แชร์

Cornish Pasty (คอร์นิช พาสตี้)

ย้อนกลับไปช่วงศตวรรษที่ 13 ในเมืองคอร์นวอลล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ครั้งหนึ่งเมืองแห่งนี้เคยเป็นอุตสาหกรรมเหมืองดีบุกที่เฟื่องฟู โดยมีเรื่องเล่าว่าภรรยาของคนงานเหมืองดีบุกในคอร์นวอลล์ มักจะเตรียมอาหารที่รวมทุกอย่างเอาไว้ด้วยกันในชิ้นเดียว เพื่อมอบให้กับสามีสำหรับนำไปรับประทานเป็นอาหารกลางวัน เนื่องจากการทำงานในระดับความลึกเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะออกมาพักรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านได้

กำเนิด Cornish Pasty: ขนมปังห่อไส้ของคนงานเหมือง

ภรรยาของคนงานเหมืองดีบุกจึงทำการอบขนมที่สอดไส้ด้านในด้วยเนื้อวัว มันฝรั่ง หัวหอม และสวีด (รูตาบากา) จากนั้นจะทำการจีบขอบแป้งด้านใดด้านหนึ่งให้มีลักษณะเป็นรูปตัว D เพื่อให้สามีของพวกเขาสามารถใช้ด้านที่เป็นจีบเป็นที่จับขณะรับประทานอาหาร ทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการทำงานในเหมืองนั้นเลี่ยงไม่ได้ที่จะพบเจอกับสิ่งสกปรกที่มีทั้งฝุ่น และสารต่าง ๆ ดังนั้นขนมชนิดนี้จึงถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อป้องกันการเลอะเทอะและสะดวกต่อการรับประทาน

แต่อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าคนงานเหมืองทุกคนจะพกขนมชนิดนี้ติดตัวไปด้วย เหมืองบางแห่งมีเตาติดตั้งอยู่ในนั้น เพื่อปรุงอาหารสำหรับคนงาน หรือในบางครั้งขนมชนิดนี้ก็จะถูกนำมาส่งให้ในภายหลัง โดยเมื่อขนมพร้อมแล้วเหล่าภรรยาก็จะส่งสัญญาณโดยการตะโกนลงไปในเหมืองว่า Oggie Oggie Oggie! หรือบางคนก็อาจจะตะโกนว่า Hoggan Hoggan Hoggan! เพื่อแจ้งให้คนงานเหมืองทราบว่าอาหารของพวกเขาพร้อมแล้ว

สาเหตุที่เรียกแบบนั้นเป็นเพราะว่าในยุคแรก ๆ ขนมชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Oggie หรือ Hoggan ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของเมืองคอร์นวอลล์ที่แปลว่า เค้ก และ เค้กอบ ก่อนจะถูกเรียกว่า Cornish Pasty ในภายหลัง

อีกหนึ่งความเชื่อของคนงานเหมือง คือพวกเขาเชื่อว่ามีวิญญาณสิงสถิตย์อยู่ในเหมือง หากไม่ติดสินบนด้วยอาหารจำนวนเล็กน้อย จะก่อให้เกิดหายนะและความโชคร้าย พวกเขาจึงนำอาหารส่วนที่เหลือ ซึ่งก็คือด้านที่เป็นจีบสำหรับจับรับประทานไปวางไว้ เพื่อมอบให้กับวิญญาณตามความเชื่อ

การอพยพและการแพร่หลาย: จากท้องถิ่นสู่สากล

ในเวลาต่อมาเมื่ออุตสาหกรรมเหมืองดีบุกล่มสลายในคอร์นวอลล์ช่วงปลายศตวรรษที่ 18 คนงานเหมืองหลายครอบครัวต่างพากันอพยพไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วทั้งอังกฤษ และได้นำสูตรขนมชนิดนี้ติดตัวไปด้วย ในภายหลังขนมชนิดนี้จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศอังกฤษ และได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา โดยการนำเนื้อสัตว์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่เนื้อวัวเพิ่มเข้าไป อาทิเช่น เนื้อหมู เนื้อแกะ และเนื้อไก่ จากนั้นจึงเริ่มเรียกชื่อใหม่ว่า Cornish Pasty ซึ่งเป็นชื่อที่อ้างอิงถึงขนมของชาวคอร์นิชในเมืองคอร์นวอลล์นั่นเองค่ะ

ความนิยมของ Cornish Pasty เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดศตวรรษที่ 19 และในไม่ช้าก็กลายเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของอังกฤษ โดยถูกกล่าวถึงในนวนิยายของ Charles Dickens ซึ่งเขียนเกี่ยวกับคนงานเหมืองชาวคอร์นิชที่เพลิดเพลินกับ Oggie ในหนังสือของเขาเรื่อง Bleak House

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Cornish Pasty กลายเป็นอาหารหลักของกองทัพอังกฤษ เนื่องจากพกพาสะดวก และง่ายต่อการทำในปริมาณมาก จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับทหารที่ต้องเดินทางไกล และหลังจากสงครามจบลง ขนมชนิดนี้ก็ยังคงเป็นอาหารยอดนิยม โดยมีการคิดค้นสูตรและรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้นมามากมาย ปัจจุบัน Cornish Pasty จึงกลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมคอร์นิช และยังคงเป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่นและคนทั่วโลกนับแต่นั้นเป็นต้นมา


บทความที่เกี่ยวข้อง
Aussie Burger With The Lot (ออสซี่เบอร์เกอร์ วิธ เดอะ ล็อต)
ทำความรู้จัก Aussie Burger With The Lot (ออสซี่เบอร์เกอร์ วิธ เดอะ ล็อต) แฮมเบอร์เกอร์เครื่องแน่นสไตล์ออสเตรเลีย
Sausage Sizzle (ซอสเซจ ซิซเซิล)
ทำความรู้จัก Sausage Sizzle (ซอสเซจ ซิซเซิล) กิจกรรมย่างไส้กรอก เพื่อการกุศลของชาวออสเตรเลีย
 Australian Beef (เนื้อวัวออสเตรเลีย)
ประวัติ Australian Beef (เนื้อวัวออสเตรเลีย) หนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดของประเทศออสเตรเลีย
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ