Ispahan ( อิส ปา ออง)

ในโลกของขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส อิส ปา ออง (Ispahan) ถือเป็นขนมหวานที่สื่อถึงความสง่างามและความหรูหราได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เนื่องจาก Ispahan เป็นมาการองที่ได้รับการรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน โดยเกิดจากการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างรสเปรี้ยวอมหวานจากราสเบอร์รี่ รสหวานฉ่ำจากลิ้นจี่ และกลิ่นหอมละมุนจากกุหลาบในสวนเปอร์เซียโบราณ ก่อให้เกิดประสบการณ์การลิ้มรสที่ไม่เหมือนใคร

รากฐานจากกุหลาบเปอร์เซียโบราณ: กลิ่นหอมจากประวัติศาสตร์

ในเปอร์เซียโบราณมีดอกกุหลาบที่มีชื่อเสียงในด้านกลิ่นหอมเป็นพิเศษอยู่หนึ่งชนิดชื่อว่าดามัสก์ (Damask Rose) ซึ่งได้รับการปลูกมานานหลายศตวรรษและเป็นที่รู้จักในความหอมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยในอดีตดอกกุหลาบชนิดนี้มักจะถูกนำมาใช้ในการกลั่นน้ำกุหลาบ ทำน้ำมันหอมระเหย และน้ำหอม รวมถึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในการทำอาหารและขนมหวาน ซึ่งชาวเปอร์เซียโบราณมักจะนำน้ำกุหลาบและกลีบกุหลาบมาผสมผสานเข้ากับขนมหวานและเครื่องดื่มต่างๆ สร้างสรรค์รสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ นี่จึงเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการผสมผสานกลิ่นอายตะวันออกกลางในขนมหวานยุคสมัยใหม่ ที่โด่งดังไปทั่วโลก

กำเนิดของ Ispahan โดย Pierre Hermé: ปฏิวัติวงการมาการอง

ต้นกำเนิดของ Ispahan ที่เรารู้จักในปัจจุบันนี้ ได้รับการรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถันในปี ค.ศ. 1980 โดยปิแอร์ แอร์เม (Pierre Hermé) หรือที่รู้จักในชื่อเสียงอันเลื่องลือว่า Picasso of Pastry (ปิกัสโซแห่งขนมอบ) เชฟทำขนมชื่อดังชาวฝรั่งเศส กล่าวกันว่าในขณะที่ Pierre ทำงานอยู่ที่ Ladurée (ลาดูเร่) ร้านขนมชื่อดังในกรุงปารีส เขาได้ยกระดับมาการองแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นงานศิลปะชิ้นเอก โดยนำเสนอ Ispahan ที่ผสมผสานรสชาติระหว่างราสเบอร์รี่ ลิ้นจี่ และกุหลาบเข้าด้วยกันอย่างลงตัว จนเกิดเป็นมาการองรูปแบบใหม่ที่มีความหรูหราและซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติวงการมาการองและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับขนมหวานชนิดนี้เลยทีเดียว

แรงบันดาลใจจากเมือง Ispahan: กลิ่นอายแห่งสวนสวรรค์

การตั้งชื่อขนมหวานชนิดนี้ว่า Ispahan Pierre กล่าวว่าเขาต้องการยกย่องเมือง Ispahan ในอิหร่าน ซึ่งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งรวมสวนแบบเปอร์เซียที่สวยงามและได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน สวนเหล่านี้เต็มไปด้วยต้นไม้ที่เขียวขจี สระน้ำอันเงียบสงบที่มองเห็นภาพสะท้อนอันสวยงาม และดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกุหลาบเปอร์เซีย นอกจากนี้คำว่า Ispahan ในภาษาเปอร์เซียยังหมายถึงกลิ่นหอมและความงามอีกด้วย เป็นการสื่อถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ขนมหวานที่ได้รับมาจากธรรมชาติอันงดงาม

Pierre ค้นพบความงามของดอกไม้ในสวนเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความงามและกลิ่นหอมอันเย้ายวนของกุหลาบเปอร์เซีย เขาจึงเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ขนมหวานที่มีรสชาติสดชื่นและอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกกุหลาบขึ้นมา จนเกิดเป็นมาการอง Ispahan ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ ซึ่งเป็นเสมือนบทกวีที่รังสรรค์ขึ้นจากกลิ่นและรสชาติที่พาเราย้อนเวลากลับไปสู่สวนเปอร์เซียอันงดงาม

ความโดดเด่นและชื่อเสียงระดับโลก: สัญลักษณ์แห่งความหรูหรา

มาการอง Ispahan ของ Pierre โดดเด่นในเรื่องของความหรูหราและเป็นเอกลักษณ์ ใครๆ ที่ได้ลิ้มลองต่างก็หลงใหลราวกับได้เดินเล่นอยู่ในสวนเปอร์เซียของอิหร่านอย่างไรอย่างนั้น ด้วยรสชาติที่ลงตัวและกลิ่นหอมที่ชวนเคลิบเคลิ้ม ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัว Ispahan ก็กลายเป็นขนมหวานที่โดดเด่นในโลกแห่งการทำอาหาร และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ซึ่งไม่เพียงแค่ในฝรั่งเศสเท่านั้นแต่ยังโด่งดังไปทั่วโลก กลายเป็นหนึ่งใน Signature Dish ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Pierre Hermé อย่างแท้จริงและเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบขนมหวาน

ปัจจุบัน Ispahan มีวางจำหน่ายในร้านขนมหวานและร้านอาหารทั่วโลก ซึ่งยังคงดึงดูดต่อมรับรสของผู้หลงใหลในของหวานอย่างต่อเนื่อง โดยการผสมผสานรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และความเชื่อมโยงในวัฒนธรรมการทำอาหารของฝรั่งเศส ทำให้ Ispahan กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและนวัตกรรมในโลกของขนมหวาน ยืนยงอยู่คู่กับขนมฝรั่งเศสคลาสสิกอื่นๆ

ด้วยภาพลักษณ์ที่หรูหราและความประณีตในการรังสรรค์ Ispahan จึงเป็นมากกว่าขนมหวาน แต่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศิลปะการทำอาหารของ Pierre Hermé ในการผสมผสานวัฒนธรรมผ่านนวัตกรรมการทำอาหาร จนทำให้ทุกวันนี้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วโลก และ Ispahan ยังคงเป็นหนึ่งในมาการองที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดตลอดกาล เป็นแรงบันดาลใจให้กับเชฟขนมทั่วโลก