Giuliano Tartufi (จูเลียโนตาร์ฟูตี)

Giuliano Tartufi (จูเลียโนตาร์ฟูตี) เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากเห็ด Truffle หลากหลายชนิด และเป็นหนึ่งในสิบแบรนด์ Truffle ชั้นนำของประเทศอิตาลี โดยจัดจำหน่ายทั้ง Truffle บรรจุขวด, ซอส Truffle, ผง Truffle, ขนมขบเคี้ยวและถั่ว รวมไปถึงเครื่องปรุงที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น น้ำมันพืช มัสตาร์ด ครีม หรือซอสมะเขือเทศ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมของ Truffle ทั้ง Black และ White Truffle

Truffle: อัญมณีใต้ดินแห่งวงการอาหาร

Truffle เป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นใต้ดิน มีเอกลักษณ์ที่กลิ่นหอมเฉพาะตัว ใช้ปริมาณเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้อาหารแต่ละจานมีความโดดเด่นขึ้นมาได้ เป็นวัตถุดิบชั้นสูงในอาหารอิตาลีและฝรั่งเศส และใช้ปรุงอาหารในครัวชั้นสูง (haute cuisine) รอบโลก และปัจจุบันยังนิยมนำมาแต่งกลิ่นในอาหารและขนมทั่วไปอีกด้วย โดยมีชื่อเรียกในภาษาฝรั่งเศสว่า truffe และภาษาอิตาเลียนว่า Tartufo หรือ Tartufi (พหูพจน์)

เห็ดชนิดนี้เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่แพงที่สุดในโลก เนื่องจากต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการหาจากแหล่งธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณโคนต้นไม้ใหญ่หรือลุ่มแม่น้ำ เติบโตอยู่ในใต้ดินชั้นลึกซึ่งต้องอาศัยสุนัขหรือหมูในการดมกลิ่นเพื่อหา การเพาะปลูกก็เป็นเรื่องที่ยากเช่นเดียวกัน เพราะต้องอาศัยฤดูกาล สภาพของดิน หรือแม้แต่ชนิดของต้นไม้ที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละสายพันธุ์ และใช้เวลานาน 4-5 ปีกว่าจะเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยว แต่มีเปอร์เซ็นต์การรอดชีวิตต่ำ และยังมีอายุการเก็บแบบสดที่สั้นมากเพียง 4-5 วันเท่านั้น

Giuliano Tartufi: จากความหลงใหลสู่ธุรกิจระดับโลก

Giuliano Tartufi ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1991 โดย Giuliano Martellini ผู้ที่มีความหลงใหลต่อ Truffle เป็นอย่างมาก เขาเริ่มมีโอกาสได้รู้จักกับวงการ Truffle Hunting (การล่าเห็ด Truffle) ตั้งแต่ช่วงยุค 80 ซึ่งตัวเขายังเป็นวัยรุ่น และได้สั่งสมความรู้ ประสบการณ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเขาจะได้มีโอกาสทำงานประจำอื่นๆ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะทำตามความฝันที่มีมาตั้งแต่แรก

แบรนด์ได้ก่อตั้งขึ้นใน แคว้น Umbria ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น The Green Heart of Italy เนื่องจากมีภูมิประเทศเป็นเนินเขาที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นหนึ่งในแหล่งเก็บเกี่ยว Truffle ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี โดยมี Truffle ตามฤดูกาลหลากหลายชนิดให้ค้นหาตลอดทั้งปี โดยชนิดที่โดดเด่นและถูกเลือกมาจำหน่ายใน Giuliano Tartufi ได้แก่ Black Truffle ประจำฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) ซึ่งมีกลิ่นรสที่เข้มข้น และ White Truffle ที่มีราคาแพงที่สุดในบรรดา Truffle สามารถหาได้บริเวณลุ่มแม่น้ำ Tiber ทางตอนเหนือของ Umbria นอกจากนี้ยังมี Summer Truffle หรือที่เรียกว่า Scorzone ซึ่งมีสีดำเช่นกัน แต่มีกลิ่นและรสที่อ่อนลงมา

Giuliano ใช้เวลาประมาณ 5 ปี ในการค้นหาและติดต่อผู้จำหน่าย Truffle สดโดยเน้นผู้ประกอบการระดับท้องถิ่น และเริ่มทำการตลาดโปรโมทแบรนด์ของเขาเองในปี ค.ศ. 1991 ด้วยการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ ซึ่งในช่วงแรก Truffle ยังคงเป็นวัตถุดิบที่มีเฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะรู้จัก เขาจึงมีเป้าหมายที่ต้องการจะเผยแพร่ความพิเศษของเห็ดชนิดนี้และวัฒนธรรมการทำอาหารด้วย Truffle ให้ทุกคนทั่วโลกมีโอกาสได้เข้าถึง ซึ่งยังเป็นหัวใจหลักของแบรนด์จนถึงทุกวันนี้

นวัตกรรม คุณภาพ และการเข้าถึง

ในปี ค.ศ. 1994 Giuliano เริ่มทดลองการผลิต Preserved Truffle บรรจุขวดด้วยตัวเขาเองร่วมกับทีมงานกลุ่มเล็กๆ ซึ่งเป็นรากฐานของแนวทางการผลิตที่แข็งแรงจนถึงปัจจุบัน โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการแช่แข็ง อบแห้ง และโดยเฉพาะการฆ่าเชื้อโรค Giuliano Tartufi จะควบคุมอุณหภูมิที่ใช้อย่างแม่นยำ เพื่อการันตีว่า Truffle ที่บรรจุแล้วจะสามารถมีอายุได้นานถึง 3 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็นก่อนเปิดใช้ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในความสะดวกในการเก็บรักษา ความสะอาด และความสดใหม่ โดยผลิตภัณฑ์แรกที่ออกวางจำหน่ายก็คือ Truffle Sauce ซึ่งยังคงมีจำหน่ายจนถึงปัจจุบัน

นอกจากจุดเด่นในด้านคุณภาพที่ควบคู่ไปกับราคาที่จับต้องได้แล้ว Giuliano Tartufi ยังมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชัดเจน มีความพยายามที่จะวางจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ในปี ค.ศ. 2008 ทางแบรนด์ก็ได้พัฒนาภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจำ โดยเฉพาะโลโก้รูปแหวนที่มีหัวแหวนเป็น Truffle สีดำและสีทอง นอกจากจะสื่อถึงความล้ำค่าดุจเพชรของวัตถุดิบแล้ว ยังหมายถึงความรักอันเป็นนิรันดร์ที่มีต่อ Truffle อีกด้วย Giuliano Tartufi ยังมีความสม่ำเสมอในการถ่ายทอดคุณค่าเหล่านี้ให้กับพันธมิตรของแบรนด์และการส่งออกไปยังต่างประเทศอีกด้วย

ความรับผิดชอบต่อสังคมและแบรนด์ Tartufissimo

ด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์และดินแดนต้นกำเนิดอย่าง Umbria ทั้งกับผู้คนและสิ่งแวดล้อม และความสำเร็จของแบรนด์ที่สามารถยกระดับคุณค่าในด้าน Truffle ของ Umbria ได้เป็นอย่างดี ดังเช่นโครงการของรัฐที่จัดทำร่วมกับ Giuliano Tartufi ในการให้การสนับสนุนผู้ที่มีที่ดินของตนเองเพื่อพัฒนาแปลงเพาะปลูกทรัฟเฟิลของตนได้ เป็นการกระจายโอกาสที่ดีสู่ชุมชน

นอกจากนี้ Giuliano Tartufi ยังมีการตั้งจุดมุ่งหมายที่จะไม่ใช้แรงงานที่ไม่ถูกต้อง เช่น แรงงานเด็กหรือทาส รวมไปถึงเคารพสิทธิของแรงงานด้วยการเข้าร่วมสหภาพแรงงาน ไม่ทำร้ายร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงการจ่ายเงินและจัดเวลาทำงานให้เหมาะสม มีการใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม และสวัสดิภาพของสัตว์ในที่ทำงาน เช่น สุนัขค้นหา Truffle ด้วยความพยายามทั้งต่อองค์กรและเพื่อสังคมเหล่านี้ Giuliano Martinelli จึงได้รับ Order of Merit of the Republic of Italy (เครื่องอิสริยาภรณ์คุณธรรมแห่งสาธารณรัฐอิตาลี) จากประธานาธิบดี

หลังจาก Giuliano Tartufi ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในการจำหน่าย Truffle ที่เข้าถึงทุกคน บริษัทจึงได้กลับมาทำการตลาดในระดับสูง โดยก่อตั้งแบรนด์ย่อยในชื่อ Tartufissimo (ทาร์ตูฟิซซิโม) โดยเปิดตัวในฐานะแบรนด์ใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรก ในปี 2024 ผ่านการโปรโมทล่วงหน้าในงาน Gulfood 2025 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติของประเทศดูไบ และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

Tartufissimo เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากเห็ด Truffle หลากหลายชนิดเช่นเดียวกับ Giuliano Tartufi โดยเน้นไปที่สินค้าระดับ Premium เน้นผลิตภัณฑ์ปรุงรสสำหรับอาหารในระดับ haute cuisine นอกจากผลิตภัณฑ์หลายๆ อย่างที่ปรับปรุงขึ้นจากสินค้าในแบรนด์ดั้งเดิมแล้ว ในแบรนด์ใหม่นี้ก็ยังมีผลิตภัณฑ์พิเศษที่เพิ่มเติมขึ้นมา ได้แก่ Truffle Pearls ที่มีรูปลักษณ์และลักษณะการใช้งานคล้าย Caviar, ข้าว Carnaroli ผสม Truffle ซึ่งใช้สำหรับทำ risotto แบบหรูหรา, Polenta ผสม Truffle, และ เส้นพาสต้า Tagliatelle ที่ผสม Truffle เข้าไปในเนื้อแป้ง