แชร์

Bagel (เบเกิล)

เบเกิล (Bagel) คือขนมปังรูปวงแหวนที่ทำมาจากแป้งสาลี มีเนื้อสัมผัสกรอบนอก แต่ข้างในเหนียวนุ่ม มีสีน้ำตาลอ่อนๆ มักโรยหน้าด้วยงาขาว งาดำ หรือเมล็ดพ็อปปี (Poppy Seeds) นิยมทานคู่กับครีมชีส แซลมอนรมควัน และเนยถั่ว ถือเป็นเมนูอาหารเช้าสุดโปรดของชาวอเมริกันจำนวนมาก วันนี้ Rimping Supermarket จะพาทุกท่านไปเจาะลึกประวัติศาสตร์อันยาวนานของขนมปังวงแหวนชิ้นนี้กันค่ะ

ต้นกำเนิด : จากโกลนขี่ม้าสู่ขนมปังศักดิ์สิทธิ์?

เรื่องราวของ Bagel นั้นมีประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างหลากหลาย โดยเรื่องราวที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดมีประวัติย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ว่ากันว่า Bagel รูปแบบแรกสุดถูกคิดค้นขึ้นมาโดย คนทำขนมปังชาวเวียนนา เพื่อเป็นเกียรติแก่ Jan Sobieski III (แยน โซบีสกี ที่ 3) กษัตริย์แห่งโปแลนด์ ที่นำทัพมาปกป้องออสเตรีย จากการรุกรานของทหารออตโตมัน

คนทำขนมปังชาวเวียนนารู้ว่ากษัตริย์ Jan รักการขี่ม้าเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงทำขนมปังเป็นรูปวงแหวนคล้ายกับ โกลนขี่ม้า เพื่อมอบให้กับพระองค์ แล้วเรียกชื่อว่า Beugel (บอยเกิล) ซึ่งในภาษาออสเตรียแปลว่า โกลน หลังจากได้ลองรับประทาน พระองค์ก็ชื่นชอบขนมปังนี้มาก มักจะทานเป็นประจำในตอนเช้า

อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่า Bagel มีประวัติที่ย้อนไปไกลกว่านั้น โดยเชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 พัฒนามาจาก Pretzel (เพรทเซล) ของชาวเยอรมัน เมื่อชาวเยอรมันอพยพไปยังโปแลนด์ พวกเขาก็นำ Pretzel ติดตัวไปด้วย ชาวโปแลนด์เชื้อสายยิวจึงรับเอาขนมปังชนิดนี้มาพัฒนา ทำให้แป้งมีความหนึบกว่า และทำให้เป็นชิ้นกลมเล็กๆ แล้วเจาะรูตรงกลาง ตั้งชื่อว่า Obwarzanek (ออบวาร์ซาเนก)

ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 17 Bagel ที่เรารู้จักในปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์แบบโดย ชาวยิวในเมืองคราคูฟ ในโปแลนด์ เพื่อตอบโต้กฎหมายที่ห้ามชาวยิวในโปแลนด์ทำขนมปัง ดังนั้นคนทำขนมปังชาวยิวจึงหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเหล่านี้ด้วยการ ต้มแป้งก่อนอบ ซึ่งเป็นแนวทางการทำ Bagel ในปัจจุบัน ที่จะนำแป้งไปต้มในน้ำเดือดก่อนนำไปอบต่อ ทำให้เนื้อสัมผัสภายนอกกรอบเล็กน้อย แต่ข้างในเหนียวนุ่ม ผิวสัมผัสไม่เหมือนขนมปังทั่วไป มักมีสีน้ำตาลอ่อนๆ

นอกจากนี้ยังมีบันทึกอีกว่าในยุคนี้ ชาวยิวมักจะมอบ Bagel เป็นของขวัญให้ผู้หญิงที่กำลังจะคลอดบุตร เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ อีกด้วย

Bagel สู่ดินแดนอเมริกา : ความพิเศษของ Bagel นิวยอร์ก

ในช่วงศตวรรษที่ 19 ชาวยิวโปแลนด์จำนวนมากได้อพยพมายังอเมริกาเหนือ และพวกเขาก็นำวัฒนธรรมการทำอาหารติดตัวไปด้วย ด้วยเหตุนี้ Bagel จึงได้รับการเผยแพร่ให้รู้จักในพื้นที่แถบนี้ โดยร้าน Bagel แห่งแรกก่อตั้งขึ้นในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาในปี 1887 ชื่อว่า The Bagel Factory

ในเวลาไม่นานนิวยอร์กก็กลายเป็นศูนย์กลางการผลิต Bagel ในสหรัฐอเมริกา ร้าน Bagel หลายแห่งเปิดขึ้นในย่าน Lower East Side ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวยิวขนาดใหญ่ ทั้งนี้ Bagel แบบนิวยอร์กยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย ว่ากันว่า น้ำประปาในนิวยอร์กมีส่วนทำให้ Bagel มีรสชาติดี

น้ำประปาของนิวยอร์กส่วนใหญ่มาจากเทือกเขา Catskill ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุเข้มข้นอย่างแคลเซียม และแมกนีเซียม โดยแร่ธาตุเหล่านี้ส่งผลต่อกลูเทนในแป้ง ทำให้ Bagel มีความอร่อย และเหนียวนุ่มเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของในนิวยอร์ก

นอกจากน้ำแล้ว กระบวนการต้ม Bagel ในนิวยอร์กก็ยังแตกต่างจากที่อื่นอีกด้วย เนื่องจากร้าน Bagel หลายแห่ง มักจะใช้วิธีการนำแป้งเข้าเตาอบทันทีหลังจากรีดเสร็จ เพื่อประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย แต่สำหรับร้าน Bagel สไตล์นิวยอร์ก พวกเขาจะให้ความสำคัญกับการต้ม Bagel เป็นอย่างมาก เนื่องจากขั้นตอนการต้มแป้งจะช่วยให้แป้งด้านในของ Bagel มีเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม นอกจากนี้บางร้านยังมีการเติมข้าวบาร์เลย์ลงไปในน้ำต้มแป้งเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับ Bagel อีกด้วย

การผลิตแบบอัตโนมัติและการรวมตัวของสหภาพ

ในช่วงปี 1950 เทคโนโลยีการผลิต Bagel แบบอัตโนมัติก็ได้รับพัฒนาขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถผลิต Bagel ได้เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า โดยใช้แรงงานเพียงครึ่งเดียวของการรีดแป้งด้วยมือ สิ่งนี้ทำให้ Bagel สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และราคาไม่แพง

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการก่อตั้ง สหภาพ Bagel Bakers Local 338 ขึ้นในนิวยอร์ก ซึ่งสหภาพนี้มีบทบาทสำคัญในการทำให้การผลิต Bagel มีความเป็นมาตรฐานมากขึ้น พวกเขาควบคุมกระบวนการผลิตอย่างเข้มงวด โดยใช้กรรมวิธีดั้งเดิมในการต้มก่อนนำไปอบ เพื่อให้ Bagel มีคุณภาพสม่ำเสมอ

Bagel : อาหารเช้าสุดโปรดของชาวอเมริกัน สู่ความนิยมระดับโลก

ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 Bagel ได้รับความนิยมไปทั่วในสหรัฐอเมริกา โดยชาวอเมริกันมักจะนำไปผ่าครึ่งแล้วท็อปด้วยแซลมอนรมควัน, ปลาเฮอร์ริง, ครีมชีส, เนย, แยม, ไข่ และอะโวคาโด ทานเป็นอาหารเช้า

ปัจจุบัน Bagel กลายเป็นอาหารยอดนิยมระดับโลก โดยแต่ละภูมิภาคก็จะพัฒนาให้มีความหลากหลาย โดยใช้ส่วนผสมในท้องถิ่น นอกจากแป้ง Bagel เองก็มีการพัฒนาจากแป้งสาลีธรรมดามาเป็นแป้งผสมธัญพืช แป้งโฮลวีท หรือแป้งไรย์ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย

Bagel เริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศไทยครั้งแรก เมื่อประมาณ 20-30 ปีก่อน โดยในช่วงแรกจะมีจำหน่ายเฉพาะในร้านอาหาร และคาเฟ่บางแห่งเท่านั้น แต่ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นตามร้านเบเกอรี่ และซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ทั่วไป

ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นจากโกลนขี่ม้า หรือ Pretzel เบเกิลก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นมากกว่าขนมปัง แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารที่เดินทางข้ามทวีป และเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก

คุณสามารถหาซื้อ Bagel สำเร็จรูป หรือหาซื้อวัตถุดิบต่างๆ ไปทำอาหารอร่อยๆ ได้ที่ริมปิงทุกสาขานะคะ!

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Cobbler (ค็อบเบลอร์)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ของ Cobbler (ค็อบเบลอร์) ขนมหวานที่มีรากฐานจากชาวอังกฤษสู่สหรัฐอเมริกา
Ambrosia (แอมโบรเซีย)
ทำความรู้จัก Ambrosia (แอมโบรเซีย) สลัดผลไม้ในรูปแบบขนมหวานจากอเมริกา
Baked Apple (แอปเปิ้ลอบ)
ทำความรู้จัก Baked Apple (แอปเปิ้ลอบ) เมนูที่เรียบง่ายแต่ดึงดูดจากยุโรป
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ