Köttbullar (เชิตต์บุลลาร์)
Köttbullar (เชิตต์บุลลาร์) เป็นมีทบอลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยรสชาติที่เข้มข้นและหอมหวาน เกิดจากการผสมผสานส่วนผสมหลักอย่าง เนื้อวัวบด หอมใหญ่ กระเทียม และนม นำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดพอดีคำ แล้วนำไปทอดจนกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟคู่กับ ซอสลิงกอนเบอร์รี่ (Lingonberry) รสเปรี้ยวอมหวาน และ มันบด ซึ่งเป็นเครื่องเคียงที่ได้รับความนิยมในอาหารสวีเดนมาตั้งแต่สมัยโบราณ วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวความอร่อยของมีทบอลระดับโลกจานนี้กันค่ะ
ต้นกำเนิดจากออตโตมัน สู่มีทบอลสวีเดน
เรื่องราวต้นกำเนิดของ Köttbullar มีประวัติย้อนกลับไปใน จักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman Empire) ซึ่งมีตำนานกล่าวว่า กษัตริย์คาร์ลที่ 12 แห่งสวีเดน (Konung Karl XII) ผู้ทรงเป็นนักรบและนักปกครองผู้ยิ่งใหญ่ ได้ลี้ภัยสงครามไปอยู่ที่จักรวรรดิออตโตมันเป็นเวลาหลายปี แล้วหลังจากสงครามสงบลง กษัตริย์คาร์ลที่ 12 ก็ได้นำแนวคิดทางการเมืองและวัฒนธรรมบางอย่างกลับมายังสวีเดน รวมถึงนำ สูตรการทำมีทบอล ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารตุรกีกลับมาพัฒนาให้มีความเป็นเอกลักษณ์ของสวีเดน แล้วตั้งชื่อว่า Köttbullar (ซึ่งเป็นคำภาษาสวีเดน แปลว่า ลูกบอลเนื้อ)
Köttbullar ในสังคมสวีเดน : จากชนชั้นสูงสู่ครัวเรือนทั่วไป
ช่วงต้น ศตวรรษที่ 18 Köttbullar ก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยมักจะเสิร์ฟเป็นอาหารที่หรูหราบนโต๊ะอาหารของคนชั้นสูง ซึ่งในช่วงเวลานี้คนชั้นสูงในสวีเดนเริ่มรับอิทธิพลการทำอาหารฝรั่งเศสเข้ามา ทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่เทคนิคการทำอาหารที่ประณีตและซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงการใช้เครื่องเทศและเครื่องปรุงรสใหม่ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไป Köttbullar ก็เริ่มแพร่หลายไปยังกลุ่มคนทุกชนชั้น จนกลายมาเป็นอาหารหลักในครัวเรือนของชาวสวีเดน ทำให้สูตรได้รับการดัดแปลงเพิ่มมากขึ้นตามความชอบและวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น โดยบางครัวเรือนเปลี่ยนมาใช้ เนื้อหมูบด หรือ ผสมเนื้อหมูกับเนื้อวัว แล้วเพิ่ม ไข่และเกล็ดขนมปัง ลงไป เพื่อช่วยให้มีทบอลนุ่มฟูและคงรูปได้ดีขึ้น และยังคงเสิร์ฟพร้อม ซอสลิงกอนเบอร์รี่ รสชาติเปรี้ยวอมหวานที่เป็นเอกลักษณ์ และ มันฝรั่งบด ซึ่งเป็นเครื่องเคียงคลาสสิก
ก้าวสู่สากล : จากผู้อพยพสู่ Ikea
ในช่วง ศตวรรษที่ 19 Köttbullar ก็เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ส่วนหนึ่งมาจากการที่ชาวสวีเดนอพยพไปตั้งถิ่นฐานในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี และออสเตรเลีย โดยประเทศต่างๆ เหล่านี้จะนิยมทาน Köttbullar พร้อมกับ ซอสเกรวี่ (Cream Sauce) ที่มักจะเป็นซอสครีมสีน้ำตาลเข้มข้น และ มันฝรั่งบด
ต่อมาในช่วง ศตวรรษที่ 20 Köttbullar ก็ได้รับความนิยมในระดับนานาชาติอย่างก้าวกระโดด ส่วนหนึ่งมาจาก Ikea (อิเกีย) บริษัทเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่จากสวีเดน ที่ได้จำหน่าย Köttbullar ภายในร้านอาหารใน Ikea ในปี 1980 เพื่อให้ลูกค้าทั่วโลกได้สัมผัสรสชาติและวัฒนธรรมของสวีเดนในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ Köttbullar จึงกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและเป็นสัญลักษณ์ของอาหารสวีเดนที่คนทั่วโลกนึกถึง
ตำราอาหารสำคัญ : การรวบรวมสูตรดั้งเดิม
อย่างไรก็ตาม Köttbullar คงจะไม่เป็นที่รู้จักและสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน หากไม่ได้มีการรวบรวมสูตรเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก Cajsa Warg (ไคซา วาร์ก) เชฟและนักเขียนตำราอาหารชาวสวีเดน ที่ได้รวบรวมสูตรไว้ในหนังสือของเธอในปี 1755 เรื่อง The Sensible Housewife (แม่บ้านผู้ชาญฉลาด) ซึ่งสูตรในหนังสือของเธอจะใช้ เนื้อวัวและเนื้อหมูผสมกัน แล้วเพิ่ม เกล็ดขนมปัง หัวหอม และเครื่องเทศ เช่น ออลสไปซ์ (Allspice) และ พริกไทย ลงไปด้วย ซึ่งเป็นสูตรที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการทำ Köttbullar ในยุคต่อมา
ในปัจจุบัน Köttbullar จึงกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของอาหารสวีเดน ที่ยังคงเป็นที่นิยมไปทั่วโลก มักเสิร์ฟเป็นอาหารจานหลักหรืออาหารว่างในงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ และยังคงเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆ คน