แชร์

Hershey's (เฮอร์ชีย์)

กว่าจะเป็น Hershey's (เฮอร์ชีย์) ที่คนทั่วโลกรู้จักมาเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ การเดินทางของ Milton Hershey (มิลตัน เฮอร์ชีย์) ชายผู้ก่อตั้งแบรนด์นั้นไม่ได้เรียบง่าย เขาล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่ากว่าจะประสบความสำเร็จจนมีรายได้มหาศาลมากกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวของแบรนด์ช็อกโกแลตในตำนานนี้กันค่ะ

จากร้านขนมเล็กๆ สู่บริษัทคาราเมลที่ประสบความสำเร็จ (ค.ศ. 1876 - 1893)

เรื่องราวของ Milton Hershey เริ่มต้นขึ้นเมื่อครั้งที่เขายังเด็ก Hershey นั้นเติบโตมาในครอบครัวที่ค่อนข้างลำบาก และการศึกษาก็มีอยู่อย่างจำกัด เมื่ออายุได้ 14 ปี Hershey จำเป็นต้องออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำงาน เขาเริ่มทำงานที่ร้านขายขนมในท้องถิ่น และได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำขนมมากมาย สิ่งนี้ทำให้เขาใฝ่ฝันที่จะเปิดร้านขนมเป็นของตัวเอง

หลังจากทำงานได้เป็นเวลา 4 ปี Hershey ก็ลาออก และมาก่อตั้งร้านขนมเล็กๆ เป็นของตัวเอง ในฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งภายในร้านก็จะขายขนมที่เขาทำขึ้นมาเองทั้งหมด รวมถึงไอศกรีมด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เขาไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจมาก่อน ร้านของเขาจึงทำกำไรได้ไม่ค่อยดีนัก จนในที่สุดก็ต้องปิดกิจการลง หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มหางานทำอีกครั้ง และได้ไปทำงานในโรงงานผลิตคาราเมล โรงงานแห่งนี้ทำให้เขาเกิดความหลงใหล และสนใจในการผลิตคาราเมลเป็นอย่างมาก เขาจึงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อไปก่อตั้งธุรกิจของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง

ต่อมา Hershey ตัดสินใจลาออกจากงาน แล้วย้ายไปเปิดร้านขายขนมอีกครั้งที่ชิคาโก แต่ยังไม่ได้ทำคาราเมลขาย ซึ่งในครั้งนี้ธุรกิจของเขาก็ต้องปิดตัวลงอีกเช่นเคย แต่เขายังไม่ละทิ้งความพยายาม หลังจากนั้น Hershey ก็ย้ายไปที่นิวยอร์กซิตี เพื่อเปิดร้านขนม ในชื่อ Hershey's Fine Candies แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย.นี่นับเป็นครั้งที่ 3 ที่เขาล้มเหลวในการทำธุรกิจ

แม้ว่า Hershey จะล้มเหลวอยู่หลายครั้ง แต่ความพยายามในการทำธุรกิจของเขาก็ไม่เคยสิ้นสุดลง ในปี 1886 เขาเริ่มทำธุรกิจอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาเน้นไปที่การผลิตคาราเมลเป็นหลัก และกู้เงินจากธนาคารมาก่อตั้งบริษัท Lancaster Caramel จากนั้นก็เริ่มคิดค้นสูตรคาราเมล จนในที่สุดก็ได้สูตรที่ต้องการ เป็นคาราเมลที่ทำจากนมสดเจ้าแรก และเริ่มวางขายภายใต้ชื่อ Hersheys Crystal A พร้อมสโลแกน Melt in your mouth (ละลายในปาก)

Lancaster Caramel กลายเป็นธุรกิจแรกของ Hershey ที่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเขานำความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียนในการทำธุรกิจ นอกจากนี้โชคยังเข้าข้างเขาอีกด้วย เพราะมีอยู่วันหนึ่งลูกค้าชาวอังกฤษได้เดินทางมาเที่ยวในฟิลาเดลเฟีย และได้ลองชิมลูกอมคาราเมลของเขาแล้วติดใจ จากนั้นลูกค้าคนนี้จึงสั่งลูกอมคาราเมลจำนวนมากให้ส่งไปยังอังกฤษ สิ่งนี้ทำให้บริษัทได้รับเงินก้อนใหญ่ เขามีเงินไปจ่ายคืนให้กับธนาคาร จากนั้นก็นำเงินที่เหลือไปขยายธุรกิจจนโรงงานเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

จุดเปลี่ยนสู่โลกช็อกโกแลต และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล (ค.ศ. 1893 - 1912)

แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 1893 เมื่อ Hershey ได้เข้าร่วมงาน World's Columbian Exposition ในชิคาโก งานนี้ทำให้เขาได้พบกับเครื่องจักรทำช็อกโกแลตของเยอรมันเป็นครั้งแรก ซึ่งเขาสนใจเป็นอย่างมาก และในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อเครื่องจักรนี้มา เนื่องจากเขามองว่าในอนาคตตลาดช็อกโกแลตจะต้องใหญ่กว่าตลาดคาราเมลแน่ๆ

และแล้วการตัดสินใจครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น Hershey ขายบริษัท Lancaster Caramel ให้กับบริษัทคู่แข่ง เพื่อนำเงินที่ได้มามุ่งเน้นในการทำช็อกโกแลตเพียงอย่างเดียว และก่อตั้งบริษัท Hershey Chocolate Co. ขึ้นมาในปี 1894 ในบ้านเกิดของเขาที่ฟิลาเดลเฟีย และก่อสร้างโรงงาน ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นโรงงานผลิตช็อกโกแลตที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Hershey ตั้งใจที่จะผลิตช็อกโกแลตราคาไม่แพงสำหรับคนทั่วไป เนื่องจากในวัยเด็กเขาไม่มีโอกาสได้ทานขนมดีๆ ในราคาที่ถูก ด้วยเหตุนี้เขาจึงอยากให้ช็อกโกแลต ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านเป็นขนมที่ได้รับความนิยมเฉพาะในกลุ่มคนรวย ให้กลายเป็นขนมที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

โรงงานของ Hershey ได้รวมเอานวัตกรรม และเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ ซึ่งสามารถผลิตช็อกโกแลตได้ในปริมาณมากด้วยต้นทุนที่ต่ำ โดยช็อกโกแลตรูปแบบแรกที่วางจำหน่าย คือช็อกโกแลตรูปแบบผง เรียกว่า Hershey's Cocoa หลังจากเริ่มวางจำหน่ายก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ต่อมาในปี 1900 บริษัทก็ผลิตช็อกโกแลตแท่งนมออกจำหน่าย เรียกว่า Hershey's Milk Chocolate ซึ่งเป็นสินค้าขายดีของแบรนด์มาจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์ของ Hershey นั้นขยายไปไกลกว่าช็อกโกแลต เขาเชื่อว่าการสร้างความสุขในชุมชนรอบๆ โรงงานของเขา จะมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนงาน ในปี 1905 เขาจึงเริ่มสร้างเมืองเล็กๆ ชื่อว่า Hershey's Chocolate Town ขึ้นมา เป็นชุมชนต้นแบบที่ผู้คนภูมิใจที่ได้ใช้ชีวิต

ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีทั้งหมู่บ้าน โรงเรียน โบสถ์ สวนสาธารณะ สวนสนุก สิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาการ ระบบขนส่งสาธารณะราคาไม่แพง ในสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานของเขาพร้อมครอบครัวก็อาศัยอยู่ที่นี่ เพราะ Hershey ต้องการให้พนักงานของเขามีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุข

โรงเรียนที่ Hershey สร้างขึ้นมาชื่อว่า Milton Hershey ในอดีตโรงเรียนแห่งนี้เคยเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กกำพร้ามาก่อน แต่ปัจจุบันโรงเรียนได้พัฒนามาเป็นรูปแบบสหศึกษาให้เด็กด้อยโอกาสได้เรียนฟรี เพื่อสนับสนุนเด็กทุกคนให้มีการศึกษาที่ดี และมีศักยภาพ โดยทุนการศึกษาก็มาจากผลกำไรของบริษัท Hershey นั่นเอง

ในปี 1912 Hershey เกือบจะจมหายไปพร้อมกับไททานิค เนื่องจากเขา และภรรยาซื้อตั๋วโดยสารเรือไททานิคเอาไว้ แต่เช้าวันออกเดินทางเขาลืมของสำคัญบางอย่างไว้ที่บ้าน จึงต้องเดินทางกลับไปเอา เหตุการณ์นี้ทำให้เขาพลาดการเดินทางไปกับเรือไททานิกเที่ยวแรก และหลังจากนั้นก็เกิดโศกนาฎกรรมที่ไม่คาดคิดขึ้น นับเป็นความโชคดีของเขาอีกครั้งหนึ่งที่ไม่ได้เดินทางไปพร้อมกับเรือไททานิค

การเติบโตในช่วงสงครามโลก และการขยายอาณาจักร (ค.ศ. 1940s - ปัจจุบัน)

หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น Hershey ก็กลับมาทำงาน และเริ่มขยายสายผลิตภัณ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพสหรัฐฯ ได้ขอความช่วยเหลือจาก Hershey ให้เขาผลิตช็อกโกแลตที่ให้พลังงานสูงแก่ทหาร มีความทนต่อสภาพอากาศ และไม่ละลายง่าย ด้วยเหตุนี้เขาจึงคิดค้นช็อกโกแลตขึ้นมา 2 รูปแบบคือ Tropical Chocolate Bar และ The Field Ration D เพื่อทหารอเมริกันโดยเฉพาะ ช็อกโกแลตทั้ง 2 รูปแบบนี้มีความทนทานต่ออุณหภูมิ และสภาพอากาศ แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมของ Hershey ที่ละลายง่าย

ด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้นอกจากจะเป็นที่ชื่นชอบของทหารอเมริกันแล้ว Tropical Chocolate Bar ของ Hershey ยังเป็นขนมที่ถูกเลือกให้เป็นเสบียงของนักบินอวกาศที่เดินทางไปดวงจันทร์ด้วยยาน Apollo 15 อีกด้วย

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิด ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ Hershey จึงริเริ่มโครงการที่เรียกว่า The Great Building Campaign ขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนที่ตกงานมีงานทำ โดยโครงการนี้เขาจ้างคนงานมากกว่า 600 คน เพื่อสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่มีทั้ง โรงแรม โรงภาพยนต์ สวนสาธารณะ Sports Arena บาร์ และสถาบันอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งปัจจุบันยังคงเจริญรุ่งเรือง

ในอดีต โรงแรม Hershey สร้างขึ้นมา เพื่อทำเป็นที่อยู่อาศัย และจัดหาสวัสดิการให้คนงานของเขา ก่อนจะเปิดเป็นโรงแรมทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในที่พักที่ยอดเยี่ยมของสหรัฐอเมริกา ผู้ที่มาพักสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมายในโรงแรม เช่น สปา กอล์ฟ เทนนิส ว่ายน้ำในร่ม และอื่นๆ

ช่วงปลาย ศตวรรษที่ 20 Hershey ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บริษัทนำเทคนิคการตลาดสมัยใหม่มาใช้ และมีการขยายสายผลิตภัณฑ์มากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค มีทั้งผลิตภัณฑ์นม กัมมี่ ลูกกวาด ขนมอบ ขนมขบเคี้ยว น้ำเชื่อม ช็อกโกแลตนมแท่งรสชาติใหม่ๆ และอื่นๆ อีกมากมาย

ปัจจุบัน Hershey เป็นหนึ่งในผู้ผลิตช็อกโกแลตที่ใหญ่ที่สุด และได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก บริษัทยังคงขยายผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย รวมถึงรักษาแนวทางการบริหารควบคู่ไปกับการทำการกุศลของ Hershey เอาไว้แม้เขาจะเสียชีวิตลงไปแล้วก็ตาม (Milton Hershey เสียชีวิตลงในวันที่ 13 ตุลาคม ปี 1945

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Mayver's (เมย์เวอร์ส)
ทำความรู้จัก Mayver's (เมย์เวอร์ส) แบรนด์อาหารสุขภาพจากออสเตรเลีย ที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ
Ecostore (อีโคสโตร์)
ทำความรู้จัก Ecostore (อีโคสโตร์) แบรนด์ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกจากประเทศนิวซีแลนด์
King Oscar (คิงออสการ์)
ทำความรู้จัก King Oscar (คิงออสการ์) แบรนด์อาหารทะเลกระป๋องชั้นนำจากประเทศนอร์เวย์ที่ได้รับการรับรองจากราชวงศ์
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ