Sangria (แชงเกรีย)
Sangria (แชงเกรีย) เป็นเครื่องดื่มประจำฤดูร้อนของชาวสเปน ซึ่งมักจะดื่มเพื่อเติมความสดชื่นในงานปาร์ตี้ มีต้นกำเนิดในช่วงศตวรรษที่ 15 ถูกทำขึ้นมาเพื่อให้ไวน์มีรสชาติหวานกลมกล่อมถูกปากมากขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสชาติของไวน์ โดยทั่วไปแล้ว Sangria สูตรดั้งเดิมทำจาก ไวน์แดง บรั่นดี น้ำตาล และผลไม้
จาก Hippocras สู่ Sangria: ประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ประวัติ Sangria ในยุคแรกๆ เริ่มต้นมาจากชาว กรีกและชาวโรมัน ผสมไวน์เข้ากับน้ำ น้ำผึ้ง สมุนไพร และเครื่องเทศ เรียกว่า Hippocras (ฮิปโปคราส) เนื่องจากน้ำในสมัยนั้นไม่ปลอดภัยสำหรับการดื่ม พวกเขาจึงผสมน้ำด้วยแอลกอฮอล์จากไวน์ เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งวิธีการนี้นอกจากจะได้น้ำดื่มที่ปลอดภัย พวกเขายังได้ไวน์ที่มีรสชาติแปลกใหม่ขึ้นมาอีกด้วย ในภายหลังวัฒนธรรมนี้ได้แพร่ขยายมาสู่สเปนช่วงปี ค.ศ. 700 แต่แล้วไม่นานเครื่องดื่มชนิดนี้ก็หายไป เนื่องจากธุรกิจไวน์ในสเปนหยุดชะงัก เพราะกองทัพอิสลามยึดครองคาบสมุทรในปี ค.ศ. 711
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1492 เมื่อการปกครองสิ้นสุดลง เครื่องดื่มชนิดนี้ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในสเปน แต่ทว่าชาวสเปนได้ปรับสูตรเล็กน้อย โดยการเพิ่มผลไม้ลงไป แล้วเรียกว่า Sangria (แชงเกรีย) ซึ่งแปลว่า เลือด เนื่องจากเครื่องดื่มชนิดนี้มีสีแดงเข้มคล้ายเลือดนั่นเองค่ะ
จากเครื่องดื่มชาวไร่ สู่ความนิยมระดับโลก
ในยุคแรกๆ Sangria ถือเป็นเครื่องดื่มของชาวไร่และไม่เป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูง เพราะมักจะใช้ไวน์ราคาถูกหรือไวน์ที่ใกล้จะหมดอายุแล้วมาผสม อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป Sangria ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น เมื่อคนชั้นสูง เริ่มนำไวน์ราคาแพงมาทำเป็น Sangria จนในที่สุด Sangria ก็ได้เดินทางไปสู่ สหรัฐอเมริกาช่วงปลายปี ค.ศ. 1940
ในสหรัฐอเมริกา Sangria กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมภายในงาน New York World's Fair ในปี 1964 เนื่องจากชาวสเปนได้นำเครื่องดื่มชนิดนี้มาเสิร์ฟให้กับแขกภายในงาน จากนั้นความนิยมของ Sangria ก็แผ่ขยายไปทั่วสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มหลักประจำร้านอาหารและบาร์หลายแห่ง
Sangria ในปัจจุบัน: หลากหลายสูตรและเทคนิคการทำ
ปัจจุบันนี้ Sangria ถูกพัฒนาขึ้นมาหลากหลาย ซึ่งมีทั้งแบบที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ โดยแต่ละภูมิภาคและแต่ละประเทศต่างก็คิดค้นสูตรของตัวเองขึ้นมา มีทั้งไวน์ขาว สปาร์คกลิ้งไวน์ แต่ในสเปนสูตรดั้งเดิมจะใช้ไวน์แดง บรั่นดี น้ำตาล และผลไม้
เทคนิคของการทำ Sangria ส่วนใหญ่จะแช่ผลไม้ไว้ในไวน์ข้ามคืน คล้ายกับ infused water (น้ำผลไม้หมัก) เทคนิคนี้จะช่วยให้รสชาติผลไม้ผสมผสานเข้ากับรสชาติไวน์ได้อย่างลงตัว โดยมักจะทำเป็นทีละมากๆ เป็นเหยือกใหญ่ๆ ก่อนเสิร์ฟจะเติมโซดา น้ำแข็ง และอาจมีผลไม้มาตกแต่งแก้วเล็กน้อย