Galbi (กัลบี, 갈비)
กำเนิด Galbi ในสมัยราชวงศ์โชซอน
เรื่องราวของ Galbi มีประวัติศาสตร์ย้อนกลับไปในสมัยราชวงศ์โชซอน ซึ่งปกครองเกาหลีในช่วงปี ค.ศ. 1392 - 1897 ในยุคนั้นวัวไม่ได้เป็นเพียงแหล่งอาหาร แต่ยังเป็นแรงงานสำคัญในการเกษตร ทั้งการไถนา และการขนส่งสินค้า ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงออกกฎหมายที่เข้มงวด ห้ามประชาชนทั่วไปฆ่าวัว เพื่อนำมาประกอบอาหาร หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษอย่างรุนแรงGalbi: สิทธิพิเศษของกษัตริย์และขุนนาง
เมื่อประชาชนถูกห้ามนำเนื้อวัวมาประกอบอาหาร ดังนั้นการบริโภคเนื้อวัวจึงเป็นสิทธิพิเศษสำหรับพระมหากษัตริย์ และขุนนางชั้นสูงเท่านั้น ในพระราชวังเกาหลีมีเมนูหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ 갈비찜 (กัลบิจิม) หรือซี่โครงเนื้อวัวตุ๋น เมนูนี้ต้องใช้เวลาทำนานหลายชั่วโมง เนื่องจากมีส่วนผสม และขั้นตอนที่ซับซ้อน โดยจะต้องใช้เนื้อวัวคุณภาพดีที่สุดเท่านั้น นำมาหมักด้วยซอสที่ผสมผสานอย่างลงตัว แล้วตุ๋นจนกระทั่งเนื้อนุ่ม และมีรสชาติหวานเค็มกลมกล่อมการเปลี่ยนแปลงในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เกาหลีเริ่มเปิดประเทศ และมีความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกมากขึ้น ทำให้สังคมเริ่มเปลี่ยนแปลง กฎหมายที่ห้ามนำเนื้อวัวมาประกอบอาหารก็ผ่อนคลายลง ในยุคนี้ประชาชนทั่วไปสามารถหาซื้อเนื้อวัวมาบริโภคได้บ้างแล้ว แต่ทั้งนี้เนื้อวัวยังคงเป็นอาหารที่มีราคาแพง และหาซื้อได้ยากGalbi หลังสงครามเกาหลีและการฟื้นฟูประเทศ
หลังจากสงครามเกาหลีจบลง เกาหลีใต้เข้าสู่ช่วงฟื้นฟู และพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวเกาหลีมีรายได้เพิ่มขึ้น และอุตสาหกรรมการเลี้ยงปศุสัตว์ก็พัฒนาตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้เนื้อวัวจึงหาซื้อได้ง่ายขึ้น และมีราคาถูกลงกว่าเดิม และในช่วงเวลานี้เองที่วัฒนธรรมการรับประทาน Galbi แบบ ย่างบนโต๊ะ เริ่มเป็นที่นิยม โดยชาวเกาหลีจะติดตั้งเตาเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหาร และย่างเนื้อไปพร้อม ๆ กับการรับประทานซอสหมักสูตรพิเศษของ Galbi
สิ่งที่ทำให้ Galbi มีรสชาติพิเศษ คือซอสหมักสูตรเฉพาะ ซึ่งทำจากส่วนผสมหลากหลาย เช่น ซีอิ๊วเกาหลี น้ำตาลแดง กระเทียมสับ ต้นหอมซอย น้ำมันงา และน้ำลูกแพร์เกาหลี (อย่างไรก็ตามแต่ละครอบครัวมักจะมีสูตรลับเป็นของตัวเองที่สืบทอดกันมาหลายรุ่น) โดยเนื้อจะถูกแช่ในซอสหมักอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง หรืออาจจะข้ามคืน เพื่อให้รสชาติซึมซาบเข้าไปในเนื้ออย่างล้ำลึก จากนั้นจึงนำไปย่างด้วยไฟที่พอดี เพื่อให้เนื้อสุกทั่วถึง และมีสีน้ำตาลสวยงามเมือง Suwon และความรุ่งเรืองของ Galbi
เมือง Suwon ในจังหวัดคยองกีเป็นแหล่งที่ Galbi มีชื่อเสียงอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของตลาดวัวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เมืองแห่งนี้มีร้านอาหารที่ขาย Galbi เปิดให้บริการมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1940 มาจนถึงปัจจุบัน
การกำเนิด LA Galbi ในสหรัฐอเมริกา
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ Galbi เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 ที่เมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ชาวเกาหลีจำนวนมากอพยพไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่นั่น พวกเขาต้องการทำ Galbi ให้เหมือนบ้านเกิด แต่กลับเจอปัญหาใหญ่ เนื่องจากในสหรัฐอเมริการ้านขายเนื้อจะไม่มีการตัดเนื้อแบบเกาหลี ซี่โครงเกาหลีแบบดั้งเดิมจะตัดเป็นชิ้นหนา มีกระดูกยาว แต่ในสหรัฐอเมริกา เนื้อซี่โครงถูกตัดเป็นชิ้นบาง และตัดขวางกระดูกแทน
การปรับตัวสู่ LA Galbi
อย่างไรก็ตามแทนที่จะท้อแท้ ชาวเกาหลีในสหรัฐอเมริกากลับมีความคิดในการนำเนื้อที่หาได้ในท้องถิ่นมาลองทำ Galbi ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็เกินความคาดหมาย เนื้อที่ตัดด้วยวิธีใหม่นี้สามารถย่างได้รวดเร็ว เนื่องจากมีความบาง ทำให้เนื้อสุกได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังรับประทานได้สะดวกโดยไม่ต้องแกะเนื้อออกจากกระดูก นอกจากนี้ยังมีราคาที่ประหยัดกว่า เนื่องจากเป็นเนื้อส่วนที่ขายไม่ค่อยออก แต่มีรสชาติที่ดีไม่แพ้ Galbi แบบดั้งเดิม
ที่มาของชื่อ LA Galbi
วิธีการตัดแบบใหม่นี้ได้ชื่อว่า LA Galbi ว่ากันว่าชื่อนี้ตั้งตามชื่อเมืองที่มีการคิดค้นขึ้น ซึ่งก็คือเมืองลอสแอนเจลิส ขณะเดียวกันบางคนก็เชื่อว่า LA เป็นอักษรย่อมาจากคำว่า Lateral หมายถึงการตัดในแนวขวาง
ความนิยมของ LA Galbi ในสหรัฐอเมริกา
LA Galbi ไม่ได้ได้รับความนิยมแค่ในหมู่ชาวเกาหลีในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบของชาวอเมริกันด้วย เพราะย่างง่าย ทานง่าย และมีรสชาติอร่อย ร้านอาหารเกาหลีในสหรัฐอเมริกาเริ่มนำ LA Galbi มาเป็นเมนูหลัก และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งความสำเร็จนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่หลายของอาหารเกาหลีในสหรัฐอเมริกา
Korean Wave และการเผยแพร่วัฒนธรรม Galbi
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 เกาหลีใต้เริ่มเผยแพร่วัฒนธรรมของตนเองออกไปสู่ทั่วโลก ทั้งเพลง K-Pop ซีรี่ย์ต่าง ๆ และภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Korean Wave ซึ่งอาหารเกาหลี โดยเฉพาะ Galbi ได้รับประโยชน์อย่างมากจากปรากฏการณ์นี้เพราะผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมเกาหลีต่างก็ต้องการลิ้มรสอาหารที่เคยเห็นในซีรี่ย์ ภาพยนตร์ และมิวสิกวิดีโอ
ความหลากหลายของ Galbi ในปัจจุบัน
ปัจจุบัน Galbi มีหลากหลายรูปแบบ เช่น Galbi ย่าง แบบคลาสสิกที่ย่างบนเตาถ่าน, Galbijim แบบตุ๋นกับผักแครอท หัวไชเท้า และเห็ด เหมาะสำหรับอากาศหนาว, LA Galbi แบบตัดขวางที่ย่างเร็ว และทานง่าย และ Tteokgalbi เนื้อซี่โครงบดผสมกับเครื่องปรุง ปั้นเป็นก้อนแล้วย่าง
การสร้างสรรค์เมนู Galbi ในยุคใหม่
นอกจากนี้เชฟจากทั่วโลกยังนำ Galbi ไปสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ ๆ เช่นเบอร์เกอร์ Galbi, พิซซ่าหน้า Galbi, ซอส Galbi, สลัด Galbi และอื่น ๆ อีกมากมาย
สูตร Galbi สำหรับผู้ที่อยากลองทำเอง
สำหรับใครที่อยากลองทำ Galbi เรามีสูตรมาแบ่งปันด้วยค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=gQyVwzSiXBs
https://www.youtube.com/watch?v=-9LeHaBeXvg
https://www.youtube.com/watch?v=vtGzj6cUn7Q
สามารถหาซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ ได้ที่ริมปิงนะคะ
