แชร์

Hendrick's Gin (เฮนดริก จิน)

เมื่อพูดถึงเครื่องดื่มของสกอตแลนด์ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับสกอชต์วิสกี้ แต่รู้หรือไม่ว่าในประเทศนี้ก็มีการผลิตจินรสชาติพรีเมียมอย่าง Hendrick's Gin (เฮนดริก จิน) อยู่ด้วย โดยจินชนิดนี้กลั่นจากโรงกลั่นเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของสกอตแลนด์มาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 วันนี้ Rimping Supermarket จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวของจินที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครขวดนี้กันค่ะ

จุดเริ่มต้น : จากมรดกวิสกี้ สู่การค้นพบเครื่องกลั่นโบราณ (ค.ศ. 1886 - 1966)

เรื่องราวของ Hendrick's Gin เริ่มต้นจาก William Grant & Sons โรงกลั่นวิสกี้เก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นโดย William Grant ในปี 1886 เดิมทีโรงกลั่นแห่งนี้ผลิต Single Malt Whisky ชื่อดังอย่าง Glenfiddich ออกมาจำหน่าย จนกลายเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดของ Scotch Whisky

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 1966 Charles Gordon (ชาร์ลส์ กอร์ดอน) ลูกเขยของ William (หนึ่งในผู้บริหารที่ภายหลังได้รับเกียรติให้เป็นประธานบริษัท) ได้ไปประมูลเครื่องกลั่นทองแดงที่หายากมาได้สองเครื่อง คือ Bennett Still รุ่นปี 1860 และ Carter-Head Still รุ่นปี 1943

หลังจากประมูลมาได้ เขาก็ยังคิดไม่ตกว่าจะนำเครื่องกลั่นทั้งสองเครื่องนี้มาทำอะไรดี จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบ 10 ปี ขณะนั้นจินเริ่มได้รับความนิยมทั่วเกาะอังกฤษ ดังนั้นบริษัทจึงผลิตจินออกมาจำหน่าย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีคู่แข่งอยู่จำนวนมาก

การสร้างสรรค์จินที่แตกต่าง: กุหลาบบัลแกเรียและแตงกวา (ค.ศ. 1999)

Charles Gordon กลับมาคิดทบทวนอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรดีให้จินของพวกเขาโดดเด่น และแตกต่างจากคู่แข่ง แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเคยซื้อเครื่องกลั่นหายากมาเก็บไว้ ดังนั้นเขาจึงเกิดไอเดียนำเครื่องกลั่นเหล่านั้นมาผลิตจิน

หลังจากได้ไอเดีย เขาก็เชิญชวน Lesley Gracie (เลสลีย์ เกรซี่) นักเคมีสาวผู้สนใจเรื่องพฤกษศาสตร์ และ David Stewart (เดวิด สจ๊วร์ต) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจินมาร่วมทีม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ พวกเขาทดลองสูตรอยู่หลายปี จนในปี 1999 พวกเขาก็เปิดตัว Hendrick's Gin ออกสู่ตลาด และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่ทำให้ Hendrick's Gin แตกต่างจากคู่แข่ง คือ กระบวนการกลั่นที่เป็นเอกลักษณ์ โดยใช้เครื่องกลั่นทองแดงหายากสองเครื่องที่ Charles Gordon เคยซื้อมา และใช้วิธีการผลิตแบบ Hand-Crafted จำกัดจำนวนการผลิต Batch ละ 500 ลิตรเท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยมาก เพราะเป็นปริมาณที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เนื่องจากผู้ผลิตต้องการควบคุมคุณภาพ

นอกจากเทคนิคที่แตกต่างแล้ว ส่วนผสมของ Hendrick's Gin ก็แตกต่างจากจินชนิดอื่นๆ ด้วย โดยใช้พฤกษศาสตร์แบบดั้งเดิมที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน 11 ชนิด แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ Hendrick's Gin โดดเด่นอย่างแท้จริง ก็คือการผสม กุหลาบบัลแกเรีย (Bulgarian Rose) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกุหลาบที่มีกลิ่นหอมที่สุด และ แตงกวา (Cucumber) ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษลงไปด้วย ส่วนผสมทั้งสองอย่างนี้ทำให้ Hendrick's Gin มีกลิ่นหอมดอกไม้ และมีความสดชื่นอันเป็นเอกลักษณ์

การนำดอกกุหลาบบัลแกเรีย และแตงกวามาเป็นส่วนผสม เกิดจากแนวคิดของ David Stewart เรื่องราวเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งในฤดูร้อน ขณะที่ David กำลังนั่งดื่มจินในสวนของเขา พร้อมกับทานแซนด์วิชแตงกวา และชื่นชมดอกกุหลาบ จู่ๆ เขาก็ครุ่นคิดออกมาว่าจินที่มีแตงกวา และกุหลาบจะมีรสชาติเป็นอย่างไร ในวันรุ่งขึ้นเขาจึงนำเสนอแนวคิดนี้ให้กับทีมงาน สิ่งนี้จึงนำไปสู่การผลิต Hendrick's Gin ที่มีเอกลักษณ์นั่นเอง

ชื่อ ขวด และความสำเร็จระดับโลก (ค.ศ. 1999 - ปัจจุบัน)

ชื่อ Hendrick's Gin ถูกตั้ง โดย Janet Roberts (เจเน็ต โรเบิร์ตส์) หลานสาวของ William Grant ที่เป็นหนึ่งในผู้บริหาร โดยขณะนั้นในที่ประชุมให้เสนอชื่อขึ้นมา Janet จึงเสนอชื่อ Hendrick ซึ่งเป็นชื่อคนสวนที่ดูแลสวนกุหลาบ เนื่องจากเธอมองว่าชื่อนี้สะท้อนถึงตัวตน และเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้ในสวนอังกฤษได้เป็นอย่างดี

นอกจากความโดดเด่นดังกล่าวแล้ว ขวดของ Hendrick's Gin ก็ถูกออกแบบมาให้แตกต่างด้วยเช่นกัน โดยแบรนด์เลือกใช้ ขวดสีทึบที่มีลักษณะคล้ายขวดยายุควิกตอเรียน ซึ่งขวดรูปแบบนี้ทำให้ Hendrick's Gin มีความหรูหรามากขึ้น อีกทั้งยังเป็นต้นแบบให้จินแบรนด์อื่นๆ เริ่มหันมาใช้ขวดสีทึบในลักษณะเดียวกันอีกด้วย

นับตั้งแต่เปิดตัว Hendrick's Gin ได้รับรางวัลและเกียรติคุณมากมาย ส่งผลให้บริษัทมีชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตจินระดับโลก โดยได้รับการยกย่องอย่างสูงจากนักวิจารณ์ และผู้เชี่ยวชาญเครื่องดื่มในเรื่องคุณภาพที่โดดเด่น และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

ความสำเร็จของ Hendrick's Gin เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังแห่งนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมสุรา ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นหลายรุ่น เช่น Midsummer Solstice, Orbium Gin และ Lunar Gins

นอกจาก Gin แล้ว บริษัทยังเปิดตัว Quinetum ซึ่งเป็นควินินที่ผลิตขึ้นมา เพื่อบาร์เทนเดอร์โดยเฉพาะอีกด้วย เพื่อให้พวกเขานำไปใช้เป็นส่วนผสมในการทำค็อกเทล

แม้ว่า Hendrick's Gin จะมีต้นกำเนิดได้ไม่นาน แต่บริษัทยังคงยึดมั่นในด้านการผลิตที่มีคุณภาพตามหลักปรัชญาของ William Grant ที่มีมานานกว่า 138 ปี ทำให้ทุกวันนี้ Hendrick's Gin ยังคงเป็นหนึ่งในจินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยมีวางจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก


บทความที่เกี่ยวข้อง
Wheat Beer (วีทเบียร์)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ Wheat Beer (วีทเบียร์)
Jägermeister (เยเกอร์ไมสเตอร์)
ทำความรู้จัก Jägermeister (เยเกอร์ไมสเตอร์) ลิเคียวสมุนไพรจากประเทศเยอรมนี และตำนานของ Saint Hubertus อันเป็นที่มาของชื่อแบรนด์และตราสัญลักษณ์รูปกวางและไม้กางเขน
Southern Comfort (เซาเทิร์น คอมฟอร์ท)
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ Southern Comfort (เซาเทิร์น คอมฟอร์ท) วิสกี้รสนุ่มนวลเคล้ากลิ่นผลไม้จากเมืองนิวออร์ลีนส์ สหรัฐอเมริกา
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ