แชร์

Old Fashioned (โอลด์ แฟชั่น)

เมื่อพูดถึงเครื่องดื่มค็อกเทลสุดคลาสสิกที่ยืนหยัดเหนือกาลเวลาและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เชื่อได้เลยว่าชื่อของ โอลด์ แฟชั่น (Old Fashioned) จะต้องเป็นหนึ่งในอันดับต้น ๆ ที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน เพราะเพียงแค่ชื่อก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนถึงอายุอันยาวนานและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของเครื่องดื่มชนิดนี้

ต้นกำเนิดที่ยังเป็นปริศนาและความหมายของชื่อ

Old Fashioned เป็นค็อกเทลสุดคลาสสิกที่มีต้นกำเนิดย้อนกลับไปในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยถูกกล่าวถึงครั้งแรกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรในช่วงปี ค.ศ. 1806 ในหนังสือพิมพ์ Hudson, New York Balance และ Columbian Repository แม้จะไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้คิดค้นขึ้นมาเป็นคนแรก

อย่างไรก็ตาม ในหนังสือพิมพ์เหล่านี้ได้ระบุสูตรค็อกเทลเอาไว้เพียงว่า ให้ละลายน้ำตาลในน้ำเล็กน้อย ผสมกับ Bitter (ยาขม) และเหล้าอื่น ๆ ตามชอบใจ โดยส่วนใหญ่ในยุคนั้นนิยมใช้วิสกี้ หรือเบอร์เบิ้น เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งสูตรพื้นฐานที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้เองที่เป็นที่มาของ Old Fashioned และปัจจุบันก็ยังคงยึดหลักการทำแบบคลาสสิกเอาไว้อยู่ นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ Old Fashioned ที่มีความหมายว่า ย้อนสู่วิธีแบบดั้งเดิม หรือ "แบบเก่า" นั่นเอง

การตั้งชื่ออย่างเป็นทางการและบทบาทสำคัญของ Pendennis Club

เดิมทีชื่อ Old Fashioned ไม่ใช่ชื่อของเครื่องดื่มโดยตรง แต่หมายถึง วิธีการผสมค็อกเทลในแบบดั้งเดิม เนื่องจากในสมัยนั้นเครื่องดื่มผสมเหล่านี้ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการมากมายนัก จนกระทั่งในช่วงปี ค.ศ. 1881 กลุ่มบาร์เทนเดอร์ที่ สโมสรเพนเดนนิส คลับ (Pendennis Club) เมือง Louisville รัฐ Kentucky ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวอ้างว่าพวกเขาเป็นกลุ่มแรกที่คิดค้นสูตรค็อกเทล Old Fashioned ขึ้นมาในรูปแบบที่จำเพาะเจาะจง เพื่อเป็นเกียรติแก่ พันเอก เจมส์ อี. เพ็พเพอร์ (Colonel James E. Pepper) สมาชิกคนสำคัญและนักกลั่นวิสกี้ชื่อดังของคลับ

หลังจากนั้นไม่นาน พันเอก เจมส์ อี. เพ็พเพอร์ ก็ได้นำสูตรค็อกเทลดังกล่าวไปเผยแพร่ในบาร์ของ โรงแรมวัลดอร์ฟ แอสทอเรีย (Waldorf Astoria) ซึ่งเป็นโรงแรมหรูที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่กรุงนิวยอร์ก การเผยแพร่ในสถานที่สำคัญแห่งนี้เองจึงทำให้ชื่อของ Old Fashioned กลายมาเป็นชื่อของค็อกเทลอย่างเป็นทางการที่รู้จักกันในวงกว้าง และได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในค็อกเทลคลาสสิกของโลก

ความนิยม วิวัฒนาการ และการฟื้นคืนชีพ

เมื่อเวลาผ่านไป Old Fashioned ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วนิวยอร์ก และมีการปรับใช้กับเหล้าชนิดต่าง ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น นอกเหนือจากวิสกี้และเบอร์เบิ้นแล้ว ยังมีการนำ บรั่นดี เหล้ารัม และจิน มาใช้เป็นส่วนผสมหลักได้อีกด้วย รวมไปถึงมีการตกแต่งแก้วให้หรูหราสวยงามด้วยส้มฝานหรือเชอร์รี่มาราสชิโน เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับเครื่องดื่ม

ถึงแม้ประวัติศาสตร์ของ Old Fashioned จะเป็นข้อถกเถียงว่าถูกคิดค้นมาก่อนปี 1881 แล้วก็ตาม แต่ทุกวันนี้สโมสรเพนเดนนิสคลับในเมือง Louisville ก็ยังคงอ้างถึงความเป็นต้นกำเนิดของค็อกเทลชนิดนี้อยู่ โดยจะจัดงานเฉลิมฉลองกันในวันที่ 1-14 มิถุนายนของทุกปี ซึ่งมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับค็อกเทลและวิสกี้ โดยจะมีวัน National Bourbon Day ในวันที่ 14 มิถุนายนเป็นการปิดท้ายด้วย เพื่อเชิดชูวิสกี้เบอร์เบิ้นอันเป็นส่วนผสมหลักที่นิยมใช้ใน Old Fashioned

Old Fashioned มักได้รับการขนานนามว่าเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับชายชาตรี เพราะรสชาติที่เข้มข้นของค็อกเทลนั้นเหมาะกับชายที่มีคาแรคเตอร์เคร่งขรึมและมีรสนิยม ดังที่เรามักจะเห็นกันตามภาพยนตร์หรือซีรีส์ต่างประเทศที่ผู้ชายที่มีคาแรคเตอร์เคร่งขรึมและสุขุมจะนิยมสั่ง Old Fashioned กันเป็นประจำ ซึ่งหนึ่งในตัวละครที่โด่งดังที่สุดเกี่ยวกับค็อกเทล Old Fashioned ก็คือ Don Draper นักโฆษณาเจ้าเสน่ห์จากซีรีส์เรื่อง Mad Men ที่ทำให้ค็อกเทลนี้เป็นที่จดจำและกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมสมัยนิยม

ในช่วงปี 1990 ความนิยมของ Old Fashioned เริ่มลดลงจนเกือบจะเลือนหายไปตามกาลเวลา เนื่องจากกระแสของค็อกเทลที่ทันสมัยและมีสีสันเข้ามาแทนที่ จนกระทั่งในต้นศตวรรษที่ 21 Dale DeGroff ผู้ก่อตั้ง The Museum of the American Cocktail และเป็นที่รู้จักในนาม King Cocktail ซึ่งเป็นบาร์เทนเดอร์ผู้มีอิทธิพล ได้นำเสนอค็อกเทล Old Fashioned อีกครั้งในร้าน Rainbow Room ในนิวยอร์กซิตี้ การกลับมาของบาร์เทนเดอร์ระดับปรมาจารย์ผู้นี้จึงทำ Old Fashioned กลับมาเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอีกครั้งตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน และยังคงเป็นหนึ่งในค็อกเทลคลาสสิกที่นักดื่มทั่วโลกต่างหลงใหล

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Mocktail (ม็อกเทล)
เปิดเผยประวัติของ Mocktail (ม็อกเทล) เครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อความสดชื่น
Canned Coffee (กาแฟกระป๋อง)
รู้หรือไม่ว่า Canned Coffee (กาแฟกระป๋อง) ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์รถไฟมาก่อนเวลา? นวัตกรรมจากความบังเอิญ
Bellini (เบลลินี)
ย้อนรอยประวัติ Bellini (เบลลินี) ค็อกเทลที่ตั้งชื่อตามศิลปินผู้มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ