือกลายเป็นจุดตัดระหว่างอารยธรรมต่างๆ ผ่านการค้าและการอพยพ Couscous จึงเริ่มแพร่หลายไปไกลกว่าชุมชนของชาวเบอร์เบอร์ การยึดครองอาณาจักรต่างๆ ของอาหรับใน ศตวรรษที่ 7 และ 8 มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ Couscous เป็นที่รู้จักในตะวันออกกลางและเมดิเตอร์เรเนียน และกลายเป็นอาหารหลักที่ถูกนำไปเผยแพร่ในวงกว้าง

เมื่อถึง ศตวรรษที่ 13 Couscous ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในอาณาจักรมัวร์ของสเปน ซึ่งชาวมัวร์ก็คือชาวเบอร์เบอร์ดั้งเดิมที่อพยพเข้ามาในสเปน และหลังจากอาณาจักรมัวร์ล่มสลาย ชุมชนชาวมัวร์ที่หลบหนีการข่มเหงในสเปนก็ได้นำ Couscous ติดตัวไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วย เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส และอิสราเอล ทำให้ Couscous แพร่หลายออกไปในยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ

ในช่วงศตวรรษที่ 13 นี้เอง ได้มี สูตร Couscous เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Maxime Rodinson ได้ค้นพบสูตรจากหนังสือสอนทำอาหารอาหรับชื่อ Kitab al-Wusla ila al-Habib, Kitab al tabikh และ Fadalat al-khiwan ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายและวิวัฒนาการของ Couscous ในช่วงเวลานั้น

หลังจาก Couscous เริ่มแพร่หลายไปในยุโรป ก็ได้รับการยอมรับและปรับให้เข้ากับรสนิยมของคนในท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างแอฟริกาเหนือและยุโรป แสดงให้เห็นถึงพลังของอาหารในการเชื่อมโยงผู้คนและวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน

Couscous ในวัฒนธรรมและความหลากหลายของภูมิภาค

Couscous เป็นอาหารที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมอย่างยิ่งในแอฟริกาเหนือ โดยมักจะทานกันในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด และวันหยุดทางศาสนา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองและการรวมตัวกันของครอบครัวและชุมชน

นอกจากนี้ Couscous ในแต่ละประเทศในแอฟริกาเหนือยังมีรูปแบบและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป เช่น:

  • ในโมร็อกโก: มักเสิร์ฟ Couscous พร้อมกับผักรวมและเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อแกะ หรือเนื้อไก่ ปรุงรสด้วยหญ้าฝรั่นและเครื่องเทศต่างๆ ทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติที่นุ่มนวล
  • ในตูนิเซีย: Couscous จะมีรสชาติเผ็ดร้อนกว่า มักทำด้วย ฮาริสสา (Harissa) ซึ่งเป็นซอสพริกตูนิเซีย เสิร์ฟพร้อมอาหารทะเล หรือเนื้อแกะ ซึ่งสะท้อนถึงรสนิยมอาหารที่ชอบความจัดจ้าน
  • ในแอลจีเรียและลิเบีย: ก็จะมีรสชาติและวิธีการปรุงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวเองเช่นกัน
ในปี 2020 องค์กร UNESCO ได้ประกาศให้ Couscous เป็นอาหารที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม โดยเพิ่ม Couscous เข้าไปในรายชื่อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Intangible Cultural Heritage of Humanity) ซึ่งการประกาศครั้งนี้เป็นการเน้นย้ำถึงวัฒนธรรมการทำ Couscous ที่หยั่งรากลึกในแอฟริกาเหนือ และความสำคัญของอาหารชนิดนี้ในฐานะสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของภูมิภาค

Couscous ในโลกสมัยใหม่: อาหารเพื่อสุขภาพและทางเลือกที่หลากหลาย

ปัจจุบัน Couscous ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และส่วนอื่นๆ ของโลก ซึ่งได้รับความนิยมในฐานะ อาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากมีประโยชน์หลากหลาย มีไขมันต่ำ และมีไฟเบอร์สูง ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือรักษาสุขภาพ

และนอกจากเซโมลินาแล้ว Couscous ยังสามารถทำมาจากธัญพืชชนิดอื่นๆ ได้ด้วย เช่น ข้าวบาร์เลย์ (Barley) หรือ ข้าวโพด (Corn) เพื่อรองรับผู้ที่แพ้กลูเตน และผู้ที่มีรสนิยมในการทำอาหารที่หลากหลาย ทำให้ Couscous กลายเป็นอาหารที่เข้าถึงง่ายและปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว

คุณสามารถหาซื้อ Couscous คุณภาพดี รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการรังสรรค์เมนู Couscous แสนอร่อยได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ เพื่อให้คุณได้สัมผัสรสชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารชนิดนี้ได้อย่างเต็มที่

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Yakgwa (ยักกวา, 약과)
ทำความรู้จัก Yakgwa (ยักกวา, 약과) ขนมหวานดั้งเดิมของเกาหลี
Songpyeon (ซงพยอน, 송편)
ทำความรู้จัก Songpyeon (ซงพยอน, 송편) ขนมต็อกพื้นเมืองของเกาหลี
Kimchi Bokkeumbap (กิมจิ บกกึมบับ, 김치볶음밥)
ทำความรู้จัก Kimchi Bokkeumbap (กิมจิ บกกึมบับ, 김치볶음밥) หรือข้าวผัดกิมจิอาหารจานยอดนิยมในประเทศเกาหลีใต้
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ