Oba Leaves (ใบโอบะ)
ใบโอบะ หรือ ใบชิโสะ เป็นผักขึ้นชื่อที่อยู่คู่วัฒนธรรมการทานอาหารของชาวเอเชียมานานหลายศตวรรษ โดยเฉพาะในวัฒนธรรมญี่ปุ่นและเกาหลี ใบโอบะถูกนำไปใช้ในอาหารอย่างแพร่หลาย โดยมักจะเสิร์ฟมาพร้อมกับเมนูปลาดิบและเนื้อย่าง
ในด้านพฤกษศาสตร์ใบโอบะจัดเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกับใบกะเพรา โหระพา และสะระแหน่ มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออก พบได้มากในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เป็นพืชผักที่มีกลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัว ในประเทศไทยเราจะรู้จักกันในชื่อ ใบงาขี้ม้อน
ประวัติศาสตร์: จากยาจีนโบราณสู่เส้นทางสายไหม
ประวัติการนำใบโอบะมาใช้ในการทำอาหาร สามารถสืบย้อนไปถึงประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศแรก ๆ ที่มีการนำใบโอบะมารับประทาน ในประเทศจีนจะรู้จักใบโอบะในชื่อ ใบซีซู ซึ่งขณะนั้นใบโอบะได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงในด้านสรรพคุณทางยา ใช้รักษาโรคต่าง ๆ เช่น หอบหืด ไอ อาหารไม่ย่อย อีกทั้งยังใช้ในยาจีนโบราณ เพื่อช่วยในการขับเหงื่อและบรรเทาอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ
ใบโอบะได้รับการบันทึกไว้เป็นครั้งแรกในสูตรยาสมัยราชวงศ์ซ่ง ในหนังสือชื่อ Taiping Huimin Hejiju Fang ซึ่งเขียนขึ้นในปี 1110 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นจึงแพร่กระจายตามเส้นทางการค้าสายไหมไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ใบโอบะในญี่ปุ่นและเกาหลี: เสน่ห์เฉพาะตัวในแต่ละวัฒนธรรม
ในประเทศญี่ปุ่นใบโอบะเริ่มเป็นที่นิยมในสมัยราชวงศ์ถัง เมื่อพระสงฆ์ญี่ปุ่นที่เดินทางกลับมาจากประเทศจีนได้นำเมล็ดต้นโอบะกลับมายังประเทศญี่ปุ่นด้วย จึงมีการเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลาย ในเวลาต่อมาใบโอบะจึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในญี่ปุ่น โดยได้รับการปลูกฝัง เพื่อใช้ในการทำอาหารและยารักษาโรค
ในอาหารญี่ปุ่น ใบโอบะมักจะนิยมนำมาตกแต่งจานและรับประทานคู่กับซูชิหรือซาชิมิ พวกปลาดิบต่าง ๆ เนื่องจากใบโอบะมีกลิ่นหอมฉุนที่เป็นเอกลักษณ์ จึงช่วยดับกลิ่นคาวที่มาจากอาหารทะเลได้ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย เวลานำมาแต่งจานก็ดูสวยงาม จึงทำให้อาหารน่ารับประทานมากขึ้นไปอีก และนอกจากจะรับประทานกันแบบสด ๆ แล้ว ใบโอบะยังสามารถใช้ทำผักดอง ซอส และชา ได้อีกด้วย ในยาแผนโบราณของญี่ปุ่นใบโอบะถูกนำมาต้มเป็นชา เพื่อรักษาปัญหาทางเดินอาหารและป้องกันโรคอาหารเป็นพิษ
ในเกาหลี ใบโอบะมักจะใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารทั่วไป โดยนิยมใช้ในการห่อข้าวสวยและอาหารประเภทเนื้อย่าง เพื่อรับประทานคู่กัน นอกจากนี้ในเกาหลียังมีเมนูยอดนิยมอีกหนึ่งชนิด คือ แกนิบกิมจิ (깻잎김치) เป็นกิมจิที่ทำจากใบโอบะ มีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว รสสัมผัสอ่อนนุ่มแตกต่างออกไปจากใบโอบะสด
นอกจากนี้ใบโอบะยังมีประวัติการใช้เป็นยาแผนโบราณในเกาหลีมาอย่างยาวนานพอ ๆ กับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออก โดยชาวเกาหลีจะเชื่อกันว่าใบโอบะช่วยบรรเทาปัญหาระบบทางเดินหายใจได้ เช่น โรคหอบหืด และหลอดลมอักเสบ
ความหลากหลายในการใช้งานและสรรพคุณที่ล้นหลาม
ปัจจุบันใบโอบะยังคงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลกในด้านการทำอาหารและสรรพคุณทางยา สามารถทานได้ทั้งแบบดิบและปรุงสุก เช่น ผัด ย่าง ทอด หรือต้ม ใช้ห่อข้าว เนื้อย่าง ซูชิ และอื่น ๆ อีกมากมาย รสชาติของใบโอบะเข้ากันได้ดีกับพริก กระเทียม ซอสถั่วเหลือง เต้าหู้ เนื้อย่าง เช่น ปลา ไก่ และเนื้อวัว ส้ม ลูกพลัม ชาเขียว และชีสนิ่ม เรียกได้ว่าเป็นพืชผักสารพัดประโยชน์ที่ให้ทั้งความอร่อยและสรรพคุณทางยาที่ล้นหลาม