Ricotta Cheese (ริคอตต้าชีส)
Ricotta (ริคอตต้า) เป็นชีสสดที่ได้รับความนิยมในอาหารอิตาลี ทำมาจาก เวย์ (whey) หรือน้ำนมที่เหลือจากการผลิตชีสประเภทอื่นๆ มีลักษณะเป็นครีมสีขาว เนื้อสัมผัสบางเบา ครีมมี่ มีรสชาติหวานเล็กน้อย นิยมนำไปประกอบอาหารหลากหลายเมนูทั้งคาว และหวาน วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวของชีส Ricotta กันค่ะ
ต้นกำเนิดยุคสำริด และชื่อที่มีความหมาย (3,000 ปีก่อนคริสตกาล - ยุคโรมัน)
ต้นกำเนิดของ Ricotta เชื่อกันว่ามีประวัติย้อนกลับไปใน ยุคสำริด ในคาบสมุทรอิตาลีประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล เมื่ออารยธรรมเมดิเตอร์เรเนียนยุคแรกเริ่มพัฒนาวิธีการทำชีส แต่อย่างไรก็ตาม ชาวโรมัน เป็นผู้ที่พัฒนากระบวนการนี้ และทำให้ Ricotta เป็นที่นิยม
คำว่า Ricotta มาจากคำภาษาละตินว่า Recocta แปลว่า ปรุงสองครั้ง ซึ่งอธิบายถึงวิธีการผลิตชีสที่มีการทำซ้ำ โดยนำเวย์ที่เหลือจากการผลิตชีสชนิดอื่นๆ มาอุ่นอีกครั้ง ทำให้โปรตีนที่เหลือจับตัวเป็นก้อน และกลายเป็นครีมเปรี้ยวที่มีลักษณะเฉพาะของ Ricotta
การผลิต Ricotta ได้รับการบันทึกไว้ในตำราโรมันโบราณ โดยนักเขียนชาวโรมัน เช่น Columella และ Pliny the Elder ได้กล่าวถึงกระบวนการอุ่นเวย์อีกครั้ง เพื่อผลิตชีสนุ่มสีขาวว่าเป็นชีสที่เกิดจากการนำเวย์ที่เหลือจากการทำชีสชนิดอื่นๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์แทนที่จะโยนทิ้งไป
การเฟื่องฟูในยุคกลาง และกรรมวิธีดั้งเดิม
ในช่วง ยุคกลาง การผลิต Ricotta เริ่มเฟื่องฟูมากขึ้นในอิตาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทที่มีการเลี้ยงแกะอย่างแพร่หลาย อารามหลายแห่ง และฟาร์มต่างๆ เริ่มปรับปรุงเทคนิคการทำ Ricotta ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น จากนั้น Ricotta ก็เริ่มมีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายทั้งในกลุ่มชาวนา และขุนนาง
วิธีการทำ Ricotta แบบดั้งเดิม คือการอุ่นเวย์ที่เหลือจากการผลิตชีสด้วยอุณหภูมิสูง จากนั้นเติมกรดซึ่งมักอยู่ในรูปของน้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาวลงไป เพื่อให้โปรตีนที่เหลือจับตัวเป็นก้อน และก่อตัวเป็นนมเปรี้ยว จากนั้นจึงกรองนมเปรี้ยวออกเหลือเพียง Ricotta เท่านั้น
ความหลากหลายในยุคเรอเนซองส์ และการใช้งานในอาหารอิตาเลียน
ยุคเรอเนซองส์ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Ricotta เนื่องจากแนวทางการทำอาหารได้รับการพัฒนา และ Ricotta ก็เริ่มแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของยุโรป โดยแต่ละพื้นที่ก็จะมีการใช้ส่วนผสมที่แตกต่างกันส่งผลให้ Ricotta มีเวอร์ชันที่หลากหลาย เช่น สูตรที่ทำจากนมวัว นมแพะ และนมควาย โดยแต่ละชนิดจะมีรสชาติที่แตกต่างกัน
ตลอดหลายศตวรรษ Ricotta ยังคงเป็นส่วนผสมที่สำคัญในอาหารอิตาเลียน โดยทางตอนใต้ของอิตาลีมักจะนำไปใช้ในอาหารคาว เช่น ลาซานญ่า (Lasagna), ราวีโอลี่ (Ravioli) และคานเนลโลนี (Cannelloni) ขณะที่ในซิซิลี Ricotta มักจะถูกนำไปใช้ในเมนูอาหารหวาน เช่น คันโนลี (Cannoli), คาสซาตา (Cassata) ทาลงบนขนมปัง และชีสเค้ก
ประโยชน์ต่อสุขภาพและการแพร่หลายทั่วโลก
Ricotta ไม่เพียงแต่อร่อยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เป็นแหล่ง โปรตีนคุณภาพสูง ซึ่งจำเป็นต่อการซ่อมแซม และการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ มี แคลเซียม ที่จำเป็นต่อสุขภาพกระดูก และสารอาหารที่สำคัญอื่นๆ เช่น วิตามินเอ และไรโบฟลาวิน นอกจากนี้ Ricotta ยังมีไขมัน และแคลอรี่ต่ำเมื่อเทียบกับชีสชนิดอื่นๆ
ในช่วง ศตวรรษที่ 20 ถือเป็นช่วงที่เทคโนโลยีการผลิต Ricotta และการขนส่งมีความก้าวหน้าอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ Ricotta จึงได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ผู้อพยพชาวอิตาลีนำประเพณีการทำอาหารของพวกเขาไปเผยแพร่ ปัจจุบัน Ricotta จึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก