Death Flip (เดธฟลิป)
จุดกำเนิดของค็อกเทล Death Flip
Death Flip (เดธฟลิป) เป็นชื่อของค็อกเทลชนิดหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นในปีค.ศ. 2010 โดยการสร้างสรรค์ของ Chris Hysted-Adams ประกอบไปด้วยเหล้าสามชนิด ได้แก่ Tequila เหล้าอันโด่งดังจากเม็กซิโก, Jägermeister เหล้าที่ผลิตจากสมุนไพรและเครื่องเทศ 56 ชนิด และ Chartreuse เหล้าฝรั่งเศสที่ผลิตด้วยสมุนไพร 130 ชนิด ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเหล้าที่มีดีกรีสูงและมีรสชาติซับซ้อนเป็นเอกลักษณ์ และผสมเข้ากับส่วนผสมที่สำคัญนั่นก็คือ ไข่สดทั้งฟองนั่นเองความหมายของค็อกเทลประเภท Flip
ค็อกเทลชนิดนี้จัดอยู่ในประเภทของ Flip ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากเครื่องดื่มร้อนในศตวรรษที่ 17 ที่ผสมเบียร์ เหล้า และน้ำตาลเข้าด้วยกัน เมื่อเวลาผ่านไปเริ่มมีการนิยมผสมไข่ลงไป พร้อมด้วยเครื่องเทศต่าง ๆ และสามารถเป็นได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น ในท้ายที่สุด จึงกลายมาเป็นชื่อเรียกประเภทของค็อกเทลที่มีการผสมไข่นั่นเอง เช่น Brandy Flip, Rum Flip หรือ Sleeper ซึ่งค็อกเทลเหล่านี้จะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลจากการที่ไข่แดงและไข่ขาวถูกผสมจนเกิดเป็นเนื้อเดียวกันและเกิดฟอง นอกจากนี้ Flip ยังมีข้อแตกต่างจาก Eggnog ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันและมักเกิดความสับสนในบางครั้ง นั่นก็คือ Eggnog จะมีการใส่นมหรือครีม ทำให้มีลักษณะคล้ายของหวานมากกว่า ในขณะที่ Flip จะเน้นไปที่ความโดดเด่นของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใช้ผสานกับเนื้อสัมผัสของไข่นั่นเองการสร้างสรรค์โดย Chris Hysted-Adams
จุดเริ่มต้นของ Death Flip มาจากการที่ Chris Hysted-Adams ซึ่งเป็นผู้จัดการของบาร์ The Black Pearl ในกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้มีความต้องการจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยเขาได้นำเหล้าทั้งสามชนิด ทั้ง Tequila, Jägermeister และ Chartreuse ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่บาร์เทนเดอร์ในฐานะของส่วนผสมหลักเพียงหนึ่งเดียวของค็อกเทลแต่ละชนิด แต่กลับไม่ได้เป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้ามากนัก เนื่องจากต่างเป็นเหล้าที่มีเอกลักษณ์สูง ทำให้ในมุมมองของลูกค้า ค็อกเทลที่ผสมด้วยเหล้าเหล่านี้อาจรับประทานยาก เขาจึงเลือกที่จะนำทั้งสามมารวมเข้าด้วยกัน ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อสร้างรสชาติขึ้นมาใหม่ จากนั้นจึงผสมผสานเข้ากับไข่และน้ำเชื่อม และปิดท้ายด้วยการโรยผง Nutmegที่มาของชื่อ Death Flip
ชื่อของ Death Flip นอกจากจะมาจากชื่อประเภทของค็อกเทลตามสูตรแล้ว ยังล้อไปกับชื่อเรียกของท่ากระโดดอย่างผาดโผนในการเล่น Skateboard เพื่อสื่อถึงความท้าทายในการชงและลิ้มลองรสชาติที่คาดไม่ถึงของค็อกเทลชนิดนี้ โดย ในช่วงแรกของการเปิดตัว Death Flip ในบาร์ The Black Pearl พวกเขาได้เลือกที่จะปิดชื่อส่วนผสมไว้เป็นความลับ และมีเพียงคำอธิบายว่า You dont wanna meet this cocktail in a dark alley. (คุณจะไม่อยากพบกับค็อกเทลนี้ในตรอกมืด) เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้กับนักดื่มที่ชอบความท้าทายนั่นเองการได้รับความนิยมและการแพร่กระจายทั่วโลก
ด้วยการตลาดที่ประกอบไปด้วยชื่อที่ดึงดูดความสนใจ และเรื่องราวเบื้องหลังที่มีความลึกลับ Death Flip ได้รับผลตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม และกระจายชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว ทั้งในหมู่คนออสเตรเลีย และผู้คนจากต่างแดนที่มีโอกาสได้มาที่บาร์แห่งนี้ หลังจากนั้น พวกเขาจึงเริ่มได้รับการติดต่อจากบาร์ทั่วโลกเพื่อขอนำค็อกเทลชนิดนี้ไปเป็นเมนูในร้านของตน จนทำให้กลายเป็นค็อกเทลที่พบได้ในหลายประเทศจนถึงปัจจุบัน เช่น อเมริกา จีน รวมถึงหลากหลายประเทศในทวีปยุโรปการยกย่องในฐานะค็อกเทลคลาสสิกยุคใหม่
หลังจากกลายเป็นค็อกเทลยอดนิยม Death Flip ยังถูกยกย่องในสื่อต่าง ๆ มากมายอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี ทั้งนิตยสารและบทความโดยบาร์เทนเดอร์ชื่อดังหรือนักชิม เช่น Eric Castro บาร์เทนเดอร์ชาวอเมริกัน ที่ได้ยินชื่อเสียงของ Death Flip มาระยะหนึ่ง และมีโอกาสได้ลิ้มรสจากบาร์แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ เขามีความประทับใจต่อเมนูนี้เป็นอย่างมาก และยังกล่าวถึงในบทความของเขาเองที่ลงในเว็บไซต์ Eater ในปี 2015 ว่าเป็นหนึ่งในค็อกเทลคลาสสิกของยุคสมัยใหม่ นอกจากนี้ Death Flip ยังถูกกล่าวถึงในหนังสือพิมพ์ New York Times ในปี 2016 ว่าเป็นหนึ่งในค็อกเทลที่มีชื่อเสียงที่สุดจากออสเตรเลียในยุคการฟื้นฟูค็อกเทล (ปลายศตวรรษที่ 20 จนถึงปัจจุบัน) อีกด้วยส่วนผสมของ Death Flip
Death Flip เป็นค็อกเทลที่มีวิธิการทำไม่ซับซ้อน แต่อาศัยสัดส่วนของเหล้าทั้งสามชนิดที่ทำให้เกิดรสชาติอันน่าทึ่ง โดยส่วนผสมทั้งหมดประกอบด้วย- ไข่สด 1 ฟอง
- น้ำเชื่อม 1 ช้อนชา
- เหล้า Chartreuse สีเหลือง 15 มิลลิลิตร
- เหล้า Jägermeister 15 มิลลิลิตร
- เหล้า Tequila 30 มิลลิลิตร
วิธีการทำ Death Flip
วิธิการทำ จะเริ่มจากการนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในเครื่องเขย่าค็อกเทล จากนั้นเขย่าอย่างแรงโดยไม่ใส่น้ำแข็ง นาน 10-12 วินาที เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นจึงเขย่าพร้อมกับน้ำแข็งอีก 10-12 วินาที เพื่อให้เย็นและเจือจางลง เมื่อเทใส่แก้วแล้วจะตกแต่งหน้าด้วยผง Nutmeg Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จัก Tiramisu Milk Punch (ทีรามิสุ มิลค์ พันช์) ค็อกเทลที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรสชาติของ Tiramisu
ทำความรู้จัก Pornstar Martini (พอร์นสตาร์ มาร์ตินี่) ค็อกเทลรสเสาวรสที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และจัดอยู่ในประเภทค็อกเทลคลาสสิกสมัยใหม่
ทำความรู้จัก LL&B หรือ Lemon, Lime and Bitters เครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศออสเตรเลีย