แชร์

กีวี่สีเขียว และ กีวี่สีทอง

 ประวัติกีวี่ จากจีนสู่นิวซีแลนด์

กีวี่มีต้นกำเนิดในประเทศจีนในยุคราชวงศ์ซ่ง โดยถูกเรียกว่า Chinese gooseberry และมักใช้ในทางสมุนไพร ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ได้ถูกนำไปเพาะปลูกในนิวซีแลนด์ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ทหารช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ชื่อ กีวี่ มาจากนกพื้นถิ่นของนิวซีแลนด์ที่มีรูปลักษณ์คล้ายเปลือกผลไม้ชนิดนี้ ซึ่งกลายเป็นชื่อทางการค้าในปี 1959

จุดเริ่มต้นของกีวี่สีทอง

กีวี่สีทองถือกำเนิดขึ้นจากความพยายามของนักพัฒนาในนิวซีแลนด์ที่ต้องการสร้างสายพันธุ์ที่ต้านทานโรค หลังจากโรคเชื้อราระบาดในปี 2010 ส่งผลให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีเนื้อสีเหลืองทอง หวาน นุ่ม และชื่อว่า Sungold

เปรียบเทียบคุณลักษณะของกีวี่สองสายพันธุ์

กีวี่สีเขียวมีรสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อหยาบเล็กน้อย เปลือกมีขน และเมล็ดค่อนข้างมาก ส่วนกีวี่สีทองมีรสหวานนุ่ม เปลือกเรียบหรือมีขนเล็กน้อย เมล็ดน้อย และเนื้อมีสีเหลืองทองน่ารับประทาน

ในด้านโภชนาการ กีวี่สีทองมีวิตามินซีมากกว่ากีวี่สีเขียวเกือบ 2 เท่า ในขณะที่กีวี่สีเขียวมีใยอาหารมากกว่าประมาณ 1.5 เท่า
กีวี่สีทองยังมีโพแทสเซียมและแคลอรี่สูงกว่านิดหน่อย เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน
ส่วนกีวี่สีเขียวเหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือเน้นระบบขับถ่าย

เลือกกีวี่แบบไหนให้เหมาะกับคุณ

หากคุณชอบรสชาติเปรี้ยวสดชื่นแบบคลาสสิก กีวี่สีเขียวคือคำตอบ แต่ถ้าคุณชอบรสหวานนุ่ม กลิ่นหอมละมุน พร้อมคุณค่าจากวิตามินซีที่มากขึ้น กีวี่สีทองคือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด

สามารถหาซื้อกีวี่สีเขียวและสีทองคุณภาพดีได้นะคะ ที่ริมปิงทุกสาขา

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
New Zealand Persimmon (ลูกพลับนิวซีแลนด์)
ทำความรู้จัก New Zealand Persimmon (ลูกพลับนิวซีแลนด์) ลูกพลับสายพันธุ์พิเศษจากยุโรป
Irwin Mango (เออร์วินแมงโก้)
ทำความรู้จัก Irwin Mango (เออร์วินแมงโก้) จากรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
เชอร์รี่
เชอร์รี่ – ผลไม้เมืองหนาวที่ปลูกได้ในประเทศไทย
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ