Fritter (ฟริตเตอร์)

ฟริตเตอร์ (Fritter) เป็นอาหารชุบแป้งทอดที่มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ครอบคลุมวัฒนธรรมต่างๆ มานานกว่าหลายศตวรรษ เป็นเครื่องยืนยันถึงความสร้างสรรค์ของมนุษย์ในการดัดแปลงวัตถุดิบต่างๆ มาปรุงเป็นอาหารที่อร่อยและน่ารับประทาน วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปสำรวจโลกของ ฟริตเตอร์ ที่แพร่หลายในหลายวัฒนธรรมกันค่ะ

ต้นกำเนิดอันเก่าแก่: จากโรมันสู่ตะวันออกกลาง

ต้นกำเนิดของ ฟริตเตอร์ เชื่อกันว่าเกิดขึ้นใน อารยธรรมโบราณ โดย ชาวโรมัน เป็นกลุ่มแรกสุดที่เริ่มทำอาหารชุบแป้งทอด ทั้งนี้เนื่องจากในอดีตชาวโรมันจะมีอาหารประเภทหนึ่งที่เรียกว่า Scriblita (สคริบลิทา) ที่ทำจากผัก เนื้อสัตว์ หรืออาหารทะเล ปรุงรสด้วยเครื่องเทศ ชุบไข่และแป้งก่อนนำไปทอดในน้ำมัน ซึ่งถือเป็นบรรพบุรุษของ ฟริตเตอร์ ในโลกตะวันตก

ขณะเดียวกันใน ตะวันออกกลาง ก็มีอาหารชุบแป้งทอดยอดนิยมเช่นกัน เรียกว่า Luqmat al-qadi (ลุคมัต อัล-กอฎี) ซึ่งเป็นโดนัทขนาดเล็กราดน้ำเชื่อม และ Qatayef (กาตายิฟ) ซึ่งเป็นแพนเค้กสอดไส้ ส่วนใหญ่ทำมาจากแป้งยัดไส้ด้วยถั่วหรือเนื้อสัตว์ จากนั้นจะนำไปทอดจนเหลืองกรอบน่ารับประทาน

การแพร่กระจายในยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา

เมื่อเวลาผ่านไป อาหารชุบแป้งทอดก็แพร่กระจายไปทั่วยุโรปใน ยุคกลาง โดยในยุคนี้เริ่มมีสูตรอาหารชุบแป้งทอดถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือ ซึ่งสูตรแรกที่ค้นพบในหนังสือยุโรปมีชื่อว่า Frytour (ฟรายทอร์) หรือ Fritour (ฟริทอร์) เป็นอาหารชุบแป้งทอดที่ทำจากผลไม้อย่างแอปเปิ้ลหรือลูกฟิกชุบแป้งทอด มักเสิร์ฟเป็นขนมหวาน โดยต่อมาเชื่อกันว่าชื่อของสูตรอาหารนี้ถูกเปลี่ยนมาเป็น Fritter แบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ใน ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (ศตวรรษที่ 15 และ 16) ฟริตเตอร์ ยังคงได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสูตรที่หลากหลายทั้งคาวและหวาน ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูง จนกลายเป็นอาหารหลักในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองตามเทศกาลต่างๆ สะท้อนถึงการเป็นอาหารที่ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้ดี

ฟริตเตอร์ในเอเชียและอเมริกา

นอกจากนี้ในช่วงปลาย ศตวรรษที่ 16 ชาว โปรตุเกส และชาว สเปน ยังได้นำสูตรอาหารนี้ไปเผยแพร่ยังประเทศ ญี่ปุ่น อีกด้วย โดยในญี่ปุ่นจะเรียกกันว่า เทมปุระ (Tempura) มักทำมาจากอาหารทะเลและผักชุบแป้งทอดสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความกรุบกรอบและแป้งขึ้นฟู ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่นไปในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ใน ศตวรรษที่ 16 อาหารชุบแป้งทอดก็ได้รับการแนะนำให้รู้จักใน สหรัฐอเมริกา ด้วยเช่นกัน เนื่องจากการสำรวจและการตั้งอาณานิคม โดยชุมชนพื้นเมืองอเมริกันได้นำวัตถุดิบในท้องถิ่นอย่าง ข้าวโพด สควอช และถั่ว มาชุบแป้งทอด ซึ่งสูตรที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ เรียกว่า Hush Puppies (ฮัช พัปปี้ส์) เป็นสูตรของสหรัฐอเมริกาทางตอนใต้ ทำมาจากข้าวโพดชุบแป้งทอด มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย

ความหลากหลายในแต่ละภูมิภาค

ในเวลาต่อมา อาหารชุบแป้งทอดก็เริ่มเป็นที่รู้จักในหลายภูมิภาคทั่วโลก:

• อินเดีย: มีอาหารชุบแป้งทอดที่เรียกว่า Pakoras (ปาโกราส) หรือ Bhajis (บาจีส์) ทำจากผักต่างๆ ชุบแป้งแล้วทอดจนเหลืองกรอบ
• เกาะบาร์เบโดส: มีปลาคอดชุบแป้งทอด
• อินโดนีเซีย: เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Cucur (คูคูร์)
• เมียนมา: เป็นที่รู้จักในชื่อ A-kyaw (อา-จ่อ) ส่วนใหญ่ทำมาจากมะระชุบแป้งทอด
• ฟิลิปปินส์: มีไข่ชุบแป้งทอดเรียกว่า Tokneneng (ต็อกเนเน็ง)
• อาหารเกาหลี: เรียกว่า ทวิกิม (Twigim) มักทำมาจากไก่ สาหร่าย มันเทศ อาหารทะเลชุบแป้งทอด
• ประเทศไทย: เองก็มีอาหารชุบแป้งทอดที่หลากหลาย เช่น ผักชุบแป้งทอดที่นิยมทานคู่กับน้ำพริกกะปิ หรือกุ้งทอด

ฟริตเตอร์ในยุคปัจจุบัน: นวัตกรรมไม่สิ้นสุด

ในยุคร่วมสมัย อาหารชุบแป้งทอดยังคงพัฒนาไปพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเชฟในแต่ละภูมิภาคยังคงทดลองนำวัตถุดิบต่างๆ มาชุบแป้งทอด ไม่ว่าจะเป็นชีส ผลไม้แปลกใหม่ หรือแม้กระทั่งดอกไม้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ในโลกของอาหาร ปัจจุบันจึงสามารถพบ ฟริตเตอร์ ได้หลากหลายรูปแบบและรสชาตินับไม่ถ้วนทั่วโลก เป็นเมนูที่สะท้อนถึงการหลอมรวมทางวัฒนธรรมได้อย่างแท้จริง