Bingsu (บิงซู)

จาก Patbingsu สู่บิงซูที่เรารู้จักในปัจจุบัน

Bingsu (บิงซู) เป็นของหวานยอดนิยมของเกาหลีใต้ที่ได้รับความรักจากผู้คนทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์ของเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มราวกับหิมะ ละลายในปากทุกคำ โดยทั่วไปทำจากน้ำแข็งที่ปั่นจากนมสด แล้วราดด้วยท็อปปิ้งหลากหลาย เช่น ถั่วแดงกวน ผลไม้สด นมข้นหวาน หรือแม้แต่ไอศกรีม

ย้อนกลับไปในยุค ราชวงศ์โชซอน (13921897) Bingsu มีชื่อเดิมว่า Patbingsu (พัดบิงซู) ซึ่งหมายถึงน้ำแข็งไสราดถั่วแดงกวน โดยเป็นของหวานที่หาทานได้ยาก เนื่องจากการผลิตและเก็บรักษาน้ำแข็งในสมัยนั้นเป็นเรื่องซับซ้อน

Seokbinggo ห้องเก็บน้ำแข็งหลวงในฤดูร้อน

เพื่อให้ราชวงศ์ได้ลิ้มรสของหวานเย็น ๆ เจ้าหน้าที่ของรัฐจะจัดเก็บน้ำแข็งที่เก็บมาจากแม่น้ำฮันในฤดูหนาวไว้ใน ซอกบิงโก (Seokbinggo, 석빙고) ห้องเก็บน้ำแข็งแบบโบราณซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรักษาความเย็นจนถึงฤดูร้อน นี่จึงทำให้ Patbingsu กลายเป็นของหวานสำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงช่วงอาณานิคมญี่ปุ่นและการพัฒนา Bingsu

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ขณะที่เกาหลีอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น (ค.ศ. 19101945) วัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้เข้ามามีอิทธิพล รวมถึงของหวานเย็นชื่อ Kakigōri (คากิโงริ) ของญี่ปุ่นที่คล้ายน้ำแข็งไส ชาวเกาหลีได้รับแรงบันดาลใจจาก Kakigōri และพัฒนาสูตรของ Patbingsu ให้หลากหลายขึ้นโดยเพิ่มน้ำเชื่อมและท็อปปิ้งอื่น ๆ

หลังจากได้รับเอกราชในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 Bingsu เริ่มได้รับการดัดแปลงและพัฒนาให้มีรสชาติที่หลากหลายมากขึ้น เช่น สตรอว์เบอร์รี่ ช็อกโกแลต ชาเขียว ฯลฯ และมีการใช้นมแทนน้ำในการทำให้เกิดน้ำแข็งไสที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม ละเอียดยิ่งกว่าเดิม

ยุคของร้านกาแฟและ Bingsu ที่เลือกท็อปปิ้งได้เอง

ในช่วงปี 1980 เป็นต้นมา Bingsu ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะในร้านกาแฟและร้านอาหารที่เริ่มนำเสนอเมนู Bingsu ในรูปแบบใหม่ ๆ ลูกค้าสามารถเลือกท็อปปิ้งเองได้ และแต่ละร้านก็มีสูตรลับเฉพาะที่ทำให้เมนูนี้มีความหลากหลายไม่รู้จบ

บิงซูจึงไม่ใช่เพียงแค่ของหวานเย็น ๆ แต่กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ระหว่างเชฟและผู้บริโภค

การเดินทางของ Bingsu สู่เวทีโลก

เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 วัฒนธรรมเกาหลีเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั่วโลกผ่านกระแส K-pop และ K-drama และ Bingsu ก็กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ Korean lifestyle ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักและหลงรัก

Bingsu ได้รับการดัดแปลงให้เข้ากับวัฒนธรรมอาหารของแต่ละประเทศ เช่น

• ญี่ปุ่น: รสมัทฉะ ท็อปปิ้งด้วยโมจิ
• ไทย: รสชาไทย มะม่วง ทุเรียน
• ไต้หวัน: รสชานม ท็อปด้วยไข่มุก เยลลี่
• สหรัฐฯ: ผสมไอศกรีม คุกกี้ ช็อกโกแลตชิป

บิงซูวันนี้: ของหวานที่มีทั้งความสนุก ความเย็น และประวัติศาสตร์

แม้จะเริ่มต้นจากห้องเก็บน้ำแข็งของราชวงศ์โชซอน Bingsu วันนี้ได้กลายเป็นของหวานสากลที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และความสุขในการแบ่งปันผ่านของหวานที่ทั้งสวยงาม สดชื่น และอร่อยในทุกคำ