ชมพู่ม่าเหมี่ยว
รู้จัก "Malay Apple" หรือชมพู่ม่าเหมี่ยว ผลไม้พื้นถิ่นที่มีประวัติยาวนาน และมีชื่อเรียกต่างกันไปทั่วโลก
Malay Apple หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ชมพู่ม่าเหมี่ยว หรือ ชมพู่แดง เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ชมพู่ยอดนิยมในประเทศไทยและประเทศเขตร้อนอื่น ๆ มีถิ่นกำเนิดในแถบเกาะชวาและเกาะสุมาตรา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบด้วยประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และภาคใต้ของประเทศไทย
ผลสุกของชมพู่ม่าเหมี่ยวจะมีสีแดงเข้ม รสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นหอมคล้ายดอกกุหลาบ เนื้อผลนุ่มฉ่ำน้ำ มีเมล็ดขนาดใหญ่ รูปร่างของผลในประเทศไทยมักมีลักษณะกลมรีคล้ายไข่ แต่ในบางประเทศพบว่ามีผลทรงระฆังหรือยาวคล้ายหยดน้ำ
จากผลไม้ท้องถิ่น สู่ผลไม้ระดับโลก
ชื่อทางพฤกษศาสตร์ของชมพู่ม่าเหมี่ยวคือ Syzygium malaccense ซึ่งเป็นพืชในวงศ์ Myrtaceae มีชื่อภาษาอังกฤษหลากหลาย เช่น Rose Apple, Mountain Apple, Otaheite Apple แต่ชื่อที่นิยมใช้มากที่สุดคือ Malay Apple หรือ Malay Rose Apple ซึ่งสื่อถึงถิ่นกำเนิดของพืชชนิดนี้
ในประเทศมาเลเซีย ชมพู่ม่าเหมี่ยวมีชื่อเรียกว่า Jambu bol ที่แปลว่า ฝรั่งสีแดง ส่วนในประเทศไทย คำว่า ม่าเหมี่ยว ไม่มีความหมายตรงตัวที่เชื่อมโยงกับผลไม้ชนิดนี้ แต่มีการสันนิษฐานว่าอาจได้รับอิทธิพลจากภาษาจีน 马六甲蒲桃 (Mǎliùjiǎpútáo) ซึ่งหมายถึง ชมพู่แห่งเมืองมะละกา
การเดินทางไกลของชมพู่ม่าเหมี่ยว
ชมพู่ม่าเหมี่ยวเริ่มแพร่กระจายออกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเฉพาะช่วงที่ชาว Lapita ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวโพลินีเซียน เดินเรือไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก และนำพืชพรรณจากบ้านเกิดติดตัวไปด้วย รวมถึงชมพู่ม่าเหมี่ยว
ในช่วงปี ค.ศ. 1793 กัปตัน William Bligh แห่งเรือ Providence ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการของรัฐบาลอังกฤษ ได้เดินทางไปยังเกาะตาฮีตีเพื่อจัดหาพืชพรรณชนิดใหม่เพื่อนำกลับไปปลูกใน West Indies เพื่อเป็นอาหารราคาถูกสำหรับแรงงานทาส หนึ่งในพืชที่เขานำกลับมาด้วยก็คือชมพู่ม่าเหมี่ยวนั่นเอง
การเติบโตในเขตร้อน และบทบาทในวัฒนธรรมท้องถิ่น
ชมพู่ม่าเหมี่ยวสามารถเติบโตได้ดีในพื้นที่ชื้น เช่น ป่าฝนและพื้นที่เชิงเขา นิยมปลูกเป็นต้นไม้กันลมในสวน เนื่องจากมีลำต้นแข็งแรงและทรงพุ่มแน่น ทั้งยังให้ผลผลิตสูง นอกจากนี้ ยังสามารถพบต้นชมพู่ม่าเหมี่ยวขึ้นเองตามธรรมชาติในประเทศเขตร้อนหลายแห่ง เช่น โบลิเวีย โคลอมเบีย เอกวาดอร์ หมู่เกาะกาลาปากอส และฮาวาย
ในประเทศไทย ชมพู่ม่าเหมี่ยวถือเป็นผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งออกผลในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายน สมุทรสงครามเป็นจังหวัดแรกที่เริ่มเพาะปลูกแบบเกษตรกรรม และปัจจุบันก็สามารถพบได้ทั่วประเทศ ไม่เพียงปลูกเพื่อการบริโภค แต่ยังนิยมปลูกเพื่อให้ร่มเงา และถือเป็นไม้มงคลด้วย
คุณค่าทางโภชนาการ และการใช้ประโยชน์
ผลของชมพู่ม่าเหมี่ยวนอกจากนิยมรับประทานสดแล้ว ยังสามารถนำไปทำแยม ไวน์ หรือปรุงในอาหารคาวบางประเภท เช่น แกง ผลที่ห่ามจะมีรสเปรี้ยว สามารถใช้ปรุงอาหารได้หลากหลาย
ชมพู่ม่าเหมี่ยวยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมด้วยวิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ช่วยบำรุงหัวใจ ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและโรคมะเร็ง
ส่วนอื่น ๆ ของต้นไม้ เช่น ดอก เกสร ยอดอ่อน และราก ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เช่นกัน โดยเกสรมีรสเปรี้ยวอมฝาด นิยมนำมายำ ยอดอ่อนใช้กินสด ส่วนรากมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร ช่วยลดไข้ รักษาโรคบิด และบำบัดผื่นคัน
ผลไม้พื้นบ้านที่ยังคงอยู่ในหัวใจของผู้คน
ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สีสันที่สะดุดตา และคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย ชมพู่ม่าเหมี่ยวจึงเป็นผลไม้พื้นบ้านที่ยังคงได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยยังคงมีบทบาททั้งในฐานะผลไม้กินสด พืชสมุนไพร และพันธุ์ไม้ประดับที่คนไทยหลายครัวเรือนยังคงนิยมปลูกไว้จนถึงปัจจุบัน