แชร์

Lambrusco (ลัมบรุสโก)

จุดกำเนิดของ Lambrusco ในภูมิภาค Emilia-Romagna

Lambrusco (ลัมบรุสโก) เป็นสปาร์กลิ้งไวน์ที่มีถิ่นกำเนิดจาก Emilia-Romagna ทางตอนเหนือของอิตาลี ผลิตจากองุ่นพันธุ์ Lambrusco ที่ให้รสหวานอมเปรี้ยว ฟองนุ่ม และกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น เชอร์รี สตรอเบอรี และผลไม้เบอร์รี

รากเหง้าในยุคเอทรัสคันโบราณ

ต้นกำเนิดของ Lambrusco ย้อนกลับไปในสมัยเอทรัสคันโบราณ ศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสต์ศักราช โดยชาวเอทรัสคันถือเป็นผู้ริเริ่มการผลิตไวน์ชนิดนี้เป็นกลุ่มแรก

วิธีการผลิตไวน์ในยุคแรกเริ่ม

ไวน์ Lambrusco รุ่นแรกผลิตจากองุ่นป่าและหมักซ้ำในภาชนะปิดแน่น ก่อนนำไปเก็บในที่เย็น เช่น ใต้ดินหรือน้ำเย็นเพื่อรักษาอุณหภูมิ ทำให้เกิดฟองอากาศตามธรรมชาติ

Lambrusco ในยุคจักรวรรดิโรมัน

ในยุคโรมัน Lambrusco ได้รับความนิยมอย่างสูง โดย Pliny the Elder นักธรรมชาติวิทยา ได้บันทึกว่าองุ่นชนิดนี้ถูกเพาะปลูกแพร่หลายเพื่อผลิตไวน์ผลไม้ที่มีฟองธรรมชาติ

ความนิยมในยุคกลาง

ในยุคกลาง Lambrusco เป็นเครื่องดื่มหลักของชาว Emilia-Romagna โดยเฉพาะในหมู่ชาวไร่ชาวนา เพราะมีราคาย่อมเยาและดื่มง่าย มักจับคู่กับอาหารพื้นบ้าน เช่น เนื้อสัตว์แปรรูป ชีส และพาสต้า

การพัฒนาคุณภาพและเทคนิคการผลิต

ผู้ผลิตไวน์ในยุคกลางเริ่มพัฒนาพันธุ์องุ่นและวิธีการผลิต ทำให้ Lambrusco มีคุณภาพสูงขึ้นและเริ่มใกล้เคียงไวน์สมัยใหม่มากขึ้น

Lambrusco ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา

ช่วงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา Lambrusco ได้รับความนิยมในชนชั้นสูง แคว้น Emilia-Romagna กลายเป็นศูนย์กลางศิลปะและวัฒนธรรมของอิตาลี ไวน์ชนิดนี้จึงถูกเสิร์ฟในงานเลี้ยงของผู้มีอำนาจ

การผลิตเชิงอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19

ศตวรรษที่ 19 Lambrusco ถูกผลิตในเชิงอุตสาหกรรมและส่งออกไปยังยุโรปและอเมริกา ความนิยมพุ่งสูงเพราะรสดื่มง่ายและเข้าถึงผู้บริโภคทั่วไปได้รวดเร็ว

ช่วงตกต่ำและภาพลักษณ์ไวน์ราคาถูก

ต่อมา Lambrusco สูญเสียความนิยมเนื่องจากคุณภาพไม่สม่ำเสมอ ผู้ผลิตบางรายเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ ทำให้ถูกมองว่าเป็นไวน์ราคาถูก

การฟื้นตัวของ Lambrusco ในยุคใหม่

ผู้ผลิตใน Emilia-Romagna นำกรรมวิธีดั้งเดิมมาผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ได้ Lambrusco ที่มีหลากหลายรสชาติ ตั้งแต่ Dry, แทนนินเข้ม ไปจนถึงแบบหวานผลไม้

ประเภทของ Lambrusco ที่โดดเด่น

  • Lambrusco di Modena : เข้มข้น หวานอมเปรี้ยว ฟองละเอียด
  • Lambrusco di Sorbara : รสเบา หวานน้อย ฟองละเอียด
  • Lambrusco Grasparossa di Castelvetro : เข้มข้นที่สุด มีกลิ่นผลไม้สีแดง ฟองปานกลาง และแทนนินสูง เหมาะกับเนื้อแดง
  • Lambrusco Salamino di Santa Croce : หวานอมเปรี้ยว กลิ่นผลไม้สุก เหมาะเป็น Aperitif หรือทานคู่ของหวาน
    อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเสิร์ฟ
  • Lambrusco ควรเสิร์ฟที่ 7°C 13°C เพื่อให้รสผลไม้และฟองโดดเด่น ควรแช่ในตู้เย็น 1-2 ชั่วโมงก่อนดื่ม และเสิร์ฟในแก้วไวน์ที่เหมาะสมเพื่อคงกลิ่นและฟอง

การจับคู่กับอาหารท้องถิ่นและนานาชาติ

ฟองของ Lambrusco ช่วยล้างความมันในอาหารได้ดี เหมาะกับ Salumi, Prosciutto di Parma และชีส Parmigiano Reggiano รวมถึงจับคู่ได้กับอาหารไทยรสเปรี้ยวหวาน อาหารจีน อาหารญี่ปุ่นอย่างซูชิ ซาชิมิ และเนื้อย่าง


บทความที่เกี่ยวข้อง
Schneider Weisse
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ Schneider Weisse (ชไนเดอร์ ไวส์) เบียร์ข้าวสาลีเยอรมันที่ฝ่าฟันการผูกขาด
Umeshu (อุเมะชู,梅酒)
ทำความรู้จัก Umeshu (อุเมะชู,梅酒) เหล้าบ๊วยญี่ปุ่น: เครื่องดื่มที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นยาชูกำลังชั้นเลิศและมรดกทางวัฒนธรรม
Gaspare Campari (กาสปาเร่ คัมปาริ)
ความหลงใหลในเครื่องดื่มของ Gaspare Campari (กาสปาเร่ คัมปาริ) นำมาสู่ Bitter สมุนไพรสีแดงสดใสที่เชื่อมโยงคนทั้งโลกผ่าน Classic Cocktail และงานศิลป์
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ