Bellini (เบลลินี)

ในโลกของค็อกเทลที่ฟุ้งไปด้วยละอองของความคลาสสิกเหนือกาลเวลา ซึ่งค็อกเทลแต่ละชนิดล้วนมีประวัติศาสตร์และเสน่ห์เฉพาะเป็นของตัวเอง เฉกเช่น เบลลินี (Bellini) ค็อกเทลสุดคลาสสิกที่โดดเด่นด้วยรสชาติอันหอมหวานของผลไม้ที่ครองใจผู้ชื่นชอบค็อกเทลมานานหลายทศวรรษ

จุดกำเนิดที่ Harry's Bar เวนิส: การสร้างสรรค์ของ Giuseppe Cipriani

Bellini มีต้นกำเนิดจากเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ถูกคิดค้นขึ้นมาครั้งแรกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดย Giuseppe Cipriani (จูเซปเป้ ชิปรีอานี) ผู้ก่อตั้งและบาร์เทนเดอร์ของ Harry's Bar สถานที่แฮงเอาท์ยอดนิยมสำหรับคนชั้นสูง คนดัง ศิลปิน และนักเขียนชื่อก้องโลกอย่าง Ernest Hemingway, Truman Capote, Orson Welles, Charlie Chaplin, Alfred Hitchcock, Princess Aspasia แห่งกรีซ และ Humphrey Bogart

Giuseppe Cipriani เป็นบาร์เทนเดอร์ที่มีวิสัยทัศน์และมีความสามารถในการสร้างสรรค์เครื่องดื่ม เขาคิดค้น Bellini ขึ้นมาครั้งแรกในช่วงฤดูร้อนปี 1948 โดยใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลที่พบได้ในชนบทของเมืองเวนิส ซึ่งก็คือลูกพีชขาว (White peaches) ที่มีกลิ่นหอมและรสหวานอันเป็นเอกลักษณ์ นำมาบดผสมกับ Prosecco (โปรเซคโค่) สปาร์กลิ้งไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากภูมิภาค Veneto ของอิตาลี จนได้มาเป็น Bellini cocktail ที่มีสีชมพูอมส้มโดดเด่น รสชาติดี และมีกลิ่นหอมละมุน สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น

กุญแจสำคัญในการทำ Bellini ให้สมบูรณ์แบบอยู่ที่การใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุด ซึ่งก็คือลูกพีชขาวที่ขึ้นชื่อเรื่องความหวานและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ต้องได้รับการคัดสรร ปอกเปลือก และบดอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนและเป็นเนื้อเดียวกันสำหรับค็อกเทล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Bellini

แรงบันดาลใจจากงานศิลปะ: ที่มาของชื่อ Bellini

ในตำนานกล่าวว่า สีสันที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มชนิดนี้ ซึ่งมีเฉดสีชมพูอมส้มคล้ายสีของภาพเขียน ทำให้ Giuseppe Cipriani นึกถึงเฉดสีที่เปล่งประกายในภาพวาดชิ้นหนึ่งของ จิโอวานนี เบลลีนี (Giovanni Bellini) ศิลปินชาวเวนิสผู้ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 15 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสีที่ใช้ในการวาดเสื้อคลุมของนักบุญในภาพวาดของเขา ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงตัดสินใจตั้งชื่อเครื่องดื่มชนิดนี้ว่า Bellini ตามชื่อของศิลปินที่เขาชื่นชอบ เพื่อเป็นเกียรติและแรงบันดาลใจจากผลงานศิลปะอันงดงาม

การแพร่หลายสู่สากลและการปรับโฉมใหม่

หลังจากที่เครื่องดื่มชนิดนี้ได้รับการเผยแพร่ ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก Harry's Bar ของเขามักจะเป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนดังทั้งในและต่างประเทศ ที่ต้องการลิ้มลองสิ่งใหม่ ๆ ในเวลาไม่นาน Bellini จึงเริ่มได้รับความนิยมในระดับนานาชาติ ซึ่งแพร่กระจายไปทั่วนิวยอร์ก ปารีส อเมริกา และที่อื่น ๆ อีกมากมาย กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา รสนิยมที่ดี และการเฉลิมฉลอง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Bellini ได้รับการพัฒนาและดัดแปลงให้มีรูปแบบใหม่ ๆ โดยใช้ผลไม้ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น สตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ทับทิม และแม้แต่เสาวรส เพื่อสร้างรสชาติที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้น แม้ว่า Bellini แบบดั้งเดิมจะยังคงเป็นที่ชื่นชอบเหนือกาลเวลาและเป็นเอกลักษณ์ แต่รูปแบบใหม่ ๆ เหล่านี้ทำให้ Bellini มีเสน่ห์มากขึ้นและเป็นตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกันของผู้ดื่ม ทำให้ค็อกเทลนี้ยังคงความสดใหม่และน่าสนใจอยู่เสมอ

เมื่อปี 2001 Harry's Bar ได้รับการประกาศให้เป็นสถานที่สำคัญระดับชาติ โดยกระทรวงกิจการวัฒนธรรมของอิตาลี ซึ่งเป็นการยืนยันสถานะทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของบาร์แห่งนี้ และทุกวันนี้ บาร์แห่งนี้ก็ยังคงเปิดกิจการอยู่ ตั้งอยู่ที่ Calle Vallaresso 1323 เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เป็นพยานถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของค็อกเทลระดับตำนานนี้

ด้วยรสชาติที่หอมหวานและสีสันสดใส ปัจจุบันความนิยมของ Bellini จึงก้าวข้ามภูมิภาคยุโรปและอเมริกา จนได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งกลายเป็นเครื่องดื่มหลักโดยเฉพาะในงานเลี้ยงที่หรูหรา งานแต่งงาน และงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นเครื่องดื่มที่บ่งบอกถึงการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริงและเป็นที่รู้จักในฐานะค็อกเทลระดับไอคอนิก