Arla (อาร์ลา)

การเดินทางของ Arla : จากความมุ่งมั่นของเกษตรกรสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมนม

"Arla" (อาร์ลา) ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์ผลิตภัณฑ์นมที่เราคุ้นเคย แต่ยังเป็นชื่อที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของความร่วมมือและความมุ่งมั่นในอุตสาหกรรมน้ำนมโค แบรนด์ระดับโลกแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศสวีเดน ก่อนที่จะรวมกิจการกับบริษัทใหญ่จากเดนมาร์ก ปัจจุบัน Arla มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเดนมาร์ก นำเสนอผลิตภัณฑ์จากนมมากกว่า 60 ประเภท มีฐานการผลิตใน 11 ประเทศ และวางจำหน่ายสินค้าในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นคุณภาพ ประโยชน์ร่วมกัน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

จุดเริ่มต้นจากหัวใจของเกษตรกร: กำเนิดสหกรณ์โคนมในสแกนดิเนเวีย

เรื่องราวของ Arla เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการก่อตั้งสหกรณ์ฟาร์มโคนมในแถบสแกนดิเนเวีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสวีเดนและเดนมาร์ก สหกรณ์แห่งแรกของสวีเดนในชื่อ "Arla Mejeriförening" ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1881 ที่ฟาร์ม Stora Arla Gård ในมณฑล Västmanland เพียงหนึ่งปีต่อมา ในปี ค.ศ. 1882 สหกรณ์แห่งแรกของเดนมาร์ก "Hjedding" ก็ถือกำเนิดขึ้นที่เมือง Ølgod มณฑล Jutland

การรวมตัวกันในรูปแบบสหกรณ์นี้เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพของน้ำนมดิบ และที่สำคัญคือ รายได้จากการขายจะถูกแบ่งปันอย่างเป็นธรรมแก่สมาชิก ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเติบโตอย่างทั่วถึงในหมู่เกษตรกร ด้วยเหตุนี้ การจัดตั้งสหกรณ์จึงได้รับความนิยมและขยายตัวอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ความท้าทายและการปรับตัว: บทเรียนจากสวีเดน

แม้ว่าการจัดตั้งสหกรณ์จะนำมาซึ่งประโยชน์มากมาย แต่การขยายตัวอย่างอิสระในสวีเดนก็ทำให้เกิดปัญหาตามมา นั่นคือการแข่งขันที่สูงเกินไปจนส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และยังเผชิญกับปัญหาด้านสุขอนามัยในการผลิตอีกด้วย

สถานการณ์นี้ทำให้สภาในกรุงสตอกโฮล์มมีความคิดที่จะเข้ามาควบคุมผู้ผลิตเหล่านี้โดยภาครัฐ และได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาซึ่งประกอบด้วยเกษตรกรผู้เชี่ยวชาญและผู้ผลิตนมรายใหญ่ แต่คณะกรรมการกลับมองว่าข้อเสนอดังกล่าวไม่เป็นธรรมต่อเกษตรกรทั่วไป พวกเขาจึงเสนอแนวทางใหม่ นั่นคือให้เกษตรกรยังคงดูแลการผลิตและจัดจำหน่ายด้วยตนเองต่อไป แต่ให้อยู่ในรูปแบบของสหกรณ์ขนาดใหญ่ขึ้นและมีความแข็งแกร่งกว่าเดิม

เป้าหมายสำคัญคือการช่วยให้ผู้ผลิตนมแต่ละรายทำกำไรได้มากขึ้นผ่านองค์กรที่เข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยปกป้องผลประโยชน์ของทุกฝ่าย ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็จะได้รับประโยชน์จากความเป็นระเบียบ ราคาที่สมเหตุสมผล และคุณภาพที่เชื่อถือได้

การรวมศูนย์เพื่อความเติบโต: กำเนิด Arla ในสวีเดน

หลังจากใช้เวลาดำเนินการหลายปี สมาคมสหกรณ์โคนมที่ใหญ่ที่สุดในสวีเดนก็ถือกำเนิดขึ้น ในปี ค.ศ. 1915 ภายใต้ชื่อ "The Farmers' Milk Retail Association" ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "Mjölkcentralen" หรือ "The Milk Centre" ในปี ค.ศ. 1927 และท้ายที่สุดก็ใช้ชื่อว่า "Arla" ในปี ค.ศ. 1975 ชื่อนี้ไม่เพียงเชื่อมโยงกับสหกรณ์แห่งแรก แต่ยังเคยเป็นชื่อของร้านค้าปลีกนมวัวที่ใหญ่ที่สุดในเมือง Gothenburg ด้วย การรวมกิจการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Stockholms Mjölkförsäljnings AB ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1880 รวมถึงโรงผลิตนมขนาดเล็ก สถานีแยกครีม ฟาร์มโคนม และร้านค้าปลีกอีกกว่าร้อยแห่ง ช่วยลดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมและทำให้ราคานมมีเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อถึงปลายศตวรรษที่ 20 Arla ก็มีส่วนแบ่งตลาดในผลิตภัณฑ์นมของสวีเดนมากถึง 65%

การเติบโตของเดนมาร์ก: พลังจากความร่วมมือของชุมชน

ในขณะเดียวกัน ประเทศเดนมาร์กก็มีการเติบโตของอุตสาหกรรมน้ำนมโคอย่างรวดเร็วเช่นกันนับตั้งแต่การก่อตั้งสหกรณ์ Hjedding ในปี ค.ศ. 1882 จนกระทั่งปี ค.ศ. 1890 มีผู้ผลิตรายย่อยมากถึง 1,700 ราย และมีการจัดตั้งสหกรณ์อีกมากมายโดยอ้างอิงจากโมเดลของ Hjedding

จุดที่แตกต่างจากสวีเดนคือบทบาทของภาครัฐในเดนมาร์กนั้นไม่ได้เข้ามาสนับสนุนโดยตรง แต่ประชาชนต้องร่วมมือกันบริหารจัดการด้วยเงินทุนของแต่ละรายเพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เมื่อเกิดความไว้วางใจกันระหว่างผู้ผลิตท้องถิ่น การจัดตั้งสหกรณ์หรือองค์กรส่วนกลางของแต่ละชุมชนจึงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก ด้วยแนวคิดที่เปิดรับสมาชิกทุกระดับ แบ่งจ่ายรายได้ตามสัดส่วนน้ำนมที่ผลิตได้ และสมาชิกทุกรายมีส่วนร่วมรับผิดชอบต้นทุนต่างๆ เมื่อผนวกเข้ากับเทคโนโลยีและการนำเข้าวัวนมสายพันธุ์ใหม่ๆ อุตสาหกรรมน้ำนมโคในเดนมาร์กจึงเติบโตอย่างรวดเร็วโดยมีผู้ผลิตรายย่อยเป็นกลไกหลัก

จากวิกฤติสู่การรวมพลัง: กำเนิด MD Foods และการรวม Arla

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 เป็นต้นมา อุตสาหกรรมต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลให้ผู้ผลิตรายย่อยหลายรายประสบปัญหา ผู้ผลิตและสหกรณ์จึงเริ่มรวมตัวกันและก่อตั้งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ขึ้นมากมาย และยังมีการจัดตั้งองค์กรที่รวบรวมบริษัทและสหกรณ์โคนมจากทั่วประเทศในปี ค.ศ. 1972 โดยมีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของโรงงานผลิตนมเอกชน และเป็นกระบอกเสียงแทนบริษัทต่างๆ ต่อภาครัฐ

ในปี ค.ศ. 1970 "Mejeriselskabet Danmark" (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น MD Foods) ได้ก่อตั้งขึ้นจากการรวมตัวกันของผู้ผลิตรายใหญ่ 4 ราย และรายย่อยอีก 3 ราย บริษัทนี้ก้าวขึ้นเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์นมที่ใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตน้ำนมทั้งประเทศ

หลังจากประสบความสำเร็จทั้งด้านเศรษฐกิจและบริษัทเอง MD Foods มีวิสัยทัศน์ที่จะเติบโตสู่ระดับโลก ด้วยเหตุนี้ ในปี ค.ศ. 2000 MD Foods จึงรวมกิจการเข้ากับ Arla ของสวีเดน การผนึกกำลังของสองบริษัทใหญ่จากสองประเทศนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองฝ่าย รวมถึงอุตสาหกรรมนมโคโดยรวมของแต่ละประเทศ

ก้าวสู่ความเป็นสากล: Arla ในฐานะผู้นำระดับโลก

Arla เริ่มทำการตลาดในสหราชอาณาจักรเป็นแห่งแรก ซึ่งยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ บริษัทยังเริ่มเข้าซื้อกิจการและร่วมมือกับผู้ผลิตที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ เช่น แคนาดาและจีน หลังจากปี ค.ศ. 2010 ซึ่งเป็นช่วงที่ประสบความสำเร็จในการส่งออกไปยังหลากหลายทวีปทั่วโลก Arla ก็ได้เริ่มตั้งฐานการผลิตในต่างประเทศขึ้น และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตภัณฑ์นมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเต็มรูปแบบ

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Arla ให้ความสำคัญกับการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใส่ใจในสุขภาพของผู้บริโภค นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์นมวัวสดแล้ว Arla ยังมีผลิตภัณฑ์จากนมอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งชีส เนย ครีมชีส และโยเกิร์ต ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ที่มีจุดเด่นแตกต่างกันไป เช่น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก นมโปรตีนสูง ผลิตภัณฑ์ปลอดแลคโตส (lactose-free) และผลิตภัณฑ์เพื่อสังคมอย่าง Farmers Milk ซึ่งจะมีการบริจาคเงิน 25 ปอนด์ต่อการจำหน่ายหนึ่งขวดให้กับชาวไร่ผู้ผลิตนม เป็นช่องทางให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมสนับสนุนแรงงานที่เป็นรากฐานสำคัญของบริษัท