แชร์

Sausages with Sauerkraut (ซอสเสจเจส วิท ซาวเออร์-เคราท์)

ในประเทศเยอรมนี ไส้กรอก ถือเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมอาหารที่โดดเด่น เนื่องจากเยอรมนีเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีไส้กรอกอร่อยและดีที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยนักเขียนชาวอังกฤษผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร กล่าวว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นในประเทศเยอรมนี เหมาะสำหรับการบ่มไส้กรอกมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน เพราะบนภูเขาสูงจะมีลมแห้งช่วยในกระบวนการบ่ม ดังนั้นชาวเยอรมันจึงสามารถผลิตไส้กรอกที่ดีได้เป็นจำนวนมาก

ทุกวันนี้ประเทศเยอรมนีมีไส้กรอกมากกว่า 1,500 ชนิด แต่ละชนิดล้วนมีกรรมวิธีการผลิตและส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ่น ชาวเยอรมันรักการทานไส้กรอกเป็นชีวิตจิตใจ พวกเขาจึงสามารถรังสรรค์ไส้กรอกออกมาได้หลากหลายรูปแบบ แต่ทั้งนี้การทานไส้กรอกอย่างเดียวคงจะไม่ได้อรรถรสมากเท่าไหร่ ดังนั้นพวกเขาจึงนิยมนำไส้กรอกไปจับคู่กับเครื่องเคียงนานาชนิด รวมไปถึงกะหล่ำปลีดองด้วยเช่นกัน

กำเนิด ซาวร์เคราต์ (Sauerkraut)

ไส้กรอกและกะหล่ำปลีเป็นอาหารสองชนิดที่ถูกนำมาจับคู่กัน เพื่อสร้างอรรถรสในการทาน แต่ทั้งนี้ไม่ได้มีเพียงไส้กรอกเท่านั้นที่เป็นอาหารดั้งเดิม เพราะกะหล่ำปลีดองเองก็เป็นอาหารดั้งเดิมที่มีมานานแล้วเช่นกัน กล่าวกันว่าชาวจีนเป็นคนกลุ่มแรกที่เริ่มหมักกะหล่ำปลีในไวน์ข้าวเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว แต่ในช่วงศตวรรษที่ 16 ชาวยุโรปโดยเฉพาะชาวเยอรมันได้นำเทคนิคนั้นมาใช้ โดยนำกะหล่ำปลีมาดองกับน้ำผลไม้ ทำให้ได้กะหล่ำปลีดองที่มีรสชาติเปรี้ยว เรียกว่า ซาวร์เคราต์ (Sauerkraut) ที่มาจากการรวมคำว่า Sauer (เปรี้ยว) และ Kraut (กะหล่ำปลี) ในภาษาเยอรมันเข้าด้วยกัน

ตำนานคู่จิ้น ไส้กรอกและซาวร์เคราต์

จุดเริ่มต้นของการนำไส้กรอกและกะหล่ำปลีดองมารวมกันนั้นค่อนข้างคลุมเครือ แต่เรื่องราวที่โดดเด่นจนเป็นที่เล่าขานกันมานาน กล่าวกันว่าหญิงที่ชื่อ Lene Weber ได้พยายามทำให้ Manfred สามีของเธอทานอาหารช้าลง เพราะสามีของเธอชอบทานไส้กรอกมาก ซึ่งในแต่ละครั้งที่ทานเขามักจะทานในปริมาณมากและทานอย่างรวดเร็ว Lene จึงคิดว่าสักวันหนึ่งสามีของเธอจะต้องตายเพราะไส้กรอกแน่ ๆ หากไม่ทำอะไรสักอย่าง ดังนั้นเธอจึงเกิดไอเดียนำไส้กรอกมาจับคู่กับกะหล่ำปลีดอง เพราะคิดว่าหากมีเครื่องเคียงเข้ามาเสริมจะทำให้สามีของเธอทานไส้กรอกได้ช้าลง

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ลองทานไส้กรอกคู่กับกะหล่ำปลีดองแล้ว ปรากฏว่า Manfred นั้นทานไส้กรอกได้ช้าลงจริง ๆ เพราะเขาจะต้องคอยหยิบไส้กรอกชิ้นเล็กทีละชิ้นออกจากกองกะหล่ำปลี แต่ทั้งนี้เขายังค้นพบอีกว่าการผสมผสานระหว่างไส้กรอกและกะหล่ำปลีนั้นมีรสชาติดีมาก ๆ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าจะทานอาหารจานนี้ให้ช้าลงเพื่อลิ้มรสความอร่อยไปทีละนิด ซึ่งในครั้งนั้นเขาใช้เวลาในการทานอาหารนานถึง 3 ชั่วโมง

ในภายหลัง Lene จึงนำเรื่องราวตลกขบขันนี้ไปเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง พอได้ฟังเช่นนั้นหลายคนจึงลองทำตาม ปรากฏว่าไส้กรอกและกะหล่ำปลีดองมีรสชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ในเวลาไม่ช้าสูตรนี้จึงได้รับการบอกต่อ จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเยอรมัน ถึงขั้นกล่าวกันว่าไส้กรอกเยอรมันจะไม่สมบูรณ์หากไม่มีกะหล่ำปลีดอง

ความนิยมและคุณค่าทางโภชนาการ

เมื่อเวลาผ่านไปไส้กรอกและกะหล่ำปลีดองก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในศตวรรษที่ 19 ชาวเยอรมันที่อพยพไปยังอเมริกา ได้แนะนำไส้กรอกและกะหล่ำปลีดองของพวกเขาให้ชาวอเมริกันได้รู้จัก จนกลายเป็นอาหารที่คุ้นเคยในชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมันในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในแถบมิดเวสต์และเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเทศกาลและงานสังสรรค์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเฉลิมฉลองเทศกาล อ็อกโทเบอร์เฟสต์ (Oktoberfest) ของสหรัฐอเมริกา

นอกเหนือจากประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไส้กรอกและกะหล่ำปลีดองยังเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย เนื่องจากกะหล่ำปลีดองอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และโปรไบโอติก ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับการย่อยอาหารและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ส่วนไส้กรอกนั้นอุดมไปด้วยโปรตีนและสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Yakgwa (ยักกวา, 약과)
ทำความรู้จัก Yakgwa (ยักกวา, 약과) ขนมหวานดั้งเดิมของเกาหลี
Songpyeon (ซงพยอน, 송편)
ทำความรู้จัก Songpyeon (ซงพยอน, 송편) ขนมต็อกพื้นเมืองของเกาหลี
Kimchi Bokkeumbap (กิมจิ บกกึมบับ, 김치볶음밥)
ทำความรู้จัก Kimchi Bokkeumbap (กิมจิ บกกึมบับ, 김치볶음밥) หรือข้าวผัดกิมจิอาหารจานยอดนิยมในประเทศเกาหลีใต้
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ