Croque Monsieur (คร็อก เมอซีเยอ)
เอกลักษณ์ของ Croque Monsieur
Croque Monsieur (คร็อก เมอซีเยอ) คือแซนด์วิชสไตล์ฝรั่งเศสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ที่การนำไปอบ หรือปิ้งบนกระทะจนผิวหน้ากรอบ และมีสีน้ำตาลทอง ทำจากส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ขนมปังขาวแผ่นหนา แฮม และชีส ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ Gruyère หรือ Emmental จากนั้นจึงราดด้วยซอส Béchamelจุดเริ่มต้นในฝรั่งเศสช่วงศตวรรษที่ 19
เรื่องราวของ Croque Monsieur มีประวัติย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมนูนี้ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในวารสาร La Revue Athlétique เมื่อปี ค.ศ. 1891 แต่ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้คิดค้นMichel Lunarca ผู้เผยแพร่ความนิยม
แม้จะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้คิดค้น แต่บุคคลสำคัญที่ทำให้ Croque Monsieur กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย คือ Michel Lunarca (มิเชล ลูนาร์กา) เจ้าของร้านบิสโตรชื่อดัง Le Bel Age ที่ตั้งอยู่ในย่าน Boulevard des Capucines ในกรุงปารีส ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวว่า Michel ได้นำ Croque Monsieur ใส่ในรายการอาหารของเขาจนส่งผลให้เมนูนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วความต้องการอาหารสะดวกในยุคปารีสสมัยใหม่
ในช่วงที่กรุงปารีสกำลังพัฒนาเป็นเมืองสมัยใหม่ด้วยการขยายตัวทางอุตสาหกรรม และการค้า ผู้คนในยุคนั้นต้องการอาหารที่สามารถรับประทานได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ Michel จึงคิดว่า Croque Monsieur เป็นอาหารที่สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์แบบที่มาของชื่อ Croque Monsieur
ในช่วงแรกเมนูนี้ยังไม่ถูกเรียกว่า Croque Monsieur แต่หลังจากที่ Michel ถูกคู่แข่งล้อเลียนว่ามีส่วนผสมของเนื้อมนุษย์อยู่ในแซนด์วิช ด้วยความอารมณ์ขันเขาจึงตั้งชื่ออาหารเมนูนี้ว่า Croque Monsieur หมายถึง ท่านชายที่กรอบ ซึ่งชื่อนี้กลายเป็นชื่อที่น่าจดจำของลูกค้าการแพร่ความนิยมในกรุงปารีส
หลังจากนั้นในช่วงทศวรรษ 1900 Croque Monsieur ก็เริ่มปรากฏในเมนูของคาเฟ่ และร้านบิสโตรต่าง ๆ ทั่วกรุงปารีส ซึ่งความนิยมของเมนูนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสอดคล้องกับความต้องการของสังคมเมืองที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปส่วนผสมหลักของ Croque Monsieur ดั้งเดิม
Croque Monsieur แบบดั้งเดิมประกอบด้วยส่วนผสมหลักที่เรียบง่าย แต่มีคุณภาพสูง ได้แก่ ขนมปังที่นิยมใช้ คือ Pain de mie ซึ่งเป็นขนมปังแซนด์วิชแบบฝรั่งเศสที่มีเนื้อนุ่ม และหนาพอเหมาะ สำหรับแฮมจะใช้แฮมที่มีรสชาติเค็มเล็กน้อย และเนื้อสัมผัสนุ่ม ส่วนชีสที่นิยมใช้ ได้แก่ Gruyère, Comté หรือ Emmental ซึ่งมีรสชาติเค็มเล็กน้อย และสามารถละลายได้ดีเมื่อถูกความร้อน จากนั้นจะเสิร์ฟพร้อมกับซอส Béchamel ซึ่งเป็นซอสสไตล์ฝรั่งเศสที่ราดไว้ด้านบนวิธีการเตรียม Croque Monsieur แบบดั้งเดิม
วิธีการเตรียม Croque Monsieur แบบดั้งเดิมนั้นเรียบง่าย แต่จำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียด โดยเริ่มจากการทาซอส Béchamel บนขนมปังแผ่นแรก จากนั้นวางแฮม และชีส แล้วปิดด้วยขนมปังอีกแผ่น ต่อจากนั้นให้ทาซอส Béchamel ที่ด้านบน และโรยชีสเพิ่มเติม ก่อนนำไปอบในเตาอบ หรือปิ้งบนกระทะจนกระทั่งผิวหน้ากรอบ และชีสละลายการขยายความนิยมทั่วฝรั่งเศส
ในช่วงทศวรรษ 1920-1930 Croque Monsieur ก็แพร่กระจายไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศฝรั่งเศส จนกลายเป็นเมนูมาตรฐานของร้านบิสโตร คาเฟ่ และแม้แต่ร้านอาหารระดับสูงปรัชญาแห่งความเรียบง่ายและคุณภาพ
ความนิยมของ Croque Monsieur ไม่ได้เกิดจากความซับซ้อนของส่วนผสม หรือเทคนิคการเตรียม แต่เกิดจากความสมบูรณ์แบบของความเรียบง่าย การใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี เทคนิคการเตรียมที่ถูกต้อง และการนำเสนอที่เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาการทำอาหารฝรั่งเศสที่เน้นคุณภาพมากกว่าความซับซ้อนการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ จาก Croque Monsieur
เมื่อเวลาผ่านไป Croque Monsieur ก็ได้รับการพัฒนา และปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Croque Madame ซึ่งเป็น Croque Monsieur ที่มีไข่ดาววางไว้ด้านบน โดยการเพิ่มไข่ดาวช่วยทำให้เมนูนี้มีความสมบูรณ์ และน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นการสร้างสรรค์รูปแบบหลากหลาย
นอกเหนือจาก Croque Madame แล้ว ยังมีการสร้างสรรค์รูปแบบอื่น ๆ อีกหลายประเภท เช่น Croque Hawaï (ใส่สับปะรด) Croque Provençal (ใส่มะเขือเทศ และสมุนไพร) และ Croque Végétarien (ใช้ผักแทนแฮม) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น และความสามารถในการปรับตัวของเมนูนี้ความนิยมที่ยั่งยืนไปทั่วโลก
แม้ว่าสูตรจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ Croque Monsieur ยังคงยึดหลักการเดิม คือ รวดเร็ว เรียบง่าย สะดวก อร่อย และให้เนื้อสัมผัสกรอบด้านนอก นุ่มด้านใน พร้อมกับกลิ่นหอมกรุ่นของชีสที่ละลายปัจจุบัน Croque Monsieur ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบตะวันตก
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จัก Nagashi Somen (นากาชิโซเม็ง) วัฒนธรรมการรับประทานอาหารดับร้อนที่มีความสนุกสนาน
ทำความรู้จัก Flexitarianism (เฟลกซิทาเรียนนิสซึม) อีกหนึ่งทางเลือกของการบริโภค