แชร์

ไมโล (Milo) และ โอวัลติน (Ovaltine)

ย้อนกลับไปในวัยเด็ก หลายคนคงจะคุ้นเคยกันดีกับเครื่องดื่มมอลต์รสช็อกโกแลตอย่าง โอวัลติน (Ovaltine) และ ไมโล (Milo) แต่แน่นอนว่าหลายคนคงจะสงสัยกันไม่น้อยว่าเครื่องดื่มที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันทั้งสองแบรนด์นี้ ใครมีต้นกำเนิดมาก่อนกันแน่? วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปไขข้อสงสัยนี้ค่ะ

Ovaltine: ผู้บุกเบิกจากสวิตเซอร์แลนด์ (ค.ศ. 1904)

เรื่องราวของโอวัลตินและไมโลนั้นเริ่มต้นขึ้นในช่วง ศตวรรษที่ 20 แต่ทว่าแบรนด์ที่เกิดขึ้นก่อนนั้นคือ โอวัลติน (Ovaltine) ที่เดิมทีจะมีชื่อว่า Ovomaltine (โอโวมอลต์ไทน์) ที่มาจากคำว่า Ovum ซึ่งแปลว่าไข่ในภาษาละติน และคำว่า Malt

โอวัลตินถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1904 โดย Dr. Georg Wander (ดร. เกออร์ก วันเดอร์) นักเคมีในเมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สูตรดั้งเดิมจะมีส่วนผสมหลักคือมอลต์ นม และไข่ ซึ่งต่อมาไข่ถูกลบออกไปจากสูตร ถูกแทนที่ด้วย ผงโกโก้ ที่ Albert Wander (อัลเบิร์ต วันเดอร์) ลูกชายของ Georg ได้แนะนำให้เติมลงไป ทำให้เครื่องดื่มมีรสชาติดีขึ้น จนเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ

โอวัลตินถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้เด็กที่ขาดสารอาหารได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเกิดปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็กที่ค่อนข้างมีความรุนแรงอย่างมากในสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยเหตุนี้หลังจากเปิดตัวครั้งแรก โอวัลตินจึงกลายเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสวิตเซอร์แลนด์ โดยในช่วงแรกนี้จะถูกวางขายตามร้านขายยา เนื่องจากโอวัลตินถูกจัดว่าเป็น อาหารเสริมในทางการแพทย์

ในปี 1909 โอวัลตินถูกส่งไปขายในประเทศอังกฤษ แต่กระบวนการจดทะเบียนการค้ากลับมีการสะกดชื่อแบรนด์ผิดกลายเป็น Ovaltine แต่ทว่าชื่อใหม่นี้ฟังดูออกเสียงง่าย และติดหูกว่าชื่อเก่า ดังนั้นบริษัทจึงตัดสินใจใช้ชื่อโอวัลตินเป็นชื่อผลิตภัณฑ์ในตลาดอังกฤษ (ปัจจุบันทั้งในสหราชอาณาจักร อเมริกา ออสเตรเลีย ภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ รวมถึงประเทศไทย เครื่องดื่มมอลต์นี้ก็รู้จักในชื่อโอวัลตินเช่นกัน)

ในปี 1915 โอวัลตินก็ได้รับการแนะนำให้รู้จักในสหรัฐอเมริกา จนได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากขณะนั้นยังมีแบรนด์อาหารเสริมเกิดขึ้นน้อยมาก ซึ่งโอวัลตินสร้างแบรนด์ด้วยแนวคิดเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพความเป็นอยู่โดยรวม ทำให้ดึงดูดผู้บริโภคได้หลากหลายทั้งเด็กและผู้ใหญ่

นอกจากนี้ในสหรัฐอเมริกา โอวัลตินยังเป็นที่รู้จักผ่านกลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่ด้วย โดยมักจะโฆษณาผ่านโปสเตอร์ หรือสปอตโฆษณาในวิทยุกระจายเสียง ซึ่งออกอากาศทางวิทยุครั้งแรกผ่านรายการ Little Orphan Annie และ Captain Midnight รายการวิทยุที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาสมัยนั้น

Milo: จากออสเตรเลีย สู่พลังงานเพื่อนักกีฬา (ค.ศ. 1934)

มาต่อกันที่เรื่องราวของ ไมโล (Milo)...

ไมโลได้รับการพัฒนาโดย Thomas Mayne (โทมัส เมย์น) นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารที่ทำงานให้กับบริษัท Nestlé ออสเตรเลีย ในปี 1934 ในเมือง Smithtown รัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่คุ้มค่าสำหรับเด็ก

ไมโลอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ทั้งวิตามิน B, C ,D แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาระดับพลังงาน โดยมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ ข้าวบาร์เลย์มอลต์ นมผง น้ำตาล และโกโก้

ไมโลตั้งชื่อตาม Milo of Croton (ไมโลแห่งโครตอน) นักมวยปล้ำยุคกรีกโบราณ จ้าวแห่งพละกำลังและความแข็งแกร่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพละกำลังแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี เนื่องจากไมโลมีจุดมุ่งหมายไปที่การสนับสนุนด้านกีฬา ดังนั้นกลยุทธ์การตลาดจึงมุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักกีฬาโดยเฉพาะทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งได้รับการเปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการในงาน Sydney Royal Easter Show ปี 1934 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

ไมโลมักจะสนับสนุนกิจกรรมกีฬาของโรงเรียนทั่วโลก เพื่อส่งเสริมเด็กๆ ให้มีสุขภาพที่ดีผ่านกิจกรรม ไมโลทรัค หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ไมโลโรงเรียน ซึ่งจะให้บริการเครื่องดื่มไมโลฟรีในงานต่างๆ ปัจจุบันไมโลยังคงสนับสนุนเด็กๆ ด้วยวิธีนี้ จนกลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมไปแล้ว

นอกจากนี้แบรนด์ยังตั้งเป้าหมายไว้ว่า เป้าหมายของไมโล คือ การเติมพลังด้วยรสชาติ แสนอร่อย อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน พร้อมสนับสนุนให้เด็กๆ ประสบความสำเร็จในทุกก้าวของชีวิต

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Tatawa Cookies
ทำความรู้จัก Tatawa Cookies ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตคุกกี้จากมาเลเซีย
Hiyori Wasanbon (ฮิโยริวาซันบง)
ทำความรู้จัก Hiyori Wasanbon (ฮิโยริวาซันบง) แบรนด์ขนมที่ทำมาจากน้ำตาลวาซันบง อันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น
น้ำผึ้งดอกส้ม และ น้ำผึ้งดอกเกาลัด
ทำความรู้จัก น้ำผึ้งดอกส้ม (Orange Blossom Honey) และ น้ำผึ้งดอกเกาลัด (Chestnut Blossom Honey)
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ