แชร์

Dijon Mustard (ดิจองมัสตาร์ด)

อัพเดทล่าสุด: 12 มิ.ย. 2025

มัสตาร์ดเป็นเครื่องปรุงรสที่เป็นทั้งอาหาร และยาที่เก่าแก่ชนิดหนึ่งของโลก เชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ทำมาจากเมล็ดพืชสกุลเดียวกับกะหล่ำปลี และผักกาดขาว เมื่อเติบโตจนออกฝัก เมล็ดในฝักจะถูกรวบรวมมาทำเครื่องปรุงรส โดยบดให้ละเอียดผสมกับน้ำ น้ำส้มสายชู หรือไวน์ วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวของ Dijon Mustard (ดิจองมัสตาร์ด) มัสตาร์ดอันเป็นเอกลักษณ์จากฝรั่งเศสกันค่ะ

มัสตาร์ด: จากยาโบราณสู่เครื่องปรุงรส (อารยธรรมกรีก-โรมัน)

ตามรายงานของเว็บไซต์ The Spruce Eats ได้ระบุเอาไว้ว่าชาวโรมันรับเอามัสตาร์ดมาจากชาวกรีก เพื่อใช้เป็นเครื่องปรุงรส และยารักษาโรค ซึ่งพวกเขามักจะเคี้ยวเมล็ดมัสตาร์ดเพื่อรักษาอาการปวดฟัน และใช้มัสตาร์ดทาแก้แมลงสัตว์กัดต่อย นอกจากนี้ ฮิปโปเครตีส (Hippocrates) บิดาแห่งการแพทย์ชาวกรีกยังเคยใช้มัสตาร์ดรักษาโรคปอด และข้ออักเสบรูมาตอยด์อีกด้วย

กำเนิด Dijon Mustard ในเมือง Dijon (ศตวรรษที่ 13 - 18)

แม้ว่ามัสตาร์ดจะถูกนำมาใช้ตั้งแต่อารยธรรมโบราณ แต่เรื่องราวของมัสตาร์ด Dijon กล่าวกันว่ามีต้นกำเนิดในช่วง ศตวรรษที่ 13 ในเมือง Dijon เมืองหลวงของแคว้นเบอร์กันดี ประเทศฝรั่งเศส

Dijon เป็นเมืองที่มีสภาพอากาศเอื้ออำนวยสำหรับการปลูกมัสตาร์ด ดังนั้นในเมืองแห่งนี้จึงมีการผลิตมัสตาร์ดกันอย่างแพร่หลาย ตำนานเล่าว่ามัสตาร์ด Dijon เริ่มปรากฏอยู่บนโต๊ะอาหารของราชวงศ์ครั้งแรกในปี 1336 ว่ากันว่า กษัตริย์ฟิลิปที่ 6 แห่งฝรั่งเศส ชื่นชอบอาหารจานหนึ่งที่ปรุงรสด้วยมัสตาร์ด Dijon เป็นอย่างมาก จากนั้นพระองค์จึงมีรับสั่งให้ชาวเมืองผลิตมัสตาร์ด Dijon กันเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม มัสตาร์ด Dijon ในรูปแบบที่กษัตริย์ฟิลิปชื่นชอบ ยังไม่ได้เป็นรูปแบบที่รู้จักในปัจจุบัน เนื่องจากสูตรดั้งเดิมนั้นทำมาจากเมล็ดมัสตาร์ดสีดำผสมกับน้ำส้มสายชู ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมที่คนทั่วไปใช้ผลิตมัสตาร์ด แต่มัสตาร์ด Dijon เวอร์ชันที่เรารู้จักในปัจจุบัน ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใน ศตวรรษที่ 18 โดย Jean Naigeon ชาวบ้านในเมือง Dijon

ด้วยความที่มัสตาร์ดแบบดั้งเดิมมีรสชาติเปรี้ยวเกินไป และไม่กลมกล่อม Jean จึงทดลองทำมัสตาร์ดรูปแบบใหม่ๆ ขึ้นมา จนกระทั่งได้สูตรที่สมบูรณ์แบบ เขาใช้ มัสตาร์ดสีน้ำตาล (Brassica juncea) บดผสมกับ Verjuice (น้ำองุ่นดิบ) ที่เป็นกรดรุนแรงน้อยกว่าน้ำส้มสายชู ส่งผลให้ได้มัสตาร์ดที่มีสีเหลืองอ่อน รสชาตินุ่มนวลขึ้น และมีกลิ่นฉุนน้อยลง ด้วยเหตุนี้มัสตาร์ด Dijon จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

การแพร่หลายและสถานะในปัจจุบัน (ยุคเรอเนซองส์ - ปัจจุบัน)

เมื่อเวลาผ่านไปในช่วง ยุคเรอเนซองส์ มัสตาร์ด Dijon ก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากขุนนางฝรั่งเศส และเมื่อถึง ศตวรรษที่ 17 เมือง Dijon ก็ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการผลิตมัสตาร์ดในฝรั่งเศส สิ่งนี้จึงช่วยตอกย้ำความเป็นเอกลักษณ์ของมัสตาร์ด Dijon ได้เป็นอย่างดี

ใน ศตวรรษที่ 19 มัสตาร์ด Dijon ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของศาสตร์การทำอาหารฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเชฟหลายท่าน นิยมใช้เป็นส่วนผสมในอาหารฝรั่งเศส เช่น Coq au vin, Steak au poivre, น้ำสลัด Vinaigrettes และ Béarnaise sauce

แม้ว่ามัสตาร์ด Dijon จะหยั่งรากลึกลงไปในประเพณีการทำอาหารของฝรั่งเศส แต่เมื่อเวลาผ่านไปอิทธิพลก็แพร่ขยายออกไปไกลเกินขอบเขต กลายเป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมในอาหารทั่วโลก ด้วยรสชาติที่ซับซ้อนช่วยเสริมอาหารได้หลากหลาย ตั้งแต่เนื้อย่าง ไปจนถึงอาหารทะเล

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Dijon ไม่ใช่ชื่อที่ใช้เรียกมัสตาร์ดจากเมือง Dijon เท่านั้น เพราะสามารถผลิตได้ทุกที่ ดังนั้นทุกวันนี้ชื่อมัสตาร์ด Dijon จึงกลายเป็นชื่อที่ใช้เรียกมัสตาร์ดครีมชนิดหนึ่งที่มีสีเหลืองอ่อน รสชาติเผ็ดฉุน เปรี้ยวเค็ม ทำจากเมล็ดมัสตาร์ดสีน้ำตาลผสมกับไวน์ขาว เกลือ และน้ำตาล

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
ME CARE (มีแคร์)
ทำความรู้จัก ME CARE แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของประเทศไทย ที่มีมาตรฐานการผลิตจากประเทศเยอรมนี
Wisconsin Chees (วิสคอนซินชีส)
ทำความรู้จัก Wisconsin Cheese ชีสคุณภาพจากรัฐวิสคอนซิน ชีสที่ผลิตใน Americas Dairyland ดินแดนแห่งนมและชีสของสหรัฐอเมริกา
Phillips Foods (ฟิลลิปส์ ฟู้ดส์)
ทำความรู้จัก Phillips Foods (ฟิลลิปส์ ฟู้ดส์) แบรนด์อาหารทะเลที่โดดเด่นด้วยคุณภาพเนื้อปูระดับโลก
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ