ข้าวแช่
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ข้าวแช่ เมนูอาหารไทยโบราณคลายร้อน
ข้าวแช่ เป็นอาหารไทยโบราณที่นิยมรับประทานในช่วงฤดูร้อน มีต้นกำเนิดมาจากอาหารมอญที่เรียกว่า เปิงด้าจก์ ซึ่งหมายถึงข้าวน้ำ โดยชาวมอญจะนิยมทำกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากชาวมอญเชื่อกันว่าข้าวแช่เป็นอาหารวิเศษ สะอาด และบริสุทธิ์กว่าอาหารอื่นใด นิยมทำเพื่อบูชาเทวดา แสดงความกตัญญูรู้คุณต่อบรรพบุรุษ และสร้างบุญกุศล
เรื่องราวของข้าวแช่ยังมีประวัติความเป็นมาไม่ค่อยแน่ชัดว่าถูกนำเข้ามาในประเทศไทยในยุคสมัยใด แต่มีแหล่งข้อมูลบางแห่งระบุว่าข้าวแช่ถูกนำเข้ามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 โดยกล่าวกันว่าเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น ซึ่งมีเชื้อสายมอญ และถวายงานในรัชกาลที่ 4 ได้นำข้าวแช่มาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาได้มีการปรับปรุงให้มีความประณีตงดงามยิ่งขึ้น จนกลายเป็น ข้าวแช่ชาววัง ที่เป็นที่รู้จักกันในปัจจุบัน
ในยุคสมัยนี้ข้าวแช่ถูกกล่าวถึงในบทประพันธ์ของสุนสุนทรภู่ โดยกล่าวว่า ข้าวแช่ เป็นอาหารที่นิยมรับประทานในฤดูร้อน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเสวยข้าวแช่เป็นอย่างมาก
อีกแหล่งข้อมูลหนึ่งระบุว่า ข้าวแช่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้นไปยังจังหวัดเพชรบุรี และชาวมอญได้นำข้าวแช่มาถวาย จากนั้นข้าวแช่จึงเป็นที่รู้จักในหมู่ชาววัง
ภายหลังจากที่ข้าวแช่ถูกนำเข้ามาในพระราชวัง บรรดาเจ้านาย และชนชั้นสูงต่างนำข้าวแช่ไปพัฒนาต่อเป็น ข้าวแช่ชาววัง โดยเพิ่มเครื่องเคียงให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ หอมแดงสอดไส้ พริกหยวกสอดไส้ห่อด้วยหรุ่ม หมูฝอย หรือเนื้อฝอย ซึ่งสูตรดั้งเดิมจะมีเครื่องเคียงเพียง 3 ชนิด ได้แก่ ปลายี่สนผัดหวาน (ปลายี่สนคือปลากระเบนตากแห้งนำมาผัดหวาน) ไชโป๊ผัดหวาน และลูกกะปิ
ข้าวแช่ชาววังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านวัตถุดิบ และกรรมวิธีการปรุงที่พิถีพิถัน โดยเริ่มตั้งแต่เลือกเม็ดข้าวที่สวย หุงด้วยน้ำใบเตย อบควันเทียน และน้ำสำหรับใส่ข้าวแช่ ในสมัยก่อนนิยมใช้น้ำฝน ใส่ไว้ในคนโทดินเผา หรือตุ่มดิน และนำดอกมะลิมาลอยไว้ 1 คืนเพื่อให้มีกลิ่นหอม (บางสูตรอาจลอยด้วยกระดังงาลนไฟ หรือกุหลาบ)
ทั้งนี้ในสมัยก่อนนั้นเมืองไทยยังไม่มีน้ำแข็งใช้ จึงใช้คนโทดินหรือตุ่มดิน เพื่อช่วยรักษาความเย็นของน้ำไว้ และเมื่อถึงเวลารับระทาน คนโบราณจะนำเกล็ดพิมเสนโรยลงไปในน้ำ ช่วยให้เกิดความเย็นขึ้นมาด้วย
ข้าวแช่คือหนึ่งในสุดยอดมรดกอาหารไทยที่แสดงถึงความประณีตของครัวหลวง และภูมิปัญญาการกินอยู่แบบไทย ๆ แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่รสชาติ และความหมายของข้าวแช่ยังคงเป็นสิ่งที่น่าจดจำ และควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และลิ้มลอง
ปัจจุบันข้าวแช่ยังคงเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในช่วงฤดูร้อน มีร้านอาหาร และโรงแรมหลายแห่งที่นำเสนอข้าวแช่ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งแบบดั้งเดิม และแบบประยุกต์ แต่ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไร ข้าวแช่ยังคงเป็นหนึ่งในอาหารไทยโบราณที่สืบทอดเสน่ห์ความอร่อยมาอย่างยาวนาน
บทความที่เกี่ยวข้อง
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ของ Cobbler (ค็อบเบลอร์) ขนมหวานที่มีรากฐานจากชาวอังกฤษสู่สหรัฐอเมริกา