Sandwich (แซนด์วิช)
Sandwich (แซนด์วิช) เป็นหนึ่งในอาหารฟาสต์ฟู้ดที่คนทั่วโลกน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งทำมาจากการนำขนมปัง 2 แผ่นมาประกบกัน โดยมีเนื้อสัตว์หรือผักต่างๆ อยู่ตรงกลาง เป็นเมนูที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แต่หลายคนน่าจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าแซนด์วิชมีความเป็นมาอย่างไร วันนี้ Rimping Supermarket จึงมีเรื่องราวที่น่าสนใจของแซนด์วิชมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
แซนด์วิช : จากชื่อเมือง สู่ชื่ออาหารยอดนิยม
เรื่องราวต้นกำเนิดของแซนด์วิชนั้นมีประวัติศาสตร์ค่อนข้างคลุมเครือ แต่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดและเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างก็คือ แซนด์วิชมีต้นกำเนิดในช่วง ศตวรรษที่ 18 ซึ่งเดิมที แซนด์วิช ไม่ได้เป็นชื่อของอาหารแต่อย่างใด แต่เป็นชื่อของ เมืองท่าแห่งหนึ่งในอังกฤษ
โดยในขณะนั้น พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 2 แห่งอังกฤษ (Charles II of England) ได้แต่งตั้ง จอห์น มองตากู (John Montagu) ให้ดำรงตำแหน่ง เอิร์ลที่ 4 (Earl) ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนาง ที่เมืองท่าแห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นที่รู้จักในชื่อ เอิร์ลแห่งแซนด์วิชที่ 4 จอห์น มองตากู (Earl of Sandwich IV John Montagu)
กำเนิด แซนด์วิช จากโต๊ะพนัน
ส่วนเรื่องราวของแซนด์วิชที่เป็นอาหารเกี่ยวข้องกับเอิร์ลที่ 4 แห่งแซนด์วิชได้อย่างไรนั้น กล่าวกันว่า ท่านเอิร์ลคนนี้เป็นที่รู้จักในทางเสียๆ หายๆ มักจะ ดื่มเหล้าเมามายและติดการพนัน เป็นอย่างมาก โดยว่ากันว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อังกฤษแพ้สงครามปฏิวัติของสหรัฐอเมริกา เพราะเมาจนไม่สามารถนำกองทัพเรือใต้บังคับบัญชาไปสมทบกับกองเรืออื่นๆ ได้
มีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่เขาเล่นพนันอย่างขมักเขม้นและไม่อยากละมือจากการเล่นไพ่ เขาจึงสั่งให้คนรับใช้นำ ขนมปัง 2 แผ่นมาประกบกับเนื้อเค็ม เพื่อทานระหว่างเล่นการพนัน เนื่องจากวิธีการทานแบบนี้ทำให้เขาไม่ต้องละมือจากการเล่นไพ่ มีความสะดวกสบาย ไม่ต้องใช้ส้อม และสามารถทานเนื้อสัตว์ได้โดยที่มือไม่สกปรก เมื่อเห็นเช่นนั้น เหล่าขุนนางคนอื่นๆ ที่อยู่ร่วมวงพนันก็เลยทำตาม แล้วมักจะสั่งให้คนรับใช้ทำมาให้ โดยสั่งว่า เอาแบบแซนด์วิช จนในที่สุด แซนด์วิช ก็กลายมาเป็นชื่อเรียกของอาหารชนิดนี้นั่นเอง
แซนด์วิชในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม : อาหารของชนชั้นแรงงาน
ต่อมาใน ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมช่วงศตวรรษที่ 19 ผู้คนเริ่มมีเวลาทานอาหารน้อยลง เนื่องจากต้องทำงานหนักและเร่งรีบมากขึ้น แซนด์วิชจึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ ชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงาน ด้วยความที่เป็นอาหารที่ให้พลังงานมาก พกพาสะดวก และทานได้ง่าย ทำให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป และเมื่อชาวอังกฤษเริ่มอพยพไปยัง สหรัฐอเมริกา ก็ได้นำไอเดียการทำแซนด์วิชไปเผยแพร่ด้วย ซึ่งในสหรัฐอเมริกาก็ได้พัฒนาต่อมาเป็น แซนด์วิชเนยถั่วและเยลลี่ หรือ PB & J (Peanut Butter & Jelly) ซึ่งกลายเป็นอาหารกลางวันยอดนิยมสำหรับเด็กๆ
ความหลากหลายของแซนด์วิช: จากตะวันตกสู่ตะวันออก
ในช่วงต้น ศตวรรษที่ 20 แซนด์วิชก็มีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากเริ่มเป็นที่นิยมในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยมีการ ผสมผสานวัตถุดิบและรสชาติในท้องถิ่น เข้าไป ทำให้เกิดแซนด์วิชรูปแบบใหม่ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- ในเม็กซิโก: แซนด์วิชที่คล้ายกันเรียกว่า Torta (ตอร์ตา) มักมีไส้เนื้อสัตว์ ถั่ว และอะโวคาโด
- ในเวียดนาม: เรียกว่า บั๋นหมี่ (Bánh Mì) ทำมาจากบาแก็ตหรือขนมปังฝรั่งเศสสอดไส้ด้วยปาเต้ (ตับบด) และผักต่างๆ
- จากคิวบา: เรียกว่า Cubano (คิวบาโน) มักทำมาจากชีสและแฮม แล้วนำไปย่างหรือกดในเครื่องทำแซนด์วิชให้ร้อน
แซนด์วิชในปัจจุบัน: การสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบ
ปัจจุบันแซนด์วิชกลายเป็น ปรากฏการณ์การทำอาหารระดับโลก ซึ่งยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความชอบด้านอาหารและแนวโน้มการทำอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นแซนด์วิชเพื่อสุขภาพ แซนด์วิชที่ใช้ขนมปังชนิดพิเศษ หรือแซนด์วิชที่ใช้วัตถุดิบพรีเมียม ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพก็สามารถเลือกทานแซนด์วิชในแบบที่ตัวเองชอบได้ โดยสามารถออกแบบได้ตามใจ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบ
อย่าง ประเทศไทยเราเอง แซนด์วิช ก็เข้ามามีอิทธิพลด้วยเช่นกัน ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ เช่น แซนด์วิชโบราณ ที่ทำมาจากหมูหยองและน้ำสลัดรสหวานที่เป็นเอกลักษณ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวของแซนด์วิชมีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง ก็มีการกล่าวว่าจริงๆ แล้วอาหารรูปแบบนี้มีมาตั้งแต่โบราณ การนำขนมปังมาประกบกับเนื้อสัตว์และผักนั้นมีมานานหลายยุคสมัยแล้วในหลายวัฒนธรรม เพียงแต่ชื่อ แซนด์วิช เพิ่งจะถูกนำมาเรียกตามเรื่องราวของท่านเอิร์ลแห่งแซนด์วิชเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะด้วยประวัติความเป็นมาแบบใด แซนด์วิชก็ยังคงเป็นเมนูยอดนิยมที่สะดวกสบายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนทั่วโลกได้อย่างดีเยี่ยม
ที่ Rimping Supermarket เรามีขนมปังสดใหม่ เนื้อสัตว์หลากหลายชนิด ชีส ผักสด และวัตถุดิบอื่นๆ อีกมากมาย ให้คุณได้สร้างสรรค์แซนด์วิชในแบบฉบับของคุณเองค่ะ