แชร์

Biltong (บิลทอง)

ตำนานจากชาวพื้นเมืองสู่ขนบการถนอมอาหาร

Biltong คือเนื้อแห้งที่มีต้นกำเนิดจากแอฟริกาใต้ โดยได้แรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตของชาว โคอิซาน (Khoisan) ที่ใช้วิธีหั่นเนื้อบาง ๆ ปรุงรส แล้วตากให้แห้งเพื่อเก็บไว้รับประทานในฤดูแล้ง เป็นวิธีการถนอมอาหารที่เรียบง่ายแต่ได้ผลดีเยี่ยม

ชาวดัตช์ร่วมเติมรสชาติ สู่สูตรที่เป็นเอกลักษณ์

ใน ศตวรรษที่ 17 ชาวดัตช์นำแนวทางของตนเองมาผสมผสาน โดยเพิ่ม น้ำส้มสายชู เกลือ และเครื่องเทศ เช่น ผักชีและพริกไทยดำ เข้าไปในสูตรดั้งเดิม ทำให้ Biltong มีกลิ่นหอม รสเปรี้ยวเค็ม และเก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น

อาหารว่างประจำการเดินทาง The Great Trek

ช่วง ศตวรรษที่ 19 Biltong กลายเป็นอาหารพกพาสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวดัตช์ในเหตุการณ์ The Great Trek เนื่องจากน้ำหนักเบา ไม่เน่าเสียง่าย และกินสะดวก Biltong จึงเป็นเสบียงที่ขาดไม่ได้

กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมชาว Afrikaners

Biltong ได้รับความนิยมในหมู่ชาว Afrikaners และแพร่หลายกลายเป็น อาหารว่างแห่งชาติของแอฟริกาใต้ ที่ทานได้ทุกโอกาส ทั้งในวันสบาย ๆ หรือในงานเฉลิมฉลอง

จากวัฒนธรรมพื้นเมืองสู่เทรนด์โปรตีนสูงทั่วโลก

ในปัจจุบัน Biltong เป็นที่นิยมในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย โดยเฉพาะในหมู่นักกีฬาและคนรักสุขภาพ เนื่องจากเป็นอาหารว่างที่ โปรตีนสูง ไขมันต่ำ และไม่มีน้ำตาลเพิ่ม

Biltong vs Jerky ต่างกันอย่างไร?

  • Biltong: ใช้น้ำส้มสายชูและเครื่องเทศหมัก แล้วตากแห้งตามธรรมชาติ ทำให้เนื้อสัมผัสนุ่ม รสเปรี้ยวเค็ม มีกลิ่นเครื่องเทศ
  • Jerky: ใช้ความร้อนในการอบแห้ง หมักด้วยซอสหวาน เค็ม หรือเผ็ด เนื้อสัมผัสแห้งกว่า มีกลิ่นควัน
Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Cobbler (ค็อบเบลอร์)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ของ Cobbler (ค็อบเบลอร์) ขนมหวานที่มีรากฐานจากชาวอังกฤษสู่สหรัฐอเมริกา
Baked Apple (แอปเปิ้ลอบ)
ทำความรู้จัก Baked Apple (แอปเปิ้ลอบ) เมนูที่เรียบง่ายแต่ดึงดูดจากยุโรป
Avocado Lamaw (อโวคาโดลาเมา)
ทำความรู้จัก Avocado Lamaw (อโวคาโดลาเมา) การรับประทานอโวคาโดแบบดั้งเดิมของชาวฟิลิปปินส์
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ