แชร์

Dubai Chocolate (ดูไบ ช็อกโกแลต)

Dubai Chocolate (ดูไบช็อกโกแลต) เป็นช็อกโกแลตแบบแท่ง (Chocolate Bar) ที่มีต้นกำเนิดในเมืองดูไบ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง จุดเด่นของช็อกโกแลตชนิดนี้ คือไส้สีเขียวด้านใน ซึ่งมีส่วนผสมหลักคือ Pistachio (ถั่วพิสตาชิโอ) และ Kadayif (แป้งที่ขูดเป็นเส้นๆ) ทำให้ได้รสชาติหอมมันและมีความกรุบกรอบ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับช็อกโกแลตที่มีรสชาติหวานปนขมเป็นเอกลักษณ์

พิสตาชิโอ: อัญมณีแห่งตะวันออกกลาง

พิสตาชิโอ เป็นถั่วชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดในพื้นที่ประเทศอุซเบกิสถานในปัจจุบัน มีหลักฐานว่าถูกบริโภคโดยมนุษย์ทั่วทั้งบริเวณตะวันออกกลางตั้งแต่ 6,750 ปีก่อนคริสตกาล และได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 ผ่านทางเส้นทางสายไหม (เส้นทางการค้าขายซึ่งเชื่อมโลกตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกันเป็นระยะเวลากว่าพันปี ตั้งแต่ 206 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงศตวรรษที่ 15) ในปัจจุบันเป็นพืชท้องถิ่นของอิหร่าน อัฟกานิสถาน และเอเชียกลาง โดยเฉพาะอิหร่านซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ดูไบ: ศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมอาหาร

ดูไบเป็นเมืองที่ก่อตั้งขึ้นประมาณ 300 ปีที่แล้ว และเจริญขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเป็นเมืองท่าและกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้า การเงิน และการท่องเที่ยวที่สำคัญของตะวันออกกลาง และสิ่งนี้ทำให้เมืองนี้มีบทบาทสำคัญในการนำเข้าและส่งออกวัตถุดิบอาหารหลากหลายชนิด ซึ่งรวมถึงพิสตาชิโอด้วย ดูไบยังเป็นเจ้าภาพในการจัดงานแสดงสินค้าและอาหารนานาชาติขนาดใหญ่มากมาย รวมไปถึงงาน The Inaugural Dubai Food Festival ในปีค.ศ. 2014 เพื่อเฉลิมฉลองให้กับการเป็น เมืองหลวงด้านอาหารของภูมิภาค ด้วยความเจริญนี้ยังทำให้ผู้คนในดูไบได้มีประสบการณ์กับอาหารมากมายหลายชนิด ทั้งอาหารนานาชาติและอาหารอาหรับ

ขนมหวานและขนมอบของตะวันออกกลางยังมีความสำคัญทั้งในด้านวัฒนธรรม ศาสนา และการเฉลิมฉลองต่างๆ มานานกว่า 700 ปี โดยแป้งชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ในขนมอบจะเรียกว่า Filo (ฟิโล) ซึ่งมีลักษณะเป็นแป้งแผ่นบาง ใช้สำหรับทำขนมประเภทพายต่างๆ และขนมที่มีลักษณะแป้งเป็นชั้น นอกจากนี้ยังมีการนำมาทำเป็น Kadayif (กาดายีฟ) โดยการขูดแป้งเป็นเส้นฝอยนิยมนำมาอบหรือทอดด้วยเนยให้กรอบ ใช้ทำเป็นไส้หรือชั้นของขนมหวานต่างๆ เช่น tel kadayıf และ Knafeh (คูนาฟา) ที่คุ้นเคยกันในอีกชื่อว่า Kunafa (คูนาฟา) นั่นเอง

Kunafa เป็นขนมหวานอีกประเภทหนึ่งที่นำ Kadayif มาเรียงจนเป็นผืนเดียวกัน และสอดไส้ด้วยถั่วบดประเภทต่างๆ ผสมกับครีมหรือชีส เมื่ออบเสร็จแล้วนิยมโรยหน้าด้วยผงพิสตาชิโอ ในบางครั้งขนมหวานชนิดนี้ก็มักถูกเรียกสับสนกับแป้ง filo ที่ทำเป็นเส้นกรอบ เนื่องจากในบางประเทศ เช่นตุรกี ก็เรียก Knafeh ว่า Kadayif นั่นเอง

การมาของช็อกโกแลตในดูไบ และ Fix Dessert Chocolatier

เช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆ โกโก้และช็อกโกแลตถูกนำเข้ามาในดูไบตั้งแต่เริ่มเปิดตัวเป็นเมืองท่า ระหว่างศตวรรษที่ 19 และ 20 ในฐานะขนมหวานชั้นสูง และมีจำหน่ายเฉพาะในร้านค้าหรูหราเท่านั้น จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ ไม่นานก็เริ่มมีการทำธุรกิจร้านขายช็อกโกแลตที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคคลทั่วไปทั้งคนพื้นที่และชาวต่างชาติ และนำไปสู่การแพร่หลายของช็อกโกแลตและการสร้างสรรค์เมนูจากช็อกโกแลตมากมาย จนในปัจจุบันนี้ดูไบก็อุดมไปด้วยแบรนด์ช็อกโกแลตในระดับอุตสาหกรรม และ Artisan chocolate ที่หมายถึงร้านช็อกโกแลตที่เน้นฝีมือและความปราณีตในการรังสรรค์

ในปี 2021 ได้มีร้าน Artisan chocolate ร้านหนึ่งถือกำเนิดขึ้น ชื่อว่า Fix Dessert Chocolatier โดย Sarah Hamouda ซึ่งเป็นชาวอังกฤษ-อียิปต์ที่ทำงานประจำและอยู่อาศัยในดูไบมา 9 ปี โดยความตั้งใจแรกเริ่มของ Hamouda คือการสร้างธุรกิจเล็กๆ ร่วมกับสามีเพื่อเป็นงานเสริมระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์

สินค้าหลักของร้าน Fix คือช็อกโกแลตบาร์ Handmade สอดไส้ โดยเน้นไปที่รสชาติแปลกใหม่โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากความอยากของหวานในช่วงเวลาตั้งครรภ์และความรักในช็อกโกแลต Hamouda เอง มีทั้งรสชาติขนมหวานตะวันตกและตะวันออกกลาง อีกจุดเด่นที่สำคัญของช็อกโกแลตบาร์จาก Fix คือมีลวดลายหลากสีสันอยู่ด้านบนของเปลือกช็อกโกแลต ซึ่ง Hamouda นั้นวาดลวดลายด้วยตัวเองชิ้นต่อชิ้น

Can't Get Knafeh of It : จุดพลิกผันของ Dubai Chocolate บนโลกออนไลน์

ในช่วงเริ่มต้นแบรนด์ Fix เป็นเพียงร้านช็อกโกแลตเล็กๆ ที่มีออเดอร์ต่อวันเพียงหลักหน่วยเท่านั้น จนกระทั่งในปี 2022 Hamouda ได้รังสรรค์ช็อกโกแลตบาร์รสชาติใหม่ที่ชื่อว่า Can't Get Knafeh of It โดยเล่นคำระหว่าง Knafeh และ Enough ไส้ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Knafeh นี้ Hamouda ได้นำพิสตาชิโอบดผสมกับ Tahini (ซอสงาขาวสไตล์ตะวันออกกลาง) จนกลายเป็นครีมพิสตาชิโอ และนำ Kadayif เข้าไปคลุกเคล้า ในส่วนของเปลือกนอกของช็อกโกแลตบาร์จะใช้เป็น Milk Chocolate ซึ่งมีรสชาติหวานมัน

เนื่องจาก Fix ไม่ได้มีงบประมาณในการโปรโมทมากนัก จึงอาศัย Influencer บนโลกออนไลน์ในการรีวิวช็อกโกแลตของร้าน โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอขณะลองชิม ซึ่งวิดีโอประเภทนี้ก็ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แผนการตลาดนี้ได้ผลเกินคาด เมื่อ Maria Vehera ซึ่งเป็น influencer ชื่อดังที่รีวิวอาหารต่างๆ ในอาหรับเอมิเรตส์ ได้โพสต์วิดีโอ ASMR ลงใน TikTok ซึ่งเป็นการลองรับประทานช็อกโกแลตบาร์ 3 รสชาติของร้าน Fix ได้แก่ Mind Your Own Bisicoff, Crazy Over Caramel และ Can't Get Knafeh of It

Can't Get Knafeh of It ได้รับความสนใจในทันที ด้วยไส้สีเขียวที่แปลกตา พร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูชุ่มฉ่ำ แต่มีความกรุบกรอบเมื่อเคี้ยว และเป็นส่วนผสมที่ผู้คนนอกตะวันออกกลางไม่คุ้นเคย และเรียกต่อๆ กันว่า Dubai Chocolate โดยปัจจุบันวิดีโอของ Vehera มียอดการรับชมถึง 129 ล้านครั้ง และมี 7 ล้านการกดถูกใจ หลังจากวิดีโอนี้ได้รับความนิยม ก็มี influencer คนอื่นๆ และบุคคลทั่วไปพากันทำวิดีโอและสั่งซื้อ Dubai Chocolate จาก Fix มากกว่าวันละ 500 ออเดอร์

ความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของ Dubai Chocolate ในตลาดโลก

อย่างไรก็ตาม Hamouda ยังคงยึดมั่นในการทำช็อกโกแลตด้วยมือ และรักษาคุณภาพเอาไว้ Dubai Chocolate ต้นตำรับของ Fix จึงกลายเป็นสินค้าที่หายาก จนเกิดการลอกเลียนและแอบอ้างชื่อร้านมากมาย ครั้งหนึ่งเธอต้องออกประกาศเตือนลงใน Social Media ของร้าน อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีหลายคนที่ทดลองคิดค้นสูตรการทำขึ้นมาในรูปแบบของตัวเอง ซึ่ง Hamouda ก็รู้สึกยินดีที่ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ทำสิ่งใหม่ๆ ในร้าน Fix เองก็มีการเพิ่มจำนวนพนักงานขึ้นเป็น 10 คน โดยยังคงคุณภาพการผลิต Homemade ไว้เช่นเดิม

ความนิยมของ Dubai Chocolate ยังทำให้การค้าขายพิสตาชิโอของดูไบเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก และยังทำให้พิสตาชิโอมีราคาสูงขึ้น เมื่อ Dubai Chocolate ได้กลายมาเป็น ชนิด ใหม่ของช็อกโกแลตที่แพร่หลาย บรรดาบริษัทช็อกโกแลตขนาดใหญ่ในโลกตะวันตกได้เริ่มผลิตช็อกโกแลตที่มีรสชาติคล้ายกันด้วยการใช้ชื่อทางการค้าว่า Dubai Chocolate ซึ่งการใช้ชื่อนี้ได้เกิดปัญหาขึ้นในบางประเทศ เนื่องจากช็อกโกแลตเหล่านี้ไม่ได้ผลิตที่ดูไบจริงๆ เช่น ในเดือนมกราคม ปี 2025 แบรนด์ Aldi จากประเทศเยอรมนี ถูกศาลตัดสินให้หยุดใช้ชื่อ Alyan Dubai Handmade Chocolate เนื่องจากชี้นำให้เข้าใจผิดว่าผลิตในดูไบ แต่ในความเป็นจริงผลิตที่ประเทศตุรกี

อย่างไรก็ตาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่ได้เข้าร่วม The Geneva Act of Lisbon Agreement (กรรมสารเจนีวา แห่งความตกลงลิสบอนว่าด้วยเครื่องหมายแหล่งกำเนิดและสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) ซึ่งมีความคุ้มครองครอบคลุมถึงระบบ GI (Geographical Indications หรือ การบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของผลิตภัณฑ์) ท้ายที่สุด คำว่า Dubai Chocolate จึงกลายเป็นเครื่องหมายการค้าทั่วไปของตลาดยุโรปและประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Fish & Chips (ฟิช แอนด์ ชิปส์)
Fish & Chips (ฟิช แอนด์ ชิปส์) อาหารสุดเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่หยั่งรากฝังลึก จนกลายมาเป็นอาหารประจำชาติของประเทศอังกฤษ
hepherds and Cottage Pie (เชปเพิร์ดส์ และคอตเทจพาย)
ชวนรู้จัก Shepherds and Cottage Pie (เชปเพิร์ดส์ และคอตเทจพาย) : จากอาหารธรรมดาของคนเลี้ยงแกะ สู่การเป็นอาหารสุดหรูของผู้ดีอังกฤษ
น้ำมันหมู vs. น้ำมันพืช
น้ำมันหมู vs. น้ำมันพืช : ไขข้อถกเถียงและทางเลือกเพื่อสุขภาพ
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ