แชร์

Lumpfish Caviar (ลัมป์ฟิชคาเวียร์)

ในวงการอาหารระดับสูง มีวัตถุดิบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ Lumpfish Caviar (ลัมป์ฟิชคาเวียร์) หรือคาเวียร์จากไข่ปลาลัมป์ฟิช โดดเด่นด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญคือ ราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าคาเวียร์จากไข่ปลาสเตอร์เจียน (Sturgeon Caviar) ทำให้เป็น "อัญมณี" ที่เชฟและนักชิมทั่วโลกให้ความสนใจ

ปลาลัมป์ฟิช : แหล่งกำเนิดไข่ปลาอันอุดมสมบูรณ์

ปลาลัมป์ฟิช มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cyclopterus lumpus เป็นปลาทะเลชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างกลมป้อม มีหนามแหลมอยู่ทั่วลำตัว พวกมันสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยตัวเมียสามารถวางไข่ได้ครั้งละมากถึง 200,000 ฟอง มักอาศัยอยู่ในเขตน้ำเย็นของมหาสมุทรแอตแลนติก และแปซิฟิก โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ ประเทศไอซ์แลนด์, นอร์เวย์ และกรีนแลนด์

จากปลาที่ถูกมองข้าม สู่การเป็นทางเลือกแทนคาเวียร์สเตอร์เจียน

ในอดีต ปลาลัมป์ฟิชยังไม่ถูกนำไข่มารับประทานอย่างแพร่หลาย แต่ในช่วงศตวรรษที่ 20 เมื่อ คาเวียร์จากไข่ปลาสเตอร์เจียนเริ่มหาได้ยากขึ้น เนื่องจากการประมงที่มากเกินไปและจำนวนประชากรที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการที่ปลาสเตอร์เจียนต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเติบโตเต็มที่ ทำให้ต้นทุนสูงและหายาก สิ่งนี้จึงนำไปสู่การมองหาทางเลือกอื่น และ Lumpfish Caviar ก็เข้ามาเป็นตัวทดแทน

ด้วยความที่ Lumpfish Caviar มีลักษณะคล้ายคลึงกับคาเวียร์จากไข่ปลาสเตอร์เจียน ทั้งในแง่ของรูปร่าง รสชาติ และสีสัน ทำให้มันถูกนำมาใช้แทนคาเวียร์สเตอร์เจียนได้อย่างลงตัว

กระบวนการแปรรูปและการย้อมสีอันเป็นเอกลักษณ์

การแปรรูปไข่ปลาลัมป์ฟิชเพื่อทำคาเวียร์มีหลายขั้นตอน ไข่ปลาจะถูกเก็บและทำความสะอาดอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุด จากนั้นจึงนำไป โรยเกลือ เพื่อถนอมอาหาร และส่วนใหญ่จะถูก ย้อมสีจากสีธรรมชาติ

สีธรรมชาติของไข่ปลาลัมป์ฟิชนั้นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของปลา เช่น อาจมีสีใส, เทา, ส้มอ่อน, เหลือง หรือสีคาราเมล ด้วยเหตุนี้ ไข่ปลาลัมป์ฟิชเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่จึงถูกย้อมเป็น สีแดง หรือ สีดำ ซึ่งเป็นสีที่คุ้นเคยและเป็นที่ต้องการในตลาดคาเวียร์

จาก "คาเวียร์เทียม" สู่ความนิยมในโลกการทำอาหาร

ในช่วงแรก Lumpfish Caviar มักถูกมองว่าเป็นเพียง "คาเวียร์เทียม" หรือตัวเลือกที่มีราคาถูกกว่า แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในโลกแห่งการทำอาหาร เนื่องจากเป็น ตัวเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าคาเวียร์ไข่ปลาสเตอร์เจียน ประกอบกับมี เนื้อสัมผัสและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือหวานเค็มเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 Lumpfish Caviar เริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำอาหารหลากหลายประเภท มักถูกนำมาทานคู่กับอาหารคลาสสิกที่ใช้คาเวียร์สเตอร์เจียน เช่น Blini (แพนเค้กจิ๋วสไตล์รัสเซีย), Crème fraîche (ครีมสดรสเปรี้ยว), Sour cream, Capers (ดอกเคเปอร์ดอง), ไข่ขาวสับ, และ Shallot (หอมแดงซอย) ซึ่งปัจจุบัน Lumpfish Caviar ผลิตขึ้นเป็นหลักในประเทศไอซ์แลนด์, เดนมาร์ก และแคนาดา

คุณค่าทางโภชนาการที่อัดแน่น

นอกจากความโดดเด่นด้านการทำอาหารแล้ว Lumpfish Caviar ยังอุดมไปด้วย สารอาหารที่จำเป็นมากมาย เช่น ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, ไอโอดีน, แคลเซียม, วิตามิน (โดยเฉพาะวิตามินดีและบี), กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน และกรดอะมิโนที่จำเป็น นอกจากนี้ยังเป็นแหล่ง กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดี ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมมากมาย ทั้งการบำรุงสมอง หัวใจ และลดการอักเสบ

ด้วยรสชาติที่น่าสนใจ ราคาที่เข้าถึงได้ และคุณประโยชน์ทางโภชนาการที่อัดแน่น Lumpfish Caviar จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์คาเวียร์ในสไตล์ที่แตกต่าง

คุณสามารถหาซื้อ Lumpfish Caviar ได้ที่ริมปิงทุกสาขา เพื่อนำไปสร้างสรรค์เมนูอาหารสุดพิเศษของคุณได้เลยนะคะ!

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Jerky (เจอร์กี้)
ทำความรู้จัก Jerky (เจอร์กี้) จากอาหารที่เก็บไว้ทานเพื่อความอยู่รอด สู่ยุคที่เราอยู่รอดแต่ก็ยังอยากทาน
Margherita (มาร์การิตา)
ทำความรู้จัก Margherita (มาร์การิตา) ต้นกำเนิดพิซซ่าสมัยใหม่ถาดแรกของโลก
Poutine (ปูทีน)
ชวนรู้จัก Poutine (ปูทีน) มันฝรั่งทอดสไตล์แคนาดา
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ