แชร์

Lee Kum Kee (ลีกุมกี่)

อัพเดทล่าสุด: 13 ส.ค. 2025

ถ้าไม่เกิดความบังเอิญในวันนั้น คงไม่มีลีกุมกี่ในวันนี้

เป็นเวลากว่า 135 ปี ที่ซอสหอยนางรมลีกุมกี่ (Lee Kum Kee) ได้ถือกำเนิดขึ้น จากเรื่องราวในวันนั้นที่คุณ Lee Kum Sheung เจ้าของโรงน้ำชาในมณฑลกวางตุ้ง ลืมดับไฟหม้อต้มซุปหอยนางรม เพราะว่ายุ่งจนเกินไป พอรู้ตัวอีกทีก็ได้กลิ่นหอมโชยมาจากห้องครัว เมื่อกลับไปดูก็พบว่าซุปหอยนางรมที่ต้มทิ้งไว้กลายเป็นน้ำสีดำเข้มข้นและมีกลิ่นหอม เขาจึงตัดสินใจลองชิมซุปนั้นดู ปรากฏว่าซุปที่ดูเหมือนจะไหม้กลับมีรสชาติลุ่มลึก เข้มข้น เค็มปนหวานเล็กน้อย เป็นการค้นพบรสชาติใหม่ที่กระตุ้นต่อมรับรสได้เป็นอย่างดี

จากความบังเอิญสู่ผู้นำตลาดซอสในจีน

หลังจากนั้นคุณ Lee Kum Sheung จึงนำซอสหอยนางรมไปวางขายที่ร้านของเขาภายใต้ชื่อ ลีกุมกี่ (Lee Kum Kee) จนได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในกลุ่มคนท้องถิ่น และแน่นอนว่าเมื่อซอสหอยนางรมขายดิบขายดี ในเวลาต่อมาเขาจึงก่อตั้งบริษัทเพื่อขยายฐานการผลิตและการจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศ

ในช่วงปีแรก ๆ ลีกุมกี่เผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความไม่มั่นคงทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในประเทศจีน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงอดทนและปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตซอส ด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น ซีอิ๊ว ซอสฮอยซิน และซอสพริก ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้แบรนด์ของเขาเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง

ความสำเร็จในฮ่องกงและการบุกตลาดโลก

จากนั้นบริษัทลีกุมกี่ก็ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ที่ฮ่องกง และได้เจาะตลาดฮ่องกงจนประสบความสำเร็จ ในฮ่องกงช่วงปี 1950 ซอสหอยนางรมลีกุมกี่เป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก หลังจากการสำรวจพบว่าผู้บริโภคจำนวนมากยอมจ่ายเงินกว่า 1.80 เหรียญฮ่องกง เพื่อซื้อซอสหอยนางรมลีกุมกี่ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากรายได้ของคนทั่วไปในฮ่องแล้ว พบว่าในขณะนั้นพวกเขามีรายได้ประมาณ 10 เหรียญฮ่องกงต่อเดือนเท่านั้น นั่นจึงหมายความว่า 20% ของเงินเดือนของพวกเขาหมดไปกับซอสหอยนางรมลีกุมกี่ นี่จึงแสดงให้เห็นแล้วว่าซอสหอยนางรมลีกุมกี่ได้รับความนิยมมากมายเพียงใด

ต่อมาในปี 1970 ลีกุมกี่ได้ก้าวไปสู่โลกใหม่ โดยการสร้างโรงงานในสหรัฐอเมริกา ซึ่งการมาในครั้งนี้ได้สร้างความท้าทายให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก เพราะสหรัฐอเมริกาถือเป็นตลาดใหม่ การนำรสชาติดั้งเดิมที่ชาวเอเชียคุ้นเคยมาเผยแพร่ที่นี่ จึงเป็นความท้าทายที่บริษัทต้องก้าวข้ามไปให้ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปลีกุมกี่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาสามารถครองใจชาวอเมริกันได้อย่างล้นหลาม

แต่ไม่ใช่แค่ในอเมริกาเท่านั้น เมื่อความนิยมมีเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่ลดละ ลีกุมกี่ก็ได้ขยายฐานการผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นแบรนด์เครื่องปรุงรสที่มีชื่อเสียงในประเทศอื่น ๆ มากกว่า 100 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก และประเทศไทยที่ลีกุมกี่ได้เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปี 1980

คุณภาพ ความยั่งยืน และนวัตกรรม: หัวใจของลีกุมกี่

แม้จะขยายธุรกิจไปทั่วโลก แต่บริษัทยังคงยึดมั่นในมรดกและวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม ซอสของลีกุมกี่ยังคงผลิตด้วยความเอาใจใส่สูงสุด โดยใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุดและเทคนิคที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ลีกุมกี่เชื่อว่า ส่วนผสมที่ดีจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นเขาจึงเลือกใช้เฉพาะส่วนผสมที่ดีที่สุด ถ้าเป็นซอสหอยนางรมก็ต้องใช้หอยนางรมที่สดใหม่ อวบอ้วน ถูกเลี้ยงมาอย่างดีจากฟาร์มที่ผ่านการควบคุมมาอย่างเข้มงวด ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์จำพวกซีอิ๊วและซอสอื่น ๆ ก็ต้องใช้วัตถุดิบจากพืชที่ไม่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม หรือ NON GMO เพื่อให้ได้มาตรฐานตามสโลแกนที่ว่า Quality Never Compromised

นอกจากนี้ลีกุมกี่ยังส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนและการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ บริษัททุ่มเทเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นผ่านโครงการที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์และความรับผิดชอบต่อสังคม จนกลายเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมอาหารหมักดองระดับโลกที่ได้รับการรับรอง LEED Platinum

(LEED หรือ Leadership in Energy and Environmental Design เป็นเกณฑ์การประเมินระดับนานาชาติที่แสดงถึงมาตรฐานในการก่อสร้างอาคารสีเขียว ที่ดำเนินการโดยองค์กรที่เรียกว่า U.S. Green Building Council ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Platinum เป็นระดับสูงสุดในระบบการจัดอันดับ)

ความสำเร็จของลีกุมกี่ (Lee Kum Kee) ไม่เพียงมาจากความมุ่งมั่นในคุณภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความทุ่มเทในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอีกด้วย บริษัทยังคงวิจัยรสชาติใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยร่วมมือกับเชฟและผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารจากทั่วโลก จนทุกวันนี้ลีกุมกี่มีผลิตภัณฑ์ประเภทซอสและเครื่องปรุงรสในตลาดมากกว่า 200 รายการ

เรื่องราวของลีกุมกี่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังแห่งความหลงใหล ความอุตสาหะ และการแสวงหาความเป็นเลิศด้านการทำอาหาร จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญในครัว จนกลายเป็นที่ยอมรับในระดับสากล


บทความที่เกี่ยวข้อง
ME CARE (มีแคร์)
ทำความรู้จัก ME CARE แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของประเทศไทย ที่มีมาตรฐานการผลิตจากประเทศเยอรมนี
Wisconsin Chees (วิสคอนซินชีส)
ทำความรู้จัก Wisconsin Cheese ชีสคุณภาพจากรัฐวิสคอนซิน ชีสที่ผลิตใน Americas Dairyland ดินแดนแห่งนมและชีสของสหรัฐอเมริกา
Phillips Foods (ฟิลลิปส์ ฟู้ดส์)
ทำความรู้จัก Phillips Foods (ฟิลลิปส์ ฟู้ดส์) แบรนด์อาหารทะเลที่โดดเด่นด้วยคุณภาพเนื้อปูระดับโลก
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ