Francis Ford Coppola (ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา)

ประวัติ Francis Ford Coppola (ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา)

Francis Ford Coppola (ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา) เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่อง Apocalypse Now และภาพยนตร์ไตรภาคชื่อดัง The Godfather ที่ได้รับรางวัลออสการ์

แต่นอกเหนือจากความสำเร็จในวงการภาพยนตร์แล้ว เขายังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมไวน์ด้วย โดยเป็นผู้ก่อตั้ง Francis Ford Coppola Winery ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สะท้อนถึงความหลงใหล และความมุ่งมั่นของเขาในเรื่องไวน์

Francis เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน ปี 1939 ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีรากฐานทางศิลปะ โดยพ่อของเขาเป็นนักดนตรี และนักแต่งเพลง ส่วนแม่เป็นนักแสดง ดังนั้น Francis จึงมีความสนใจในศิลปะ และการเล่าเรื่องมาตั้งแต่เด็ก

Francis เริ่มต้นอาชีพในวงการภาพยนตร์ด้วยการเขียนบท และกำกับภาพยนตร์อิสระ ก่อนที่จะสร้างชื่อเสียงระดับโลกด้วยภาพยนตร์ไตรภาคชื่อดังเรื่อง The Godfather ในช่วงทศวรรษ 1970 นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ American Zoetrope ร่วมกับ George Lucas (จอร์จ ลูคัส) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขาด้วย

ความหลงใหลในไวน์ของ Francis Ford Coppola

นอกจากการสร้างภาพยนตร์แล้ว Francis ยังมีความหลงใหลในไวน์มาตั้งแต่เด็ก เขาเล่าว่าในวัยเด็ก เขามักจะเห็นครอบครัวของเขาดื่มไวน์ในช่วงมื้ออาหาร และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความรักที่มีต่อไวน์

ในปี 1975 ขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Godfather ในรัฐแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ Francis และ Eleanor Coppola (เอลีนอร์ คอปโปลา) ภรรยาของเขาก็ตกหลุมรักสภาพแวดล้อมที่สวยงามของ Napa Valley จากนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจซื้อที่ดินในภูมิภาคนี้ โดยที่ดินที่พวกเขาซื้อคือส่วนหนึ่งของ Inglenook Winery

Inglenook Winery ก่อตั้งขึ้นในปี 1879 โดยกัปตันเรือชาวฟินแลนด์ชื่อ Gustave Niebaum และเคยเป็นหนึ่งในไร่ไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดใน Napa Valley ในตอนแรก Francis ซื้อที่ดินแห่งนี้เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนของครอบครัว แต่จากนั้นไม่นานความหลงใหลในการทำไวน์ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

จุดเริ่มต้นการผลิตไวน์ของ Francis Ford Coppola

Francis ต้องการฟื้นฟูไร่ไวน์แห่งนี้ให้กลับมามีความสวยงามและชื่อเสียงดังเช่นในอดีต เขามุ่งมั่นที่จะผลิตไวน์ที่มีคุณภาพทัดเทียมกับไวน์ชั้นนำระดับโลก เขาลงทุนอย่างเต็มที่ในการพัฒนาทั้งไร่องุ่น และโรงบ่มไวน์ พร้อมกับเดินทางไปศึกษาข้อมูล และเทคนิคการผลิตไวน์จากหลายประเทศ จนกระทั่งในปี 1979 เขาก็ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจไวน์ได้อย่างถูกต้อง และนับจากนั้นธุรกิจไวน์ของครอบครัว Coppola ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ Niebaum-Coppola Estate Winery

Francis ให้ความสำคัญกับการผลิตไวน์คุณภาพสูง โดยผสมผสานวิธีการแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เขามุ่งมั่นที่จะสร้างไวน์ที่แสดงถึงความหลงใหล และความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางเดียวกันกับการทำงานสร้างภาพยนตร์ของเขาอาณาจักรไวน์ที่ยิ่งใหญ่

ในปี 2006 Francis และภรรยาของเขาได้เปลี่ยนชื่อไร่ไวน์ Niebaum-Coppola Estate Winery มาเป็น Rubicon Estate Winery และได้ขยายธุรกิจ โดยทำการปรับปรุงที่ดินแห่งหนึ่งใน Geyserville ใจกลาง Alexander Valley รัฐ California แล้วก่อตั้งเป็นไร่ไวน์แห่งใหม่ในชื่อ Francis Ford Coppola Winery ซึ่ง Winery แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ผลิตไวน์เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ และเสน่ห์ของภาพยนตร์ที่ Francis สร้างขึ้นด้วย

Winery ที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม

Winery แห่งนี้ได้รับการออกแบบให้คล้ายคลึงกับคฤหาสน์สไตล์ยุโรปมีทั้งสระว่ายน้ำ ห้องฉายภาพยนตร์ที่จัดแสดงผลงานของ Francis และร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์มโดยตรง ทำให้ผู้คนสามารถมาเยี่ยมชม ชิมไวน์ และเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตไวน์ได้ที่นี่ที่เดียว

สิ่งที่ทำให้โรงบ่มไวน์ของ Francis โดดเด่นคือความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อคุณภาพ และนวัตกรรม เขามองว่าการผลิตไวน์เป็นเสมือนศิลปะแขนงหนึ่ง โดยไวน์แต่ละขวดเปรียบเสมือนเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างประณีต ซึ่งปรัชญานี้สะท้อนให้เห็นผ่านไวน์หลากหลายประเภทที่ผลิตในไร่ของเขา ตั้งแต่ไวน์แดงรสเข้มข้นไปจนถึงไวน์ขาวรสสดชื่น

การสร้างสรรค์ไวน์ที่โดดเด่น

Francis ไม่เพียงมุ่งมั่นในการผลิตไวน์คุณภาพสูงเท่านั้น แต่ยังพยายามสร้างสรรค์ไวน์ที่ทั้งน่าตื่นเต้นและเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ขยายพอร์ตโฟลิโอด้วยไวน์หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ไวน์ที่ดื่มทั่วไปในชีวิตประจำวันไปจนถึงไวน์ระดับพรีเมียม เช่น

• Directors Cut ไวน์ระดับพรีเมียมที่สะท้อนอาชีพการทำภาพยนตร์ของ Francis ไวน์แต่ละขวดมีฉลากที่ออกแบบให้ดูเหมือนฟิล์มสตริป โดยมีพันธุ์องุ่น เช่น Cabernet Sauvignon, Chardonnay และ Zinfandel
  
• Diamond Collection คอลเลกชันนี้ประกอบด้วยไวน์คุณภาพสูงที่เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับทุกโอกาส ฉลากมีลวดลายเพชร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของช่วงเวลาอันล้ำค่าในชีวิต
• Archimedes ไวน์ผสมสไตล์ Bordeaux ที่ตั้งชื่อตามนักคณิตศาสตร์ชาวกรีกโบราณ สะท้อนถึงความหลงใหลในนวัตกรรมของ Francis