แชร์

Basmati (บาสมาตี)

ข้าวเป็นอาหารหลักที่หล่อเลี้ยงมนุษย์เรามานานนับพันปี แต่ทั้งนี้ข้าวทั่วโลกนั้นมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งหนึ่งในสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของโลกก็คือข้าว Basmati จากประเทศอินเดีย ที่โดดเด่นในเรื่องของลักษณะเมล็ดเรียวยาวและมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ วันนี้ Rimping Supermarket จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ ราชินีแห่งความหอม ชนิดนี้กันค่ะ

Basmati: ราชินีแห่งความหอมจากเชิงเขาหิมาลัย

Basmati เป็นคำภาษาฮินดูแปลว่า ราชินีแห่งความหอม ซึ่งชื่อก็บ่งถึงความหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวชนิดนี้นั่นเอง ต้นกำเนิดของข้าว Basmati มีประวัติย้อนกลับไป 2,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในอนุทวีปอินเดีย ในอดีตมีการเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลายบริเวณ เชิงเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ของ ภูมิภาคปัญจาบ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของอินเดียและปากีสถานในปัจจุบัน

การกล่าวถึงข้าว Basmati เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกมาจากบทกวีปัญจาบใน ศตวรรษที่ 18 เรื่อง Heer Ranjha เขียนโดย Waris Shah (วาริส ชาห์) ในบทกวีนี้กล่าวว่าข้าว Basmati ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มราชวงศ์อินเดีย โดยเฉพาะในยุค จักรพรรดิโมกุล ว่ากันว่าจักรพรรดิโมกุลชื่นชอบข้าว Basmati เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นข้าวที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ และมีเมล็ดเรียวยาว ด้วยความที่พระองค์ชื่นชอบจึงสนับสนุนให้มีการเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกในด้านการค้าอีกด้วย

การแพร่หลายและคุณสมบัติเด่น

พ่อค้าชาวอินเดียนำข้าว Basmati เข้าสู่ ตะวันออกกลาง ผ่าน เส้นทางการค้าสายไหม ในช่วงยุคกลาง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาข้าว Basmati จึงกลายเป็นส่วนสำคัญในอาหารอาหรับ เปอร์เซีย ปากีสถาน บังกลาเทศ และอื่นๆ นิยมนำไปทำอาหาร เช่น ข้าวหมกไก่อินเดียหรือบริยานี (Biryani), พิลาฟ (Pilaf), พุดดิ้งข้าว และนำไปหุงทานคู่กับแกงหรือสตูว์

เมื่อเวลาผ่านไปข้าว Basmati ก็เริ่มมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติดึงดูดความสนใจของเชฟ และผู้ชื่นชอบอาหารทั่วโลก ด้วยลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนข้าวสายพันธุ์อื่นๆ คือ มีเมล็ดเรียวยาว เนื้อนุ่ม และกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่มียาง เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะ ร่วนไม่เหนียวเกาะกัน และหุงขึ้นหม้อ

คุณค่าทางโภชนาการและข้อพิพาททางภูมิศาสตร์

นอกจากลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ข้าว Basmati ยังโดดเด่นในแง่ของคุณค่าทางโภชนาการด้วย โดยอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดี และจำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ เช่น ไฟเบอร์ ช่วยในเรื่องระบบทางเดินอาหาร และ ฟอสฟอรัส ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก

ในช่วงปี ค.ศ. 1990 เกิดข้อพิพาทระหว่างอินเดียและปากีสถานเกี่ยวกับสถานะ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI - Geographical Indication) ของข้าว Basmati เนื่องจากทั้งสองประเทศต่างก็อ้างว่าภูมิภาคของตนเป็นผู้ผลิตข้าว Basmati แท้ๆ แต่ในที่สุดข้อพิพาทก็ยุติลง โดยทั้งสองประเทศได้รับสถานะ GI สำหรับข้าว Basmati ร่วมกัน

Basmati ในปัจจุบัน: การเพาะปลูกและบทบาทในตลาดโลก

ปัจจุบันข้าว Basmati ยังคงได้รับการเพาะปลูกในพื้นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ของภูมิภาคปัญจาบในอินเดียและปากีสถาน โดยใช้วิธีการเพาะปลูกแบบดั้งเดิม ได้แก่ การหว่านเมล็ดด้วยมือ การบำรุงพืชผลด้วยปุ๋ยอินทรีย์ และการเก็บเกี่ยวด้วยมือ ซึ่งส่งผลให้ข้าวมีคุณภาพและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ทุกวันนี้ อินเดียยังคงเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าว Basmati ชั้นนำของโลก ตามมาด้วยปากีสถานเป็นอันดับสอง

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
เนื้อวัวเลี้ยงด้วยธัญพืช และเนื้อวัวเลี้ยงด้วยหญ้า
ความแตกต่างระหว่างเนื้อวัวเลี้ยงด้วยธัญพืช (Grain-fed) และเนื้อวัวเลี้ยงด้วยหญ้า (Grass-fed)
Sichuan pepper (พริกไทยเสฉวน)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ พริกไทยเสฉวน (Sichuan pepper) หรือ ฮวาเจียว (花椒) เครื่องเทศยอดนิยมในอาหารจีน
Escargot (แอ็สการ์โก)
ทำความรู้จัก Escargot (แอ็สการ์โก) เมนูหอยทากยอดนิยมของชาวฝรั่งเศส
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ